“เศรษฐา” ถก “ชัชชาติ” พร้อมหนุนพัฒนา กทม.ให้น่าอยู่
วันนี้ (18 ก.ย.)ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ร่วมหารือกับชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถึงการตั้งคณะกรรมการเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร
โดยเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้บรรยากาศสบายๆ อยากจะเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เวลามีการพูดคุยกันจะได้เป็นกันเอง เชื่อว่าวิธีอย่างนี้เป็นวิธีการที่เราสามารถพูดคุยกันได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องมีองคาพยพใหญ่ กรุงเทพฯ เป็นจังหวัดที่ใหญ่ 1ใน 3 ของจีดีพีของประเทศอยู่ที่นี่ พี่น้องประชาชนทั้งประเทศมีความคาดหวังเรื่องรายได้จากการท่องเที่ยว เรื่องฝุ่น เรื่องปัญหารถติดเรื่องการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง กรุงเทพฯ เป็นที่หมายตาของทุกๆท่าน ทั้งนี้ ตนกับชัชชาติ รู้จักกันมานาน เราก็คุยกันตั้งแต่ก่อนโควิด

โดยการมานั่งคุยตรงนี้เกิดจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนรับประทานอาหารกลางวันแบบเป็นกันเองกับผู้ว่าฯและ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยดำริกันว่าจะตั้งคณะกรรมการชุดเล็กขึ้นมาประมาณ 6-7 คน เท่านั้น ในการขับเคลื่อนกรุงเทพฯโดยการใช้นโยบายเป็นหลัก ส่วนเรื่องการใช้งบประมาณคงมีน้อยมาก หน้าที่รัฐบาลคือสนับสนุนผู้ว่าฯชัชชาติให้แก้ไขปัญหา อย่างน้อยๆ อะไรทำได้ก็ทำก่อน โดยที่อาจจะใช้งบประมาณน้อยหรือไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเลย หนักไปในเรื่องการประสานงานระหว่างหน่วยงานราชการที่ขึ้นตรงอยู่กับตน ซึ่งให้ท่านเหล่านั้นมาซัพพอร์ตผู้ว่าฯชัชชาติ ทั้งเรื่องการจราจร อาชญากรรม หรือเรื่องรถติด ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่มาก ซึ่งสามารถบรรเทาลงไปได้ ตนใช้คำว่าบรรเทาลงไปได้จากการประสานงานที่ดีกว่า ฉะนั้น ผู้ว่าฯเองก็มีพูดคุยเสนอและมีคณะกรรมการที่เราพูดคุยกัน หน้าที่ผมคือสนับสนุนผู้ว่าให้ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าอยู่
“พีระพันธุ์” โพสต์ยินดีไทยชนะคดีโฮปเวลล์ ไม่ต้องเสียค่าโง่
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆ มีเนื้อหาว่า ไทยชนะคดี โฮปเวลล์ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในการยกเลิกสัญญาจากกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นค่าใช้จ่ายการเข้ามาลงทุนเป็นเงิน 56,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในวันนี้ (18 ก.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่ให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ชดใช้ ค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยแก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หลังศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 4 มี.ค.2565 มีคำสั่ง ให้ศาลปกครองชั้นต้นรับคำขอพิจารณาคดีใหม่ โดยศาลปกครองกลางเห็นว่า กระทรวงคมนาคม และรฟท.ได้ทำสัญญา ลงวันที่ 9 พ.ย.2533 กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด

ตามสัญญาสัมปทานระบบการขนส่งทางรถไฟ และถนนยกระดับในกรุงเทพมหานคร และการใช้ประโยชน์จากที่ดินของ รฟท. มีกำหนดเวลา 30 ปีนับแต่สัญญามีผลบังคับ สัญญาดังกล่าวมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ หลังจากการลงนามสัญญา กระทรวงคมนาคม และ รฟท. เห็นว่าการก่อสร้างมีความล่าช้ามากไม่อาจแล้วเสร็จตามสัญญา จึงมีหนังสือลงวันที่ 27 ม.ค.2541 บอกเลิกสัญญากับผู้คัดค้าน
โดยบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2541 ซึ่งในการเสนอข้อพิพาทต่อคณอนุญาโตตุลาการต้องยื่นภายในอายุความตามกฎหมาย เมื่อสัญญาสัมปทานดังกล่าวเป็นสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ พ.ศ.2542 การเสนอข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองต่อคณะอนุญาโตตุลาการจึงต้องเสนอภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุ แห่งการฟ้องคดีตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.เดียวกัน ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะนั้น
“พรหมินทร์” แจงตั้งที่ปรึกษานายกฯเลือกคนมีความสามารถหลายด้าน
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดชเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกฯ จำนวน 9 คน ว่า นายกฯ ได้ตั้งคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และไม่สามารถรับเงินเดือนได้ จึงสามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ มาทำงานได้ ซึ่งแต่ละคนมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ซึ่งนายกฯ บรรจงเลือกมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อกังวลที่นำบุคคลที่เป็นกรรมการอยู่ในบริษัทแสนสิริ มาเป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้วย นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า คนมีความสามารถมีอยู่ในหลายวงการ ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยเราก็ไม่เชิญมาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งเราได้จัดความสำคัญตรงนี้อย่างดี

เมื่อถามว่า ได้มีการแบ่งงานหรือไม่ว่าใครดูส่วนไหนบ้าง นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า แต่ละท่านจะมีความชำนาญในแต่ละเรื่อง อย่างชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล ก็จะชำนาญในเรื่องการเกษตรและพาณิชย์ เทวัญ ลิปตพัลลภ ก็จะมีความเข้าใจทางด้านการเมืองและเรื่องต่างๆ ของงบประมาณ ส่วนพิชิต ชื่นบาน ก็จะชำนาญในด้านกฎหมายส่วนท่านอื่นๆ จะมีความชำนาญเฉพาะตัว ถือว่าวันนี้ทำงานให้ประโยชน์แก่ประชาชนและเรื่องเศรษฐกิจถือเป็นเรื่องสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ที่มาจากบีทีเอส จะให้มาดูเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า แต่ละท่านมีความสามารถในหลายเรื่อง เราสามารถมอบให้ดูในหลายๆ เรื่องได้
“วราวุธ” ตั้ง “กัญจนา” เป็นที่ปรึกษา รมว.พม.
วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงนามคำสั่ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่งตั้ง “คณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์”
คณะที่ปรึกษา รมว.พัฒนาสังคมฯ จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย

- นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา เป็นที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษา
- นายนิกร จำนง เป็นประธานคณะที่ปรึกษา
- นายกนก วงษ์ตระหง่าน เป็นรองประธานคณะที่ปรึกษา
- นายสุทธิกร กิ่งแก้ว เป็นคณะทำงาน
- นายอนรรฆ พิทักษ์ธานิน เป็นคณะทำงาน
- นายสันติ กีระนันทน์ เป็นเลขานุการคณะที่ปรึกษา
- นายอาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์ เป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะที่ปรึกษา
“วันนอร์” งงข่าวลาออก เผยยังทำงานต่อเต็มที่
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง ตามที่มีกระแสข่าวว่าตนเตรียมลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่มีเหตุผลใดที่ตนจะทำเช่นนั้น และที่ผ่านมาก็ทำงานอย่างเต็มกำลัง โดยไม่มีวันหยุด และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ อีกทั้งตนก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร ส่วนข้อสังเกตว่ากระแสข่าวมาจากสัญญาณจากฝ่ายการเมืองหรือไม่นั้น

ตนไม่ทราบว่าสัญญาณการเมืองที่ว่าหมายถึงอะไร แต่ส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง และการขึ้นมาเป็นประธานสภาฯ ก็ไม่ได้ไปขอร้องให้ใครเลือก แต่มาตามวาระความจำเป็นของบ้านเมือง
แม้แต่ช่วงเสาร์ -อาทิตย์ ตนก็ทำงาน และทำอย่างเต็มที่ ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน สื่อมวลชนก็เห็น ผมไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ผมแข็งแรงดี แล้วอย่างนี้ผมจะลาออกเพราะอะไร ไม่รู้ว่าไปเอาข่าวมาจากไหน