HomeBT Newsเงินบาท (22 ธ.ค.) เปิดแข็งค่า 34.68 บาท จับตาเศรษฐกิจโลกถดถอย ฉุดส่งออกไทย

เงินบาท (22 ธ.ค.) เปิดแข็งค่า 34.68 บาท จับตาเศรษฐกิจโลกถดถอย ฉุดส่งออกไทย

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 22 ธ.ค.65 ที่ระดับ 34.68 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.75 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ต่อเนื่อง หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบริษัทใหญ่ อย่าง Nike (+12.2%) ที่ออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด อย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดย Conference Board ในเดือนธันวาคม ก็ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 108.3 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาดไปมาก หลังผู้บริโภคในฝั่งสหรัฐฯ เริ่มคลายกังวลปัญหาเงินเฟ้อสูง อีกทั้งตลาดแรงงานสหรัฐฯ ก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดต่างกลับเข้ามาซื้อหุ้นสหรัฐฯ หลังจากที่มีการปรับฐานมาพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นราว +1.49%

ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป พุ่งขึ้นราว +1.71% หนุนโดยความหวังของผู้เล่นในตลาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ตลาดเคยกังวล หลังจากที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนี (Gfk Consumer Climate) ในเดือนธันวาคม ได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -37.8 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรป จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยตามอานิสงส์ของผลประกอบการบริษัท Nike สหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด

- Advertisement -

ในส่วนตลาดบอนด์นั้น บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เริ่มเคลื่อนไหวในกรอบใกล้ระดับ 3.70% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากผลกระทบของความกังวลแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายน้อยลงของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งอาจมองได้ว่า ผู้เล่นบางส่วนอาจยังคงมีความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจหลักชะลอตัวลงหนักและรอจังหวะให้บอนด์ยีลด์ระยะยาวปรับตัวสูงขึ้นบ้าง ก่อนที่จะทยอยเข้าซื้อสะสมและเพิ่มสถานะการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยให้มากขึ้น

ส่วนในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 104.2 จุด หนุนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ แรงขายทำกำไรการแข็งค่าของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ก็ส่งผลให้ เงินเยนอ่อนค่าลงเล็กน้อยสู่ระดับ 132.4 เยนต่อดอลลาร์ (หลังจากที่ได้แข็งค่าไปใกล้ระดับ 131 เยนต่อดอลลาร์)

ทั้งนี้ การปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ท่ามกลางภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน ได้ส่งผลให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งใกล้กับโซนแนวต้าน ทำให้เรามองว่า ผู้เล่นบางส่วนอาจใช้จังหวะที่ราคาทองคำแกว่งตัวใกล้แนวต้านในการขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำเกิดขึ้นนั้น อาจช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้บ้าง

สำหรับวันนี้ ในฝั่งไทย ตลาดคาดว่า ผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะทำให้ยอดการส่งออก (Exports) ในเดือนพฤศจิกายน อาจหดตัวต่อเนื่อง -5%y/y ในขณะที่ยอดการนำเข้า (Imports) อาจยังขยายตัวราว +0.6%y/y ทำให้ดุลการค้า (Trade Balance) อาจขาดดุลราว -100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา อาจพอได้แรงหนุนจากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า เงินดอลลาร์ก็เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง (ดัชนี DXY ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 104 จุด) ทำให้ประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบต่อ (sideways) และอาจไม่ได้แข็งค่าต่อเนื่องไปมาก หากเงินดอลลาร์ก็ไม่กลับมาอ่อนค่าลงชัดเจนเหมือนช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการขายทำกำไรบอนด์ระยะสั้นจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นการขายทำกำไรสถานะ Short USDTHB (มองว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น) ทำให้คงมุมมองเดิมว่าแนวรับเงินบาทจะยังอยู่ในโซน 34.50-34.60 บาทต่อดอลลาร์ และควรระวังความผันผวนในฝั่งอ่อนค่าที่อาจเกิดขึ้นในวันนี้ หากรายงานข้อมูลยอดการส่งออกของไทยนั้นออกมาหดตัวมากกว่าคาด จนทำให้ดุลการค้าอาจขาดดุลมากกว่าคาดได้

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News