“ศาลอาญาคดีทุจริตฯ” ยกฟ้อง “กนกวรรณ” คดีรุกป่า”
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 2 ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง สุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์อดีต รมช.ศึกษาธิการ พร้อมพวก 8 ราย ได้เดินทางมารับฟังคำตัดสิน คดีถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงปี 2545 ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด

โดยจำเลยทั้งหมดถูกนำตัวไปที่หัองพิจารณาคดี ชั้น 2 หลังจากที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายสุนทร พร้อมด้วยนางกนกพร บุตรสาว และพวก 8 คน ได้เดินออกมาจากห้องพิจารณา ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า แล้วขับรถออกมาทันที
สุนทรให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า ศาลได้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด 10 คน รู้สึกดีใจที่ได้รับความยุติธรรม เพราะซื้อที่ดินมาด้วยความถูกต้องตามกระบวนการมีการตรวจสอบตามขั้นตอน
สภาฯได้ข้อสรุปประธาน กมธ.35 คณะ “เพื่อไทย”ได้ ป.ป.ช.
พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมแต่ละพรรคการเมืองเพื่อหารือถึงจัดสรรโควตาประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทั้ง35คณะ ซึ่งใช้เวลาหารือเจรจากว่า3ชั่วโมงว่า จากการหารือที่เป็นเวลานานมาก แต่ละพรรคได้ข้อสรุปว่าถอยคนละก้าว และจบด้วยดี โดยในวันที่ 27 ก.ย.นี้ทุกพรรคจะเสนอรายชื่อเข้ากมธ. 35 คณะ และในวันที่ 28 ก.ย.จะเป็นการประชุมนัดแรกเพื่อเลือกตำแหน่งอื่นๆให้ครบทุกตำแหน่ง

ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ทางพรรคเพื่อไทยได้ไป ขณะที่คณะกรรมาธิการการแรงงาน เป็นของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทั้ง 5 คณะที่พรรคภูมิใจไทยต้องการ อาทิ กมธ.แรงงาน ก็ถือว่าตามที่ต้องการ
เมื่อถามต่อว่าพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานกมธ.ครบทั้ง 11 คณะใช่หรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ได้ 11 คณะตามสัดส่วนของสส.ปัจจุบัน เพราะทางสส.ระยอง พรรคก้าวไกล ได้มารายงานตัวแล้ว
ปิดทาง “อุทธรณ์” ศาลชี้คดี “ช่อ”สิ้นสุดแล้ว
สรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่า คดีของ ‘ช่อ พรรณิการ์’ พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และอดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ภายหลังถูกศาลพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงนั้น เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไป

โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า โดยคดีที่กล่าวหากระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงนั้น เมื่อมีการฟ้องคดีต่อศาลฎีกา และศาลฎีกามีคำวินิจฉัยใดแล้วผลนั้นถือเป็นอันสิ้นสุดตามกฎหมาย ยื่นอุทธรณ์ไม่ได้
“โรม”ผิดหวังแรง “ช่อ”ถูกประหารชีวิตทางการเมือง
รังสิมันต์ โรม รักษาการโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาพิพากษา คดีพรรณิการ์ วานิชอดีต ส.สและโฆษกพรรค ถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ว่า นี่คือโทษประหารชีวิตทางการเมือง ยากที่จะรับได้ ผิดหวังในกระบวนการยุติธรรม
ต้องบอกว่านี่คือโทษประหารชีวิตทางการเมือง เป็นเรื่องที่ยากที่จะรับได้ คิดว่ารุนแรงมากถึงขนาดตนผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก ๆ หากมีการตัดสินว่ามีพฤติกรรมบางอย่างผิดประมวลกฎหมายอาญามาตราใดก็แล้วแต่ แล้วมาดำเนินคดีจริยธรรมต่อก็ยังพอเข้าใจได้ แต่กรณีนี้กลับไม่มีข้อเท็จจริงเหล่านั้นเลย

จึงคิดว่าการดำเนินคดีกับ พรรณิการ์ กฎหมายก็เขียนกว้างๆเราไม่รู้ว่าการลบโพสต์แล้วคือการงดเว้นหรือไม่
โดยปกติกฎหมายต้องมีความชัดเจนแน่นอนว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำอะไร คือสิ่งที่ไม่ควรทำ การอาศัยมาตรฐานทางจริยธรรมแล้ววางกรอบกว้างๆ แล้วทำให้คดีมีผลรุนแรงขนาดนี้ คิดว่ายากเกินที่จะรับไหว อยากจะเรียกร้องไปถึงคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ว่าอย่านิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ แม้คนที่ไม่เห็นด้วยกับ น.ส.พรรณิการ์ หลายอย่างก็ยังออกมาแสดงความคิดเห็น ว่าเป็นสิ่งที่อยากจะรับไหว ซึ่งก็เคยร้องไปยังคณะกรรมการศาลยุติธรรมว่ามีผู้พิพากษาทำผิดพฤติกรรมร้ายแรง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่คืบหน้า
“สุทิน” ตั้ง ผบ.ทบ.รักษาการก่อนสิ้นปีงบประมาณ
สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้ลงนามในคำสั่ง กระทรวงกลาโหม เรื่องแต่งตั้งผู้รักษาราชการ อาศัยอำนาจตามข้อบังคับ กระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการบรรจุ ปลด ย้าย เลื่อน และลดตำแหน่งข้าราชการกลาโหม พ.ศ.2502 หมวด 2 ข้อ 7 และข้อบังคับ กระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการสั่งการแลพประชาสัมพันธ์ พ.ศ.2527 ข้อ 13 และข้อ 15
แต่งตั้งให้ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ. รักษาการ ผบ.ทบ. อีกตำแหน่งหนึ่ง มีผลตั้งแต่ 12 ก.ย.66 ถึง 30 ก.ย.66

ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กองบัญชาการกองทัพบก มีพิธีส่งมอบหน้าที่ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระหว่าง พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ กับ พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ โดยงดสื่อมวลชนถ่ายภาพ พร้อมทั้งปรับพิธีให้สั้นกระชับ เหลือแค่การลงนามเอกสาร และพิธีรับมอบการบังคับบัญชา ไม่มีการสวนสนามของหน่วยรบจากที่เคยเตรียมการไว้