บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านจากอุบลราชธานี เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาส 3 ปีนี้ พร้อมประกาศแผนขยายสาขา เจาะลูกรายย่อยในชุมชนเมือง
DOHOME เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 465 ล้านหุ้น มีแผนธุรกิจเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 7 สาขา และร้านค้าขนาดเล็กภายใต้ชื่อ Dohome To Go อีก 90 สาขาภายในปี 64 ตั้งเป้าปี 62 ทำรายได้จากร้าน DOHOME สาขาละ 1.2 พันล้านบาท

นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา DOHOME ได้เตรียมความพร้อม ทั้งการเพิ่มทีมผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์และความชำนาญ การเปิดศูนย์กระจายสินค้า รวมทั้งวางแผนการขยายสาขารูปแบบใหม่ไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการขยายตัวทางอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน รวมไปถึงการขยายตัวของสังคมเมืองและการเพิ่มขึ่นของความต้องการลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโตและผลตอบแทนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของ DOHOME ณ วันที่ 31 มี.ค.62 DOHOME มีสาขาที่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 9 สาขา ได้แก่ อุบลราชธานี, นครราชสีมา, รังสิต, ขอนแก่น, อุดรธานี, พระราม 2, บางบัวทอง, เชียงใหม่ และบางนา โดยมีพื้นที่ขายและคลังสินค้าประมาณ 35,000-65,000 ตารางเมตรต่อสาขา รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่งที่จังหวัดปทุมธานี โดยเเบ่งสินค้าที่จำหน่ายออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง, วัสดุซ่อมแซม และกลุ่มวัสดุตกแต่ง รวมรายการสินค้ากว่า 135,000 รายการ นอกจากนี้ DOHOME ยังจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้า DOHOME มากกว่า 20,000 รายการ ด้านนางลลิล เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) กล่าว่าแม้ปัจจุบัน DOHOME จะมีฐานรายได้ที่แข็งแกร่งจากการให้บริการผ่านสาขาขนาดใหญ่ทั้ง 9 สาขา แต่ยังมีการวางกลยุทธ์เพื่อการเติบโตต่อเนื่อง ด้วยการวางแผนขยายสาขาทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ผ่านเป้าหมายการเปิดสาขาขนาดใหญ่รูปแบบใหม่ที่มีขนาดพื้นที่เล็กลงโดยมีพื้นที่ขายและคลังสินค้าต่อสาขาเฉลี่ย 23,000 ตารางเมตร รวม 7 สาขา ภายในปี 64 ในหัวเมืองที่สำคัญ

“ขณะนี้มีที่ดินแล้ว 5 ที่ ส่วนอีก 2 ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจาซื้อขายที่ดิน โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 1,200 ล้านบาทต่อสาขา โดยในเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดสาขาใหม่ 1 สาขาก่อนที่เพชรเกษม ซึ่งยังคงความคบถ้วนของสินค้าไว้เช่นเดิม” รวมถึงการพัฒนาโมเดลขยายสาขาขนาดเล็กภายใต้ชื่อ Dohome To Go ซึ่งมีพื้นที่เฉลี่ยต่อสาขาประมาณ 300-1,000 ตารางเมตร รวม 90 สาขา ภายในปี 64 โดยมีแผนเปิดให้บริการในพื้นที่ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต เพื่อสามารถเข้าถึงลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ต้องการปรับปรุงซาอมแซมตกแต่งบ้าน และสามารถตอบสนองวิถีการดำเนินชีวิตผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการขยายสาขาของ DOHOME อย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้ DOHOME ยังได้วางกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้า House Brand ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่สูงกว่าสินค้าประเภท Non-House Brand ผ่านการคัดเลือกสินค้าให้ตรงกับความต้องการซื้อของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตามแต่ละรูปแบบของสาขาใหม่ โดยมีเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากสินค้า House Brand ที่ประมาณ 30% สำหรับสาขาขนาดเล็ก รวมไปถึงการวางกลยุทธ์ในการเพิ่ทประสิทธิภาพการดำเนินงาน จากการเปิดดำเนินศูนย์กระจายสินค้าในเดือน มิ.ย.61 โดยมีขนาดพื้นที่สำหรับคลังสินค้าจำนวน 41,580 ตารางเมตรในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีความสะดวกต่อการรับ เบิกจ่าย และจัดส่งสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ DOHOME มีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดจำนวนพนักงานในคลังสินค้า และจะช่วยลดต้นทุนในการจัดเก็บและขนส่งสินค้าในอนาคต ในปี 61 DOHOME มีรายได้รวม 18,535.17 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 46-49% สัดส่วนรายได้จากกลุ่มวัสดุซ่อมแซมประมาณ 35-38% และสัดส่วนรายได้จากวัสดุตกแต่งประมาณ 15–7%

นอกจากนี้ไตรมาส 1 ปี 62 DOHOME มีรายได้รวม 4,980.24 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 246.68 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 4,940.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 185.63 ล้านบาท เนื่องจากมีสัดส่วนการขายสินค้า House Brand เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง ขณะที่สัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้า House Brand ในปี 59-61 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 11.4%, 14.3% และ 14.4% ของรายได้จากการขายและค่าบริการตามลำดับ โดยในไตรมาส 1 ปี 62 มีสัดส่วนอยู่ที่ 14.5% พร้อมวางเป้าหมายภายในปี 65 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้า House Brand เป็น 20% ของรายได้จากการขายและค่าบริการรวม ส่วนนายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) หนึ่งในที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การทำ IPO ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจและการสร้างการเติบโตของ DOHOME ในการก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก และบริการวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร และถือเป็นโอกาสอันดีของนักลงทุนทุกท่านที่จะมีส่วนร่วมเติบโตอย่างต่อเนื่องไปกับ DOHOME ภายใต้การบริหารจัดการของผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 36 ปี โดยการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ จะมีการจัดสรรหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 465,040,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25.1 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯจำนวนไม่เกิน 456,160,000 หุ้น และการเสนอขายหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนไม่เกิน 8,880,000 หุ้น นอกจากนี้ อาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวนไม่เกิน 56,160,000 ล้านหุ้น รวมทั้งสิ้นจำนวนไม่เกิน 521,200,000 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 28.1ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกแบะเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังเสนอขายครั้งนี้ ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นส่วนเกินมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นที่เนอขายครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่หุ้นของ DOHOME เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯวันแรก โดยเป็นการให้สิทธิแก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินสามารถช่วยดำเนินการรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น ในช่วงที่สภาวะตลาดอาจมีความผันผวน ซึ่งอาจมีโอกาสทำให้ราคาหุ้นต่ำกว่าราคาเสนอขายได้ ขณะที่นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวทิ้งท้ายว่า ความคืบหน้าการนำ DOHOME เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้น IPO นั้น ปัจจุบันได้รับการอนุญาตให้เสนอขายหุ้น IPO แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก และอยู่ระหว่างการเข้าพบนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ กว่า 30 ราย รวมถึงนักลงทุนรายย่อย เพื่อให้ข้อมูลก่อนการกำหนดราคาขายสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถซื้อขายหุ้น DOHOME วันแรกได้ในวันที่ 6 ส.ค. 62 โดยจะมีบล. ภัทร จำกัด (มหาชน), บล.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บล. กรุงศรี จำกัด (มหาชน) และ บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้น DOHOME แก่นักลงทุน ทั้งนี้ DOHOME มีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการลงทุนขยายธุรกิจ พัฒนาระบบไอที ชำระเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินหมุนเวียน โดยบริษัทฯคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญภายใต้ชื่อย่อ DOHOME ในหมวดพาณิชย์ภายในไตรมาส 3 ปีนี้