HomeBT News5 ปี 5 พันล้านบาท โจทย์ยาก แต่ “ซาบีน่า” ต้องทำให้ได้

5 ปี 5 พันล้านบาท โจทย์ยาก แต่ “ซาบีน่า” ต้องทำให้ได้

 กลยุทธ์บุกช่องทางออนไลน์ ฉีกกรอบการขายแบบเดิมๆ เน้นนำสินค้าเจาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อเป้าหมายโดยตรง เพื่อลดต้นทุน ดันมาร์จิ้นเพิ่ม พร้อมกับพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ขยายฐานลูกค้ามากกว่าคนไทยแต่ไปไกลถึงตลาดเวียดนาม คือ หลากหลายกลเม็ดที่ซาบีน่า แบรนด์ชุดชั้นในไทยจะใช้พิชิตยอมขาย ทำรายได้แตะ 5 พันล้านบาทใน 5 ปี

บุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” กล่าวว่า บริษัทฯ กำหนดแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปีระหว่างปี 2563-2567  โดยวางเป้าหมายรายได้แตะในระดับ 5,000 ล้านบาทในปี 2567  แบ่งเป็น

  • รายได้การขายจากช่องทางรีเทล (Retail) ผ่านเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและซาบีน่า ช้อป 3,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้จากการขายรวม
  •  รายได้จากช่องทางออนไลน์หรือ Non Store Retailing (NSR) 1,300 ล้านบาท คิดเป็น 26%
  • รายได้จากการส่งออก (Export) ภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV อยู่ที่ 400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8%
  • รายได้จากการรับผลิต (OEM) ให้กับลูกค้าในสหราชอาณาจักร ยุโรปและเอเชีย จะอยู่ที่ 300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6% ของรายได้ยอดขาย

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากแผน 5 ปี จะพบว่า สัดส่วนของรายได้ใน 4 ช่องทางหลักของซาบีน่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

- Advertisement -

แน่นอนว่า ยอดขายผ่านช่องทางรีเทล จะมีสัดส่วนลดลงจากงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 78% ของรายได้ยอดขายรวม จะลดลงเหลือ 60%

ขณะที่ช่องทางที่เติบโตขึ้น ได้แก่ ช่องทางออนไลน์ ที่เพิ่มสัดส่วนในโครงสร้างรายได้จาก 11% เป็น 26% เช่นเดียวกับช่องทางส่งออก ที่เติบโตจาก 3% เป็น 8% ส่วนสัดส่วนรายได้จาก OEM จะลดลงจาก 8% เหลือ 6%

นั่นหมายความว่า การเติบโตของรายได้จากการขายของซาบีน่าในช่วง 5 ปีนับจากนี้ จะถูกขับเคลื่อนด้วยช่องทางออนไลน์ และการส่งออกไปในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเกินกว่าคาดไว้

ดังนั้น หากซาบีน่า ต้องการพิชิตเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้ภายในปี 2567 จะต้องผลักดันให้การเติบโตเฉลี่ยในแต่ละปีอยู่ที่ 7-10% โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่ภายใน 5 ปีต้องเติบโตให้ได้ 305% หรือเฉลี่ยปีละ 25-30% และช่องทางส่งออก ที่ต้องเติบโต 410% ภายใน 5 ปี เฉลี่ยปีละ 30-35% ขณะที่ช่องทางรีเทลและช่องทาง OEM แม้ว่าสัดส่วนรายได้ในโครงสร้างหลักจะลดลง แต่ก็ต้องทำให้รายได้ใน 5 ปีนี้เติบโต 55% และ 3% ตามลำดับ

                งานนี้  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่า ออกปากเลยว่า ไม่ใช่โจทย์ที่ง่ายในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางอนาคตที่ต้องฝ่าฟัน ซาบีน่า มั่นใจว่า การผลิตสินค้าชุดชั้นในคุณภาพ และการนำเสนอชุดชั้นในคอลเลคชั่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายแล้ว การพัฒนาช่องทางขาย ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยส่งเสริมการตลาดและการขายทดแทนระบบเก่า ทำให้การขายมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อได้ตรงจุด นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ขยายตลาดในช่องทางออนไลน์ยังทำให้บริษัทฯ บริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น โดยต้นทุนต่ำลง ค่าใช้จ่ายลดลง และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นหรือ Gross Profit Margin  (GPM) ของบริษัทฯ ขยับสูงขึ้น                

ในส่วนของการผลิต บริษัทฯ ยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติม ยังคงโครงสร้างผลิตเดิม คือ ผลิตจากโรงงานของซาบีน่า 70% และเป็นการจ้างผลิตจากโรงงานในต่างประเทศ 30% ขณะที่แผนระยะสั้นในปี 2563 จะลดการผลิตเองลงเหลือ 65% และเพิ่มสัดส่วนจ้างผลิตเป็น 35% ซึ่งในภาวะที่ค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มแข็งค่า ก็จะทำให้ในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมีความได้เปรียบทั้งทางด้านต้นทุนการผลิตและการนำเข้าสินค้า

บาทแข็งไม่หวั่น! ซาบีน่า ยึด CLMV ฐานทัพสำคัญดัน Q3 โต 102%

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News