HomeBT NewsMCOT Change สู่ “นิว แพลตฟอร์ม”

MCOT Change สู่ “นิว แพลตฟอร์ม”

สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท.เดิม หรือช่อง 30 MCOT HD ในปัจจุบัน ถือเป็นสื่อของรัฐ ที่แปลงสภาพเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ต้องทำธุรกิจแข่งขันกับเอกชน ประกอบกับที่ผ่านมามีการเมืองเข้าแทรกแซงโดยตลอด จนได้ชื่อว่าเป็น “แดนสนธยา”

ปัจจุบัน บมจ.อสมท มี เขมทัตต์ พลเดช เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ที่เข้าบริหารงานในช่วงที่องค์กรมีปัญหามากที่สุด โดยมีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2559 – 2561 จากวิกฤติของสื่อโทรทัศน์ดิจิทัล (ทีวีดิจิทัล) จนเดือนเม.ย.2562 คำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 4/2562 เข้ามาแก้ปัญหาด้วยการให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลสามารถคืนใบอนุญาต และได้รับเงินชดเชย ทำให้ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา อสมท.กลับมามีกำไร 287 ล้านบาท พร้อมกับคืนช่อง 14 MCOT FAMILY จึงเหลือช่อง 30 MCOT HD ธุรกิจวิทยุ ธุรกิจสัมปทานช่อง 3 และทรูวิชั่นส์ และสื่อใหม่

สำหรับรายได้รวมของอสมทในไตรมาส 2 มีรายได้รวมจำนวน 1,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยรายได้ในส่วนธุรกิจโทรทัศน์ลดลง 15% เนื่องจากทั้งภาครัฐและเอกชนชะลอการใช้เงิน ขณะที่ธุรกิจวิทยุ มีรายได้ 171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% และธุรกิจสื่อดิจิทัลที่ยังมีรายได้ไม่ชัดเจน เนื่องจากอยู่ระหว่างการพัฒนาและต่อยอดจากทรัพยากรที่มีอยู่ โดยการสร้างรายได้จะมาจากการนำเนื้อหารายการที่บริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มต่างๆ ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น

- Advertisement -

ในช่วงไตรมาส 3 ช่อง 30 MCOT HD ได้ทยอยปรับผังรายการ เพื่อให้สอดรับกับการคืนช่อง 14 MCOT FAMILY จะมีการเปลี่ยนแปลงรายการใหม่ๆ เช่น รายการ “แม็กซ์มวยไทย” คอนเทนต์มวยไทยระดับพรีเมียม ที่นำมาออกอากาศ 5 วันเต็ม ทุกวันอาทิตย์ถึงพฤหัสบดี รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ของ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ที่หลุดผังมาจากช่อง 22 เนชั่น ทีวี ทำให้ในแง่รายการเชิงข่าว ช่อง MCOT HD จะมีอินฟูลเอนเซอร์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

“จากนี้ไปอสมท.จะต้องเปลี่ยนตัวเอง โดยช่วงต้นเดือนต.ค.นี้ บริษัทจะประกาศวิสัยทัศน์ MCOT Change เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่” เขมทัตต์กล่าว

โมเดลธุรกิจใหม่ของอสมท.ประกอบด้วย

  1. สื่อหลัก ได้แก่ ช่อง 30 MCOT HD, วิทยุ 9 สถานีหลักในกรุงเทพฯ และวิทยุในต่างจังหวัด 53 สถานี
  2. ธุรกิจฐานข้อมูล (Data Information) ต้องขยายเพิ่มขึ้น เพราะเป็นแนวโน้มใหม่ของธุรกิจสื่อ เช่น รายการชัวร์ก่อนแชร์ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาคอนเทนต์เพื่อนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ
  3. การบริหารสินทรัพย์ ที่ดิน 50 ไร่ มูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท

เขมทัตต์ กล่าวว่า อสมทจะต้องปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จะต้องปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปสู่สื่อใหม่ๆ ตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ ในอนาคตธุรกิจฐานข้อมูลจะเติบโตขึ้น ขณะที่ธุรกิจทีวีเดิมจะคงอยู่แต่ต้องปรับรูปแบบในการหารายได้ เพราะพึ่งพารายได้จากโฆษณาไม่เพียงพออีกต่อไป ต้องคิดสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาเป็นช่องทางในการหารายได้เพิ่มขึ้น

ก่อนหน้านี้ อสมทได้ทดลองทำแพลตฟอร์มสื่อใหม่ “WHAM” เป็น Music and Pop Culture Digital Platform เป็นความร่วมมือของ 3 พันธมิตร ได้แก่ MCOT ผู้บริหารแพลตฟอร์ม สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่สนับสนุนเทคโนโลยีและการบริหารจัดการข้อมูล (Data Analytics) และกลุ่มสมาพันธ์ดนตรี ค่ายเพลงอิสระ เช่น LOVEis, Spicy Disc, What da Duck, Warner Music (Thailand) รวมทั้งมหาวิทยาลัยดนตรีชั้นนำของประเทศ ซึ่งต้องดูผลตอบรับอีกครั้งหนึ่ง

ปัจจุบัน ตลาด Digital Music และ Music Streming มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด

ปัจจุบันมีคนไทยที่ฟังเพลงบนช่องทางออนไลน์มากกว่า 10 ล้านคน และรับชม MV ใหม่ๆ ในโลกโซเชี่ยลมากกว่า 100 ล้านวิวต่อปี

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่สื่อใหม่ ๆ อสมทต้องปรับโครงสร้างภายใน โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากร ให้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ด้วยการฝึกฝน ฝึกอบรม เรียนรู้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต้องก้าวตามให้ทัน เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ๆ เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอให้สอดรับกับความต้องการของคนหลากหลายกลุ่ม เพราะการพัฒนาคอนเทนต์ในปัจจุบันสามารถทำได้หลายมิติ ด้วยแพลตฟอร์มของสื่อที่มีความหลากหลายมากขึ้นนายเขมทัตต์ กล่าวว่า สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้าย ต้องรอลุ้นสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งยังมีความผันผวน ทำให้มีการชะลอใช้เม็ดเงินโฆษณา

ขณะเดียวกันสินค้าหลายกลุ่มหันไปใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น เช่น รถยนต์ ขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ขณะที่แนวโน้มปี 2563 เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่อง จากปัญหาต่างๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ราคาน้ำมันในตลาดที่ยังคงไม่นิ่ง ส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตของจีดีพีแต่ละประเทศชะลอตัว ซึ่งการใช้งบโฆษณายังอ้างอิงกับตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมตัว คือรายได้จากค่าสัปทานของช่อง 3 และทรูวิชั่นส์ จะหมดในปี 2563 แน่นอนว่ารายได้ส่วนนี้ เป็นหนึ่งในรายได้หลักของอสมทที่จะต้องหายไปในปีหน้า ถือว่าอสมทยังต้องเผชิญกับความยากลำบากของอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ต่อไปอีกหนึ่งปี พร้อมๆ กับวาระตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ เขมทัตต์ พลเดช จะหมดลงเช่นเดียวกัน อสมทจะฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ต้องติดตามต่อไป

เรื่องโดย: เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News