HomeBT NewsBusiness Today Thai Politics 20 กันยายน 2566 / ภาคค่ำ

Business Today Thai Politics 20 กันยายน 2566 / ภาคค่ำ

ศาลเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง “พรรณิการ์” ตลอดชีวิต

- Advertisement -

ศาลฎีกามีคำพิพากษาในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหา พรรณิการ์ วานิช หรือ ‘ช่อ’ แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ มีความผิดฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ อย่างร้ายแรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป


กรณีนี้สืบเนื่องจาก ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ พรรณิการ์ กรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊กที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควร อันเป็นพฤติการณ์หรือการกระทำที่ส่อไปในทางขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และ น.ส.พรรณิการ์ เป็น สส. ได้รับโปรดเกล้าฯ และได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก็ได้ระบุว่า จะปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

ต่อมาวันที่ 28 ก.พ. 2565 ที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูล พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ พรรณิการ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ผิดจริยธรรมร้ายแรง ตามมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ที่บังคับใช้กับ สส. กรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊กที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควร


“ศาลรธน.”สั่งศักดิ์สยามส่งหลักฐานเพิ่มปมถือหุ้นบริษัทรับเหมา

วันที่ 20 ก.ย. 2566 ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญ และเป็นที่น่าสนใจ เรื่องพิจารณาที่ 8/2566 กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่


โดยกรณีนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 58 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่า ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่

ผู้ร้องส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยและสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำคำชี้แจงและจัดส่งพยานหลักฐานต่อศาลรัฐธรรมนูญ

“อดิศร” เชียร์ “อุ๊งอิ๊ง” นั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้คนรุ่นใหม่เข้าใจการเมือง

อดิศร เพียงเกษ สส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ว่า พรรคเพื่อไทยมีหลายคนที่จะทำหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้แพทองธาร ชินวัตร หากมารับหน้าที่หัวหน้าพรรค เราก็จะมีความภูมิใจ และสามารถที่จะนำพาพรรคไปสู่ความสำเร็จ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ เข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง


เมื่อถามย้ำว่า เชียร์นางสาวแพทองธารใช่หรือไม่ นายอดิศร บอกว่า โดยปกติตนก็เชียร์นางสาวแพทองธาร ออกนอกหน้าอยู่แล้ว ย้ำว่า เป็นความภูมิใจ และมั่นใจว่า จะนำพาพรรคเพื่อไทยไปสู่ความสำเร็จในทุกๆ ด้านได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะไปรับหน้าที่เป็นประธานยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า จะทำให้พี่น้องประชาชน ครอบครัวละ 20,000 บาท หรือดึงความสามารถของคนในครอบครัวออกมา ถือว่าเป็นการเมืองระดับหนึ่งของพรรคเพื่อไทย

กรณีของพรรคก้าวไกลที่หัวหน้าพรรคจะต้องมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านด้วย มองว่า ควรมีคุณสมบัติอย่างไร นายอดิศร บอกว่า ด้วยความเคารพ ตนขอไม่ออกความเห็น แต่ยินดีที่จะมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำพาประชาธิปไตยให้เดินไปข้างหน้าอย่างสง่างาม

รมว.วัฒนธรรมแจงผลงาน “ศรีเทพ” มรดกโลก ให้เครดิตทุกรัฐบาล

เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีสื่อสำนักหนึ่งพาดหัวข่าวการขึ้นทะเบียนมรดกโลก เมืองโบราณศรีเทพ ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงในรัฐบาลเศรษฐาฯ จนโดนกระแสตีกลับจากสังคม ว่าเป็นการชุบมือเปิบ เนื่องจากการเสนอเมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลก ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2562 ในรัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ในเรื่องนี้ ตนขอชี้แจงและทำความเข้าใจ เนื่องจากมีผู้สื่อข่าวมาถามนำมาว่า การที่เมืองโบราณศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นผลงานรัฐบาลหรือไม่


ซึ่งในความเข้าใจของตนนั้น หมายถึงรัฐบาลทุกชุดที่ร่วมดำเนินการมา จนถึงรัฐบาลชุดนี้ที่ทำงานต่อเนื่องกัน เพราะถือเป็นตัวแทนประเทศไทยที่นำมาเพื่อความสำเร็จในครั้งนี้ จึงตอบไปว่า ใช่ เป็นของรัฐบาล และไม่ได้หมายความระบุเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลชุดนี้ตามที่เป็นข่าวเลย

เพราะเห็นว่างานมรดกโลกเป็นงานสำคัญของประเทศมีการประสานงานส่งต่อกันเพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ นำมาซึ่งความภาคภูมิใจร่วมกัน และด้วยระยะเวลาการสัมภาษณ์ที่จำกัด จึงทำให้ไม่ได้มีการอธิบายเพิ่มเติม

รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่า ตนมีความเคารพและชื่นชมในความพยายาม ความร่วมมือในการผลักดันเมืองศรีเทพเป็นมรดกโลกอย่างแท้จริง ตนไม่มีเจตนาใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง ที่สำคัญต้องขอขอบคุณรัฐบาลชุดที่ผ่านมาที่เริ่มต้นมาด้วยดี รวมไปถึงคณะทำงานทุกท่าน กรมศิลปากร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพี่น้องประชาชน

“พิมพ์พิชชา” ปัดร่วมทีม “หมออ๋อง” ไปสิงคโปร์ ชี้อยู่คนละพรรคขอทำงานในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูล ปดิพัทธิ์ สันติภาดา หรือ “หมออ๋อง”รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นำคณะพา สส.ไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ และมีข่าวใช้งบประมาณเกินจริง คาดว่า 1.3 ล้านบาท


โดยปรากฏชื่อ พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ เป็น สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ร่วมคณะไปด้วยนั้น ทำให้ น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ สส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ข้อมูลข่าวบิดเบือน ไม่เป็นความจริง ข้าพเจ้ายังสังกัดพรรคเพื่อไทย และทำงานให้กับพี่น้องชาว เขต 4 เป็นปกติและไม่มีแผนการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้จึงแจ้งเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ก่อนหน้านี้มีข้อมูลเรื่องของการเดินทางไปสิงคโปร์ของปดิพัทธ์ รวมทั้งมีชื่อของพิมพ์พิชชาจะไปร่วมทริปด้วย ส่วนกำหนดการเดินทางเยือนสิงคโปร์ เพื่อศึกษาดูงานด้านระบบสารสนเทศการประชุม การบริหารจัดการแรงงานของคนไทย และการจัดการทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดย ‘ประธานสภาฯ’ ได้อนุมัติการเดินทาง และ ‘เลขาธิการสภาฯ’ ได้อนุมัติงบประมาณ 1,379,250 บาท โดยมีคณะผู้ร่วมเดินทาง 12 คน ซึ่งมี 7 คนที่เป็น ส.ส.และมีคนนอกอีก 5 คน

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News