NTT LTD ประกาศเปิดบ้านในไทย หลังการรวมตัวของ 28 บริษัท ทั้งไดเมนชั่น ดาต้า, เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์, เอ็นทีที ซีเคียวริตี้ และ เทรนนิ่ง พาร์ทเนอร์ส ตั้งเป้ารุกตลาดประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา และลาว
นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย กล่าวว่า การรวมตัวกันของ 28 บริษัท จะช่วยลดต้นทุนของลูกค้าเพราะไม่จำเป็นต้องซื้อเซอร์วิสจากหลายบริษัท และการนำเทคโนโลยีจากทุกบริษัทมารวมกันยังส่งผลให้ NTT ให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
-Google ตั้งเป้าพลิกโฉมธุรกิจไทยด้วย “คลาวด์ คอมพิวติ้ง”
-เทนเซ็นต์ รุกตลาด B2B ชูจุดขายด้าน AI และ Cloud
การจัดการภายในองค์กรเป็นการรวมเพื่อปฏิรูป (Transform) ธุรกิจใหม่ เป็นการลดต้นทุนซ้ำซ้อนที่ไม่เกิดประโยชน์ เป็นการรวมคนเก่งจากแต่ละบริษัทมาอยู่ด้วยกัน ไม่ได้รวมเพื่อลดพนักงาน ปัจจุบัน NTT LTD มีพนักงานในประเทศไทยประมาณ 1,000 คน เป็นบุคลากรที่มีความรู้ด้านไอทีมากถึง 700 คน และยังต้องการเพิ่มบุคลากรใหม่ ๆ เพื่อเข้ามาดูธุรกิจที่จะขยายในอนาคต และเสริมทักษะใหม่ให้พนักงานที่มีอยู่
การรวมบริษัทเป็น NTT LTD นอกจากการลดต้นทุน รวมเทคโนโลยี และจัดสรรบุคลากรใหม่แล้ว ยังป้องกันการถูก Disrupt จากคู่แข่งที่เป็นองค์กรใหญ่ได้อีกด้วย

NTT มีจุดแข็งที่สามารถซัพพอร์ทลูกค้าได้ถึง 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น
ด้านการลงทุน NTT จะมีการลงทุนเพิ่มในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุด ปัจจุบันมีศูนย์บริการอยู่ถึง 15 จังหวัด ส่วน ลาว เมียนมา กัมพูชา เป็นตลาดใหม่ที่จะเติบโตในระยะยาว ซึ่งล่าสุด NTT ได้เปิดสำนักงานในเมียนมา พร้อมทำธุรกิจเต็มรูปแบบแล้วเช่นกัน
NTT เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่เป็นหลัก ทั้งในกลุ่มธุรกิจการเงิน, กลุ่มอุตสาหกรรม, กลุ่มธุรกิจบริการสุขภาพ, กลุ่มสื่อสารมวลชน, กลุ่มโทรคมนาคม, ภาครัฐ, ภาคการศึกษา
นอกจากนี้ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับ Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure และ Google Cloud Services ในด้านบริหารจัดการ Hybrid Cloud ให้ลูกค้าองค์กร
NTT Ltd. วางรากฐานรองรับการเติบโตด้านไอซีที ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ดังนี้
1.Intelligent Business (ธุรกิจอัจฉริยะ) โซลูชั่นสำหรับธุรกิจดิจิทัล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและปลดล็อกศักยภาพทางด้านข้อมูล รวมถึงการวิเคราะห์ และแอปพลิเคชั่นบนมัลติคลาวด์
2.Intelligent Workplace (สำนักงานอัจฉริยะ) สร้างสภาพแวดล้อมอันทันสมัยสำหรับองค์กร ผสานเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันที่เหมาะสม ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือผ่านอุปกรณ์การสื่อสารใดภายใต้ความปลอดภัยมาตรฐานสากล
3.Intelligent Infrastructure (ระบบโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ) รองรับการบริการบนเครือข่าย ศูนย์ข้อมูล และโซลูชั่นสำหรับโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้นด้วยกระบวนการอัตโนมัติ และบริการ Managed Service ที่สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่อยู่บนสภาพแวดล้อมของไฮบริดคลาวด์
4.Intelligent Cybersecurity (ระบบความปลอดภัยไซเบอร์อัจฉริยะ) ออกแบบความปลอดภัยสำหรับธุรกิจ โดยสร้าง ระบบรักษาความปลอดภัยที่เหนือกว่า สามารถทำการวิเคราะห์ คาดการณ์ ตรวจจับ และแจ้งเตือนภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงตอบสนองต่อการโจมตีโดยอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด เพื่อสนับสนุนการใช้นวัตกรรมในธุรกิจและบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้การเปลี่ยนโฉมเป็น NTT Ltd. เข้าร่วมกับ 28 บริษัท จากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลกที่มีมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นพันธมิตรกับลูกค้ากว่า 10,000 รายทั่วโลก รวมถึงองค์กรชั้นนำในด้านบริการทางการเงิน, เวชภัณฑ์, โทรคมนาคม, พลังงาน และสาธารณูปโภค ภาคการผลิตยานยนต์ และภาคเทคโนโลยี