ตลาดหุ้นที่พุ่งแรงและการทำ ไอพีโอ แจ้งเกิดเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ในจีน ขณะธุรกิจดูแลสุขภาพมาแรง ดันประธานบริษัทผลิตหน้ากากอนามัย มั่งคั่งขึ้น 11 เท่า
Hurun China Rich List 2020 เปิดเผยรายชื่อเศรษฐีพันล้านจีนจากการคำนวณสินทรัพย์ล่าสุดนับถึงเดือนส.ค. ซึ่งปรากฎว่าตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้น ประกอบกับการนำหุ้นออกจำหน่ายต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) หลายระลอก ก่อให้เกิดเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ในจีนจำนวนมาก
สินทรัพย์รวมกันของมหาเศรษฐีที่อยู่ในรายชื่อของ Hurun อยู่ที่ 4 ล้านล้านดอลลาร์ และสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์นั้น นับว่ามากกว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมารวมกัน
จากรายชื่อปรากฏว่า แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ยังครองตำแหน่งผู้มั่งคั่งที่สุดของจีนเป็นปีที่ 3 ติดกัน ด้วยสินทรัพย์ส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น 45% เป็น 58,800 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,800,000 ล้านบาท) ส่วนหนึ่งสืบเนื่องจากการเตรียมนำยักษ์ใหญ่ฟินเทค Ant Group ทำไอพีโอ ซึ่งคาดว่าจะแจ้งเกิดเศรษฐีอีกจำนวนมาก เพราะมีแนวโน้มจะเป็นการทำไอพีโอครั้งใหญ่สุดในโลก ด้วยแผนการระดมทุน 35,000 ล้านดอลลาร์ ผ่านการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง โดยล่าสุดมีข่าวว่าบริษัทได้รับการอนุมัติจากผู้กำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน สำหรับการจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง
ผู้ครองตำแหน่งมั่งคั่งอันดับ 2 คือโพนี่ หม่า แห่งเทนเซนต์ ยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียและเกม ซึ่งสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 50% เป็น 57,400 ล้านดอลลาร์
ส่วน Zhong Shanshan ซึ่งเพิ่งนำบริษัทน้ำดื่มบรรจุขวด หนงฟูสปริง เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทะยานขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 3 ด้วยสินทรัพย์ 53,700 ล้านดอลลาร์ ตามด้วย Wang Wei ผู้ก่อตั้ง SF Express ซึ่งเป็นบริษัทเดลิเวอรีและโลจิสติก ขณะที่ Qin Yinglin แห่งบริษัท Muyuan ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับหมู อยู่อันดับ 10
ด้าน Wang Xing ซีอีโอของบริษัท Meituan มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 4 เท่าเป็น 25,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากครองส่วนแบ่งตลาดเดลิเวอรีอาหาร ขณะที่ He Xiaopeng ผู้ก่อตั้งบริษัทรถพลังไฟฟ้า Xpeng Motors มีสินทรัพย์พุ่งขึ้น 80% เป็น 6,600 ล้านดอลลาร์ หลังจากนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ทั้งนี้ จีนเร่งปฏิรูปตลาดทุนเพื่อประคองเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยผู้กำกับดูแลกฎระเบียบรองรับการทำไอพีโอด้วยการเปิดกระดานหุ้น STAR Market ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และกระดานหุ้น ChiNext ในตลาดเซินเจิ้น ที่มีลักษณะคล้ายตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐ เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกัน การเข้าจดทะเบียนของบริษัทจีนในตลาดหุ้นฮ่องกงและ Nasdaq ก็ทำให้บรรดาผู้ก่อตั้งบริษัทมั่งคั่งขึ้นทันตา
นอกจากนั้น ที่น่าสังเกตคือ ธุรกิจดูแลสุขภาพแซงหน้าอสังหาริมทรัพย์ ขึ้นเป็นธุรกิจที่สร้างความมั่งคั่งอันดับ 2 รองจากอุตสาหกรรมการผลิต สืบเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน การผลิตอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ ที่พุ่งขึ้นอย่างมาก อันหนุนนำให้ Li Jianquan ประธานบริษัทผลิตหน้ากากอนามัย Winner มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 11 เท่าเป็น 5,600 ล้านดอลลาร์ จนกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุด
ส่วน Jiang Rensheng แห่งบริษัท Chongqing Zhifei Biological Products มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็น 19,900 ล้านดอลลาร์ หลังจากผู้ดูแลกฎระเบียบด้านยาของจีนอนุมัติให้ทดลองวัคซีนโควิด-19 ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมา
ด้าน An Kang ประธานบริษัทผลิตยาแอนตี้บอดี้ Hualan มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเป็น 7,600 ล้านดอลลาร์
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าแม้การค้าระหว่างประเทศได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แต่การส่งออกอุปกรณ์การแพทย์ของจีนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นธุรกิจที่สดใส
ทั้งนี้ รายชื่อดังกล่าวสะท้อนให้เห็นการปรับตัวของจีน จากภาคอุตสาหกรรมดั้งเดิมไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ อย่างอี-คอมเมิร์ซ ฟินเทค และการดูแลสุขภาพ ขณะที่ Hurun ระบุว่าบรรดาเจ้าของกิจการในจีนทำได้ดีเกินความคาดหมายทั้งที่เกิดโรคระบาด
อ่าน : แอนท์กรุ๊ปกำไรพุ่ง หลังประกาศเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้น
อ่าน : ไอพีโอดันผู้ก่อตั้ง”หนงฟูสปริง” ติดอันดับเศรษฐีจีนอันดับ 3
