นายกฯ หารือทวิภาคี ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือในทุกมิติ
วานนี้ (20 ก.ย. 66) เวลา 17.00 น. นายยุน ซ็อก ย็อล (Mr. Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี เข้าพบหารือทวิภาคี กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.กค. ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 78 (UNGA78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่:
- ด้านการเมือง: นายกรัฐมนตรีผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอและเชิญประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีและภริยาเดินทางเยือนไทย
- ด้านเศรษฐกิจ: ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเร่งรัดผลักดันการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Economic Partnership Agreement: EPA) และได้หารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในสาขาต่าง ๆ เช่น ซอฟต์พาวเวอร์ อวกาศ พลังงานนิวเคลียร์ สตาร์ทอัพ ยานยนต์ไฟฟ้า ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา
- ด้านการลงทุน: เชิญชวนให้นักลงทุนเกาหลีเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยรัฐบาลพร้อมช่วยอำนวยความสะดวกการลงทุน
- ด้านการท่องเที่ยว: เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น
นายกฯ ย้ำความเป็น “พันธมิตร” เกือบ 2 ศตวรรษไทย-สหรัฐฯ เดินหน้าเปิดกว้างเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 66 เวลา 19.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) ณ โรงแรม St. Regis นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.กค. กล่าวปาฐกถาในงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner)

โดยสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (U.S.-ASEAN business Council: USABC) และหอการค้าสหรัฐฯ (U.S. Chamber of Commerce: USCC) ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี
โดยนายกฯ ได้กล่าวขอบคุณสำหรับงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติ ถือเป็นวาระสำคัญอันหนึ่งของการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในครั้งนี้ การเข้าร่วมงานของแขกทุกคนในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจ และความสำคัญที่ภาคเอกชนสหรัฐฯ มีต่อประเทศไทย
นายกฯ หวังว่างานในวันนี้จะเป็น “พื้นฐาน (platform)” ในการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือใหม่ ๆ ที่เชื่อมโยงประเทศและเศรษฐกิจของเราเข้าด้วยกัน ไทยและสหรัฐฯ ถือเป็นหุ้นส่วนธรรมชาติและมีผลประโยชน์ร่วมกัน (natural and mutually-beneficial partners) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจ ที่ในปีนี้ฉลองครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐฯ
นายกฯ หารือประธาน FIFA สานต่อความร่วมมือด้านกีฬา ย้ำความพร้อมของไทยและอาเซียนเป็นเจ้าภาพร่วมจัดฟุตบอลโลกปี 2034
วันนี้ (20 ก.ย. 66) นายจีอันนี อินฟันติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว. กค. ในห้วงการประชุม UNGA 78 หารือแนวทางขยายความร่วมมือด้านกีฬาระหว่างไทยและอาเซียนกับ FIFAในอนาคต
นายกฯ เน้นย้ำว่าอาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพและมีพัฒนาการด้านฟุตบอลต่อเนื่อง พร้อมขอบคุณ FIFA สำหรับความร่วมมือสนับสนุนให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้กีฬาฟุตบอลขั้นพื้นฐาน (Grassroots)

พร้อมเชิญชวนให้ FIFA ขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนยิ่งขึ้น เนื่องจากอาเซียนมีความพร้อมและจะมุ่งพัฒนาศักยภาพเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกร่วมกันของอาเซียน ปี 2577 (ค.ศ. 2034)
ประธาน FIFA เห็นพ้องที่จะสานต่อความร่วมมือระหว่างไทย-อาเซียน-ฟีฟ่าเพื่อขยายโอกาสและทำให้ฟุตบอลเป็นกีฬาสำหรับทุกคน พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสามัญของ FIFA สมัยที่ 74 (74th FIFA Congress) ช่วงเดือนพฤษภาคมปีหน้า ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทย และไทยจะเป็นประเทศแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่FIFA ใช้จัดการประชุมนี้ โดยจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 211 ประเทศทั่วโลก
ไทย จับมือ อาเซียน ดึงดูดการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว มุ่งสู่ภูมิภาคของการผลิตที่ยั่งยืน
วานนี้ (20 ก.ย.66) เวลา 13.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครนิวยอร์ก) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.กค. กล่าวเปิดกิจกรรมของอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78)
สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกฯ เน้นย้ำ การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นประเด็นสำคัญในระดับภูมิภาคที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนสังคมโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ประเทศไทยยืนยันที่จะรักษาบทบาทสำคัญในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่ออนาคตของภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีมุ่งหวังที่จะยกระดับความร่วมมือของทุกประเทศ เพื่อจัดการปัญหาและความท้าทายต่าง ๆ ที่ได้เผชิญร่วมกันในช่วงครึ่งทางของการมุ่งไปสู่การบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ โดยนำเสนอแนวทางด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 ดังนี้
- ทุกฝ่ายควรมุ่งมั่นเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน
- อาเซียนควรสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่ออุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- อาเซียนในฐานะภูมิภาคที่มีพลวัตของการเจริญเติบโตสูง จึงมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สำคัญต่อโลกผ่านการดึงดูดการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว
พร้อมเชิญชวนให้ทุกฝ่ายร่วมมือกับไทยและอาเซียน เพื่อมุ่งเป้าไปสู่การเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของการพัฒนาที่ยั่งยืนไปสู่แนวทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นมรดกสำคัญที่ทุกคนจะสามารถทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้มีอนาคตที่ดีมากยิ่งขึ้น
ไทย – เวียดนาม มุ่งกระชับความสัมพันธ์รอบด้าน พร้อมผลักดันความเข้มแข็งในระดับภูมิภาค
วานนี้ ( 20 ก.ย.66) เวลา 11.50 น. นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (H.E. Mr. Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เข้าพบเพื่อหารือทวิภาคีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 78 (UNGA78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่
- ส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้น โดยเห็นพ้องที่จะเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกันเพื่อเชื่อมเมืองรองของไทยซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าและความสัมพันธ์ระดับประชาชน
- แลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันเพิ่มขึ้น และตกลงที่จะเยือนกันและกันในโอกาสแรก
- ร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรอำนวยความสะดวกทางการค้าให้มากยิ่งขึ้น