“นายกฯ” ลั่นยาบ้านต้องหมดจากไทยในรัฐบาลนี้
เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการป้องกันปราบปรามและแก้ไข ปัญหายาเสพติด (ป.ป.ส.) มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
เศรษฐา กล่าวในที่ประชุมว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ ขอขอบคุณกระทรวงยุติธรรมที่ช่วยจัดการเป็นเจ้าภาพในการประชุมวันนี้ นอกจากปัญหาเรื่องปากท้องแล้วปัญหายาเสพติดที่แพร่กระจายไปทุกหย่อมหญ้าในประเทศไทยก็เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้คำมั่นสัญญาว่า จะเป็นวาระแห่งชาติ

โดยตนเองจะนั่งหัวโต๊ะ เป็นประธานในการทำให้ปัญหาเหล่านี้ ลดน้อยลง หรือหมดไปในระยะอันใกล้ ทั้งเรื่องการทำผู้เสพเป็นผู้ป่วยรักษาดูแล และส่งคืนเขากลับสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้องของเขา ทำให้มีอาชีพที่เหมาะสม
รวมไปถึงการป้องกันที่ต้นน้ำ ไม่ให้ไปเสพ ไปจนถึงระยะสุดท้ายที่เมื่อยึดยาเสพติดมาแล้ว ต้องเร่งในการเผาทำลายเพื่อตอบสังคมให้ได้ รวมถึงการยึดทรัพย์ที่เป็นเรื่องใหญ่ ต้องเร่งทำอย่างรวดเร็ว
ไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการมีเส้นทางการเงินที่เข้มแข็ง จนกลับมาผลิตได้อีก และปัญหาเรื่องการลักลอบนำเข้าสารตั้งต้น ซึ่งที่พูดมา ก็ครบทุกมิติแล้ว ตอนนี้เชื่อว่าทุกคนรู้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ แต่ก็ต้องมีจุดเริ่มต้น ขอให้วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการมาร่วมมือร่วมใจกัน ขจัดปัญหานี้ออกจากสังคมไทย
“พรรคเป็นธรรม” พร้อมรับ “หมออ๋อง” เข้าพรรค
กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเป็นธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวว่า พรรคก้าวไกลอาจต้องขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ออกจากพรรคฯ เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งพรรคเป็นธรรมอาจเป็นหนึ่งในทางเลือก ระบุว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการระหว่างพรรคเป็นธรรมและพรรคก้าวไกล
มีเพียงการพูดคุยส่วนตัวระหว่างตนและนายปดิพัทธ์เวลาเจอกันในสภา ตนก็เคยบอกว่าถ้ามีอะไรที่จะมีการพูดคุยกันได้

พรรคเป็นธรรมยินดีให้การสนับสนุนทุกอย่าง แต่ไม่มีการลงลึกในรายละเอียด
เป็นเรื่องที่ทางกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลจะต้องพิจารณาซึ่งตน ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ ต้องรอมติของทางพรรคก้าวไกล ให้เป็นไปตามกระบวนการของพรรค และกระบวนการตามกฎหมาย
ยืนยัน จุดยืนของพรรคเป็นธรรมว่าพร้อมสนับสนุนและยืนอยู่ข้างก้าวไกล ตามมติของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะฉะนั้นหากพรรคก้าวไกลอยากจะพูดคุย พรรคเป็นธรรมเปิดประตูทุกบานอยู่แล้ว
“นพดล” มั่นใจรัฐบาลเพื่อไทยเดินหน้าแก้รธน.ให้เป็นฉบับประชาชน
นพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์กรณีคณะรัฐมนตรีมีมติตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์เป็นผู้รับผิดชอบ การดำเนินงานในส่วนของสภาฯจะเป็นอย่างไร ว่า ตอนเป็นฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทยเคยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมี สสร. และไม่แตะหมวดหนึ่งและหมวดสอง
ตอนหาเสียงเราก็มีนโบบายแก้รัฐธรรมนูญ เมื่อได้เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลแล้วพรรคก็จะผลักดันฃการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจุดมุ่งหมายคือการมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

และต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เพราะต้องได้เสียงสนับสนุนจากทั้งสว.และสส.ฝ่ายค้านด้วย เราต้องหาแนวทางว่าในทางปฏิบัติสิ่งใดจะเป็นไปได้มากที่สุด โดยยึดประโยชน์ต่อส่วนร่วม
ตอนนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคอยู่ระหว่างรับฟังเสียงสส.ทั้ง 141 คน เมื่อได้ข้อสรุปจะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้เราเห็นความตั้งใจของรัฐบาลที่ขับเคลื่อนตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก เป็นจุดเริ่มต้นการรับฟังเสียงทุกภาคส่วน พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนแก้รัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่องหวังว่าเรื่องดังกล่าวจะเดินหน้าอย่างไม่ล่าช้า ตามขั้นตอนจนบรรลุเป้าหมายได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงโดยยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ
“สมชัย” ไล่ “พิชิต” ไปอ่านรธน.ใหม่ ก่อนมาฟ้อง 50 ล้าน
พิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เตรียมส่งทนายความฟ้องดำเนินคดี สมชัย ศรีสุทธิยากร ต่อศาลอาญา ในวันที่ 19 ก.ย. นี้ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของนายสมชัย ได้โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า ฟ้องมาก็ฟ้องกลับครับ ไม่ว่าอะไร เคยสมัคร สส. นั่นคุณสมบัตินึง คุณสมบัติรัฐมนตรี ก็อีกคุณสมบัตินึง ไม่เหมือนกันคนละมาตรา จะมาอ้างว่า เคยสมัคร สส. แล้วไม่มีปัญหาไม่ได้ครับ

พร้อมทั้งบอกให้พิชิตไปอ่านรัฐธรรมนูญให้ครบก่อนมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้วย
ก่อนหน้านี้พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะรับมอบอํานาจจากนายพิชิต ให้ดำเนินคดีกับนายสมชัย โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า เห็นนายสมชัย ทราบข่าวนายพิชิตมอบอำนาจให้ผมฟ้องคดีฐานหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท
“อมรรัตน์” ชี้หัวหน้าพรรค “ก้าวไกล” คนใหม่นิสัยต้องเหมือน “พิธา”
อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ “เจี๊ยบ” รักษาการกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul
อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ระบุถึง คุณสมบัติหัวหน้าพรรค เก้าไกลคนใหม่ ที่จะมาแทนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า
“หัวหน้าพรรคคนใหม่ คุณสมบัติก็จะไม่ต่างจาก นายพิธา ตรงไปตรงมส รักษาสัญญา ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า #ก้าวไกล”
สมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า

“พิธา ลาออกจากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพ้นจากตำแหน่งทั้งชุด ประชุมสมาชิกพรรค เลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารใหม่ ภายใน 60 วัน แต่ยังมีกรรมการบริหารรักษาการอยู่
ที่ประชุมร่วม ส.ส. กับ กรรมการบริหารพรรค ลงมติ ไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ลงมติขับ หมออ๋อง ออกจากพรรค เนื่องจากขัดมติที่ขอให้ลาออกจากรองประธานสภา
หมออ๋อง หาพรรคใหม่ ใน 30 วัน เช่น ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นธรรม ทำให้ยังคงมีสมาชิกภาพเป็น ส.ส. และ คงตำแหน่งรองประธานสภา ได้
ก้าวไกล เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภา
สรุป ได้ทั้ง รองประธานสภา และ ผู้นำฝ่ายค้านในสภา จำนวน ส.ส. ฝ่ายค้านเท่าเดิม พรรคเป็นธรรม มี ส.ส.เพิ่มขึ้นอีกคนใครวางแผนให้เนอะ มือยิ่งกว่าชั้นเซียนเหยียบเมฆ”