HomeBT NewsBusiness Today Thai Politics 18 กรกฎาคม 2566 / ภาคบ่าย

Business Today Thai Politics 18 กรกฎาคม 2566 / ภาคบ่าย



“ชัยธวัช” รับโทรหา ปชป.สอบถามท่าทีตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข่าวระบุว่าตนได้มีการติดต่อกับพรรคประชาธิปัตย์ และมีเสียงตอบรับอย่างไร โดยยอมรับว่าวันก่อนได้มีการโทรหาเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์จริง แต่ท่านยังไม่ได้รับสาย อีกเบอร์หนึ่งปิดเครื่อง และไม่ได้โทรไปต่อ จริงๆ เจตนาคืออยากโทรไปเช็คท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร หากจะมีการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากเสียงข้างน้อยแค่นั้นเอง ไม่มีอะไร

- Advertisement -


เมื่อถามว่ายืนยันว่าไม่ได้เป็นการรวมเสียงใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า “ไม่ครับ เพราะว่าถ้ามีเรื่องนี้คงต้องเอาเข้าที่ประชุมพรรค ผู้บริหารพรรคก่อน รวมทั้งเอาไปหารือในที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย

เมื่อถามว่ามีการเตรียมหารือถึงกรณีที่ ส.ว.ระบุว่าจะเสนอญัตติโหวตพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลซ้ำไม่ได้อย่างไร ชัยธวัช กล่าวว่า ทางฝั่งของ 8 พรรคเห็นตรงกัน ว่ามันไม่น่าจะตีความว่าการโหวตนายกฯ เป็นญัตติทั่วไปตามข้อบังคับที่ 41 ได้ หากไปตีความแบบนั้นอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าการโหวตนายกฯ เป็นการแยกออกมา ตามรัฐธรรมนูญชัดเจน มีกระบวนการ มีหลักเกณฑ์ในการเลือกชัดเจน คล้ายๆ กับการเลือกองค์กรอิสระของ ส.ว. ซึ่งเมื่อก่อนก็เคยมีบ้างบางครั้งที่เสนอชื่อซ้ำ และก็ไม่เห็นมีการตีความข้อบังคับแบบนั้น เพราะว่ามันก็มีการกำหนดวิธีการแยกออกมาเฉพาะจากญัตติทั่วไปอยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญ ก็จะมีการหารือกันในวิปด้วย


สหรัฐฯกังวลระบบกฎหมายไทย ผู้ชนะเลือกตั้งถูกฟ้องคดี

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าแมททิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวตามปกติ ถึงสถานการณ์การเมืองไทยหลังเลือกตั้งว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่ได้มีธงในใจสำหรับการเลือกตั้งของไทยครั้งนี้ แต่สนับสนุนกระบวนการที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชนไทย


โดยสหรัฐฯกำลังจับตาสถานการณ์หลังเลือกตั้งอย่างใกล้ชิดมาก รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการทางกฎหมายเมื่อเร็วๆ นี้ซึ่งพวกเราเป็นห่วง รอยเตอร์รายงานต่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เสนอแก้ไขกฎหมายอาญาม.112 และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาพิธาถือหุ้นสื่อขัดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งสองคดีก่อให้เกิดความกังวลว่าพิธาอาจขาดคุณสมบัติเป็น ส.ส. หรือพรรคก้าวไกลอาจถูกยุบ อย่างที่พรรคอนาคตใหม่เคยโดนมาแล้วในปี 2563


“อุ๊งอิ๊ง” ประกาศเพื่อไทยพร้อมเสนอชื่อ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ หาก “พิธา” พลาดโหวต

แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ระบุหากโหวตนายกฯรอบสองคะแนนไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจะเป็นหน้าที่ของเพื่อไทยว่าพิธา คงพูดไปตามระบบ ขอให้ทำให้เต็มที่ก่อนในวันที่ 19 ก.ค. ยืนยันเพื่อไทยสนับสนุน แต่ที่สุดแล้วผลจะเป็นอย่างไรคงต้องรอดู


เมื่อถามว่า หากที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย มองว่าการเสนอนายพิธา เป็นญัตติซ้ำขัดกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ 41 อาจจะทำให้ต้องเสนอชื่ออื่น นายแพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่เราเตรียมการ คือ การโหวตให้พิธา แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงในวันที่ 19 ก.ค. กรรมการบริกรพรรค (กก.บห.) ต้องคุยกันก่อน เมื่อถามว่าแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 คน ได้พูดคุยกันบ้างหรือไม่ หากถึงเวลาต้องเสนอชื่แคนดิเดต จะเป็นใคร แพทองธาร กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยก็จะเสนอ เศรษฐา ทวีสิน อันนี้เป็นที่ชัดเจน แต่เราทำไปทีละขั้น

เมื่อถามว่า หากนายกฯเป็นเศรษฐาแล้ว แพทองธาร จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดในส่วนของตัวเองไว้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรแคนดิเดตทั้ง 3 คนจะช่วยกันทำงาน

เมื่อถามถึงกระแสข่าว ส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทย ไม่สนับสนุนเศรษฐา แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นการตกลงกันในพรรค ตนไม่ทราบว่าข่าวมากจากไหน แต่ตนสนับสนุนเศรษฐา ตอนนี้ประเทศชาติไม่ง่าย เพราะฉะนั้นเราคิดว่าตัวเลือกที่สุดกับประเทศ ณ ตอนนี้ คือเศรษฐา ที่จะช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจ


“ก้าวไกล” เสนอกฎหมายเปลี่ยนประเทศ 7 ฉบับ ปฏิรูปกองทัพ – สกัดทุนผูกขาด

ที่รัฐสภา พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล เสนอร่างกฎหมายเปลี่ยนประเทศ จำนวน 2 ชุด รวม 7 ฉบับ ได้แก่ ชุดกฎหมายปฏิรูปกองทัพ 5 ฉบับ และ ชุดกฎหมายปิดช่องทุนผูกขาด 2 ฉบับ โดยมีตัวแทนประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับเอกสาร


สาเหตุของการมีอยู่ของพรรคก้าวไกลคือการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้มีการเมืองที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน มีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม มีระบบการบริหารราชการที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ และมีสังคมที่เท่าเทียมและโอบรับความหลากหลาย เริ่มต้นจากการผลักดันนโยบายที่พรรคก้าวไกลได้ให้สัญญากับประชาชนในการเลือกตั้ง ผ่านสองกลไกสำคัญคือ กลไกฝ่ายบริหารและกลไกฝ่ายนิติบัญญัติ

ปัจจุบัน พรรคก้าวไกลได้เตรียม ‘ชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศ’ ไว้ทั้งหมด 14 ชุด โดยวันนี้เป็นการยื่นร่างกฎหมาย 2 ชุดแรก รวมกันทั้งหมด 7 ฉบับ ได้แก่ ชุดที่หนึ่ง ชุดกฎหมายปฏิรูปกองทัพ (Demilitarize) จำนวน 5 ฉบับ เพื่อทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน ประกอบด้วย

  • ร่าง พ.ร.บ. รับราชการทหาร เพื่อยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารในยามปกติ และเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ 100%
  • ร่าง พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เพื่อตัดอำนาจสภากลาโหม ให้พลเรือนอยู่เหนือกองทัพ
  • ร่าง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสเรื่องภาระค่าใช้จ่ายและเงินนอกงบประมาณทั้งหมดของรัฐ
  • ร่าง พ.ร.บ. ยกเลิก พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เพื่อดำเนินการยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
  • ร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกประกาศ คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. เพื่อยกเลิกประกาศและคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพ
    ชุดที่สอง ชุดกฎหมายปิดช่องทุนผูกขาด (Demonopolize) จำนวน 2 ฉบับ เพื่อส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม และยกระดับขีดความสามารถของเศรษฐกิจไทย ประกอบด้วย
  • ร่าง พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต หรือร่าง ‘สุราก้าวหน้า’ เพื่อปลดล็อกการผลิตสุราของผู้ผลิตรายย่อยและสุราชุมชน
  • ร่าง พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้า เพื่อสร้างกติกาแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม ปฏิรูปคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า และออกกฎ ‘คนฮั้ววงแตก’ ในการป้องกันการฮั้วประมูลของบางบริษัทที่ร่วมมือกันผูกขาดหรือลดการแข่งขัน
    ส่วนชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศอีก 12 ชุด ที่พรรคก้าวไกลจะยื่นต่อสภาฯ หลังจากนี้ ประกอบด้วย ชุดกฎหมายปลดล็อกท้องถิ่น, ชุดกฎหมายปฏิรูประบบราชการ, ชุดกฎหมายป้องกันการทุจริต, ชุดกฎหมายยกระดับบริการสาธารณะ, ชุดกฎหมายปฏิรูปที่ดิน, ชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงาน, ชุดกฎหมายรักษาสิ่งแวดล้อม, ชุดกฎหมายปฏิรูประบบภาษี, ชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ, ชุดกฎหมายโอบรับความหลากหลาย, ชุดกฎหมายยุติความขัดแย้ง และชุดกฎหมายแก้รัฐธรรมนูญ


“ธนกร” เผย “ประยุทธ์” ห่วงการชุมนุม – ล่าแม่มด ทำสังคมแตกแยก

ธนากร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้มีการพูดคุยประเด็นการเมืองกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมบ้าง ซึ่งนายกฯห่วงเรื่องการชุมนุม ที่พรุ่งนี้จะมีมวลชนหลายฝ่ายทั้งกลุ่มที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบไปชุมนุมที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นห่วงและฝากให้เจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนทุกฝ่ายให้เรียบร้อย ไม่อยากให้ฝั่งใดฝั่งหนึ่งทำผิดกฎหมาย ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการให้เกิดความเรียบร้อย


ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูดถึงกระแสข่าวพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐจะลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยในการโหวตครั้งที่สอง และไม่ได้พูดเรื่องการเมืองกับพล.อ.ประวิตรด้วย แต่พูดในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการในความเป็นห่วงการชุมนุมมากกว่า เพราะมีข่าวว่ามีมวลชนทั้ง 2 ฝ่ายไปชุมนุม ท่านไม่อยากให้ประเทศไปสู่การขัดแย้ง

โดยมองว่าวันนี้สิ่งที่ทำมา 8-9 ปีประเทศควรสงบและเดินไปข้างหน้า อยากให้การเมืองสงบด้วย เมื่อถามว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอาจยืดเยื้อไปถึงครั้งที่ 3 นายกได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องนี้หรือไม่ นายธนกรย้ำคำเดิมว่านายกห่วงเรื่องอื่นมากกว่า เรื่องการเมืองก็ให้เป็นไปตามกลไกสภา พรรคอันดับหนึ่งไม่ได้ก็ให้เป็นของพรรคอันดับ 2 อันดับ 3 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้นเอง ส่วนตัวมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องใช้เวลา ยังไงก็ต้องมีรัฐบาลมีนายกรัฐมนตรี

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News