ไทยพาณิชย์ ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกรรมทุกชนิดของเอสเอ็มอีบนแพลตฟอร์ม ดิจิทัล พร้อมเปิดตัวมณี Free Solution ผู้ช่วยเรื่องธุรกิจครบวงจร หวังช่วยเพิ่มฐานลูกค้าเอาเอ็มอี 1 แสนราย ภายในปี 63
นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศในหลายมิติ อาทิ การเป็นผู้ผลิตสินค้าและบริการ การมีบทบาทต่อการจ้างงานของประเทศ เป็นจุดเริ่มต้นในการประกอบธุรกิจ เชื่อมโยงกับกิจกรรมขนาดใหญ่
และภาคการผลิตอื่นๆ โดยกว่า 99.8% ของผู้ประกอบการในไทยเป็นเอสเอ็มอี 50% ของการจ้างงานของธุรกิจในไทยมาจากเอสเอ็มอี และ 70% ของการผลิตของเอสเอ็มอีขายในประเทศ ดังนั้นเอสเอ็มอีจึงเป็นกลไกหลักเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางในการกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง แต่เอสเอ็มอีก็เป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางจากภาวะความกดดันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากปัจจัยลบจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดกระแส Digital disruption ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบ เพราะปรับตัวไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าใจถึงสภาวะความกดดัน ของกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องเผชิญ จึงได้เร่งสานต่อแผนการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างคล่องตัว ด้วยการประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทุกประเภทสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยเมื่อทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม และมีบัญชีมณีมั่งคั่ง
พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “SME Fighto” ปลุกสปิริตนักสู้ผู้ประกอบการ และ “มณี Free Solution” ผู้ช่วยเรื่องธุรกิจแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เติบโตอย่างมั่งคั่ง
นอกจากนี้ธนาคารยังได้เปิดตัว “แม่มณีรุ่นใหม่” เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเอสเอ็มอีเอาชนะทุกอุปสรรคและปัญหา โดยตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าประเภทเอสเอ็มอี 1 แสนราย ภายในปี 66 ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีจำนวนกว่า 2 แสนราย
ทั้งนี้ การที่ประกาศฟรีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมของเอสเอ็มอี คาดว่าจะส่งผลให้รายได้ในส่วนค่าธรรมเนียมของเอสเอ็มอีหายไปมากกว่า 1 ร้อยล้านบาท แต่เชื่อว่าในระยะยาวจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับธนาคาร เนื่องจากเอาเอ็มอีเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ โดยถ้าเอสเอ็มอีตกอยู่ในภาวะยากลำบาก ก็จะส่งผลถึงธนาคารด้วยเช่นกัน
ด้าน นางสาวอรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “แนวทางของธนาคารมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์แล้ว ยังต้องเข้าใจบริบทและสภาพแวดล้อมของลูกค้าด้วยเช่นกัน
เฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีซึ่งทุกวันนี้การทำธุรกิจต้องเผชิญกับปัจจัยแวดล้อมรอบด้าน และเพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประกอบการสามารถก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากและเต็มไปด้วยความท้าทายเช่นนี้ได้
ธนาคารจึงได้นำเสนอ ‘มณี Free Solution’ ซึ่งประกอบด้วยสามจุดเด่น เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่มียอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาท ให้สามารถลดต้นทุนจากการทำธุรกรรม เติบโตอย่างมั่งคั่ง และสามารถต่อยอดธุรกิจได้ดังนี้
1.ฟรีค่าธรรมเนียมทุกประเภท เมื่อทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม และมีบัญชีมณีมั่งคั่ง รวมถึงฟรีบริการรับฝากเช็คข้ามเขต
2.ฟรีอัพเกรดดอกเบี้ย บัญชีมณีมั่งคั่ง บัญชีเดินสะพัดดอกเบี้ยสูงสุด 1% รับดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือน เมื่อฝากตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
3.ฟรีบริการ Co-working Space และสัมมนาต่อยอดธุรกิจ เพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจของผู้ประกอบการก้าวไปได้ไกลยิ่งขึ้น
ธนาคารได้ปรับ Business Center ให้กลายเป็นจุดศูนย์รวมของคนอยากทำธุรกิจ โดยร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ อาทิ ไปรษณีย์ไทย wongnai และ GET ที่จะมาร่วมมือในการช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา และให้บริการที่สนับสนุนการดำเนินงาน และต่อยอดการทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ
และยังได้ร่วมมือกับ Class café สร้างสรรค์พื้นที่ Co-working Space ขึ้นภายใน Business Center ให้กลายเป็นพื้นที่พบปะและต่อยอดธุรกิจสำหรับผู้ที่คิดอยากทำธุรกิจ รวมถึงการให้ความรู้ผ่านงานสัมมนาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังได้ทดลองพัฒนาสาขาต้นแบบที่เปิดให้บริการธุรกรรมการเงินตลอด 24 ชั่วโมงขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศที่ Business Center สาขาสยามสแควร์ อีกด้วย