เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น เตรียมตั้งตัวแทนบริษัทฯ เจรจาธนาคารไทยพาณิชย์ เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงิน และการบริหารจัดการหนี้ของบริษัทฯ หลังมีหนี้ค้างชำระกว่า 2 หมื่นล้านบาท
บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีมติรับทราบว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย ได้รับหนังสือบอกกล่าวให้ชำระหนี้จากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 62 โดยเรียกให้บริษัทฯ ชำระหนี้ ที่ถึงกำหนดภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าว ซึ่งตรงกับวันที่ 2 พ.ย. 62 นั้น เป็นวันหยุดทำการ โดยวันครบกำหนดชำระหนี้จะเลื่อนไปเป็นวันทำการถัดไป คือวันที่ 4 พ.ย. 62
ดังนั้น เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบข้อมูลของบริษัทฯ และแนวทางการแก้ไขปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าวต่อนักลงทุนทั่วไป ตามที่กำหนดในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการเกี่ยวกับการเปิดเผยสารสนเทศและการปฏิบัติการใด ๆ ของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งฉบับแก้ไขเพิ่มเติม บริษัทฯ จึงแจ้งสารสนเทศเกี่ยวกับกรณีผิดนัดชำระหนี้ ณ วันที่ 18 ต.ค. 62 จำนวน 2.6 พันล้านบาท ดังต่อไปนี้
บริษัทฯ ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาสินเชื่อหมุนเวียนซึ่งมีตั๋วสัญญาใช้เงินประกอบ (P/N) มีวงเงินสินเชื่อ 1.2 พันล้านบาท ฉบับลงวันที่ 2 ต.ค. 60 และสัญญาสินเชื่อหมุนเวียนซึ่งมีตั๋วสัญญาใช้เงิน ประกอบ (P/N) มีวงเงินสินเชื่อ 1.8 พันล้านบาท และ 13.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็น 4.4 ร้อยล้านบาท) เนื่องจากไม่สามารถชำระเงินต้น หรือดอกเบี้ยของวงเงินสินเชื่อตามจำนวนที่ระบุไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงินตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงิน
ทั้งนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยยังมีหนี้สินรวมทั้งหมด ณ วันที่ 30 มิ.ย. 62 เป็นเงินทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านบาท โดยสามารถแบ่งรายการที่มีสาระสำคัญดังนี้
1.เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 2.7 พันล้านบาท
2.เงินรับล่วงหน้าและเงินมัดจำรับจากลูกค้า 3.1 พันล้านบาท
3.หนี้สินหมุนเวียนและไม่หมุนเวียนอื่น 9.5 ร้อยล้านบาท
4.หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย 1.3 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการปรึกษาและเจรจากับธนาคารในการจัดทำแผนการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ของบริษัทฯ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพต่อไป และเพื่อหาแนวทาง ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติและรักษามูลค่าทางธุรกิจของบริษัทฯไว้ รวมถึงคงไว้ซึ่งระดับความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ
ขณะเดียวกัน หากแผนการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงิน และการบริหารจัดการหนี้ของบริษัทฯ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี จะทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จได้
การรับผิดชอบในการชำระหนี้ของบริษัทฯ กับธนาคาร อาจจะส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินและความสามารถในการชำ ระหนี้ของบริษัทฯ เนื่องจากหนี้จำนวนดังกล่าวที่บริษัทฯ ต้องชำระคืนมีมูลค่าสูง แต่หลังจากแผนการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ของบริษัทฯ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี อาจส่งผลให้การดำเนินการก่อสร้างโครงการ อสังหาริมทรัพย์ที่หยุดการก่อสร้างมาเป็นเวลาพอสมควร จะสามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จได้โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบ ต่อการดำเนินธุรกิจในส่วนที่เกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีมติอนุมัติให้กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ เป็นผู้แทนของบริษัทฯ ในการเจรจา และทำความตกลงต่าง ๆ กับธนาคาร เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงิน และการบริหาร จัดการหนี้ของบริษัทฯ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม ซึ่งรวมถึงการเจรจาต่อรอง การเข้าทำสัญญาต่าง ๆ หรือการดำเนินการ ตามกระบวนการทางกฎหมายต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ของบริษัทฯ รวมทั้งให้มีอำนาจในการจัดทำลงนาม และแก้ไขเอกสาร หรือสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นเพื่อให้การปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ของบริษัทฯ เสร็จสิ้นสมบูรณ์