HomeBT Newsย่อข่าวธุรกิจในประเทศ ภาคเช้า 20 กุมภาพันธ์ 2566

ย่อข่าวธุรกิจในประเทศ ภาคเช้า 20 กุมภาพันธ์ 2566

นายกฯ ปลื้ม ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค.สูงสุดในรอบ 26 เดือน

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ประจำเดือนมกราคม 2566 จากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและหอการค้าไทย ซึ่งพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 49.7 เป็น 51.7 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 26 เดือน จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563


ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ 1. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2566 จากภาครัฐ เช่น มาตรการช้อปดีมีคืน มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 15% มาตรการการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงิน 2. การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยมีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ ปรับตัวดีขึ้น 3. SET Index ในเดือนมกราคม 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.80 จุด 4. ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้สูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดปรับตัวดีขึ้น

- Advertisement -


คลังเก็บรายได้ไตรมาสแรกเกินเป้า สะท้อนเศรษฐกิจฟื้นตัว

กระทรวงคลังรายงานการจัดเก็บรายได้ช่วง 3 เดือน ของไตรมาสแรกประจำปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม-ธันวาคม 2565) รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ เป็นจำนวนถึง 6.33 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 13.2% ซึ่งเฉพาะกรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้ได้มากถึง 4.46 แสนล้านบาท เกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 10%


สะท้อนให้เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศไทย ทั้งจากภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ ทำให้มีเงินสะพัดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า ในปี 2566 ระบบเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ 3.8% จากอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว


KBANK คาดเงินบาทสัปดาห์นี้มีลุ้นแตะ 35/ดอลลาร์

สถานการณ์ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ (20-24 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 34.15-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดการเงินไทยและทิศทางสกุลเงินเอเชีย


ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภคในเดือนก.พ. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 (preliminary) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมถึงบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน อัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ของยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิต/บริการเบื้องต้นสำหรับเดือนก.พ. ของยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน


EXIM BANK ชี้ SME เข้มแข็งแค่1% ทุ่ม 5 พันล้านเติม ‘ความรู้-เงินทุน’

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยในโอกาสครบรอบ 29 ปี ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 30 ของการเปิดดำเนินงาน EXIM BANK ว่า ปัจจุบันกลุ่มเอสเอ็มอีของไทยมีอยู่ 3.17 ล้านราย และจำนวนนี้เพียง 1% หรือ 300 รายที่เป็นเอสเอ็มอีที่มีความเข้มแข็ง และที่เหลืออยู่จำนวนไม่น้อยที่มีหนีเสียอยู่มากพอสมควร ดังนั้น ต้องทำให้กลุ่มนี้กลับมาเข้มแข็งและยืนอยู่ต่อไปได้ จึงได้เกิดโครงการ “EXIM เพื่อคนตัวเล็ก”


ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยเหลือและเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจระหว่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน หรือผู้ประกอบการ SMEs ที่ทำธุรกิจเชื่อมโยงกับ Supply Chain การส่งออก โดย SMEs ถือเป็นรากแก้วของประเทศไทยที่มีจำนวนมากถึง 99.6% ของผู้ประกอบการไทยทั้งหมด สร้างการจ้างงานได้มากถึง 12.6 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 72% ของทั้งระบบ และมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ 35%ของ GDP ดังนั้น EXIM BANK จึงให้ความสำคัญในการดูแลให้รากแก้วของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยใช้เครื่องมือ “3 เติม” ได้แก่ “เติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงิน” ชูบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดูแลให้คำปรึกษา บ่มเพาะ สร้างโอกาส เติมเงินทุนอย่างใกล้ชิดและครบวงจร เตรียมวงเงินปล่อยกู้แบบไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ต้องมาอยู่ในโครงการนี้ก่อน ซึ่งเตรียมจัดวงเงินกู้ไว้ 5,000 ล้านบาทแต่ละรายสามารถขอสินเชื่อตั้งแต่ 2 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยเพียง 6% และหากประกอบธุรกิจดีสามารถขยายวงเงินกู้ได้ โดย EXIM BANK มีเป้าหมายกลุ่มเอสเอ็มอีตัวเล็กจะเข้มแข็งขึ้นในปี’67 มากกว่า 40,000 ราย และจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตโดย EXIM BANK ยังจะเป็นพี่เลี้ยงที่จะนำพาเอสเอ็มอีกลุ่มนี้ไปเจาะตลาดต่างประเทศอีกด้วย


CAEXPO กลับมาแล้ว! ปลุกผู้ประกอบการไทยคัมแบ็คเจาะตลาดแดนมังกร

นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการการจัดงานแสดงสินค้าอาเซียน-จีน จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์งานแสดงสินค้า China–ASEAN Expo (CAEXPO) ครั้งที่ 20 ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2566 ณ นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นงานที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญ และจัดเป็นประจำทุกปี โดยกระทรวงพาณิชย์จีนและอาเซียน 10 ประเทศ


ซึ่งการจัดงานที่ผ่านมา กรมฯ ได้เข้าร่วมงานต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 19 และปีนี้ ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 20 เชื่อมั่นว่าจะเป็นงานที่มีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก เพราะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไม่มีโอกาสไปเยือนจีน จากสถานการณ์โควิด-19 การจัดงาน CAEXPO ครั้งที่ 20 ในเดือนกันยายนนี้ จึงเป็นที่รอคอยของผู้ประกอบการทั้งจีนและอาเซียน มั่นใจว่าการจัดงานจะประสบความสำเร็จด้วยดี โดยสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ น้ำมันนวด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สาหร่ายปรุงรส เครื่องแกงกึ่งสำเร็จรูป หมอน/ ที่นอนยางพารา ทุเรียน/ลำไยอบแห้ง เป็นต้น

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News