เปิดเข้าชม “พระราชวังบวรสถานมงคล” ได้ทุกทีทุกเวลาในรูปแบบดิจิทัล เปิดให้คนไทยและชาวโลกได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยอันล้ำค่า ผ่าน Google และเข้าชมได้เสมือนจริงแบบ Street View
กรมศิลปากรกระทรวงวัฒนธรรมร่วมมือกับ Google Arts and culture ภายใต้การสนับสนุนจากท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เปิดตัว “วังหน้านฤมิต ในมิติกาลเวลา”ผ่านพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบดิจิทัล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของ พระราชวังบวรสถานมงคล หรือ “วังหน้า” ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยที่จะได้เปิดให้ชาวโลกสามารถเข้ามาเที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของไทยได้จากทั่วโลกผ่านพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบดิจิทัล
ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ผู้อำนวยการโครงการศึกษาสันนิษฐานรูปแบบพระราชวังบวรสถานมงคล(วังหน้า) และสื่อความหมายด้วยเทคโนโลยี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า เนื่องจากในช่วงวัยเด็ก ไม่ได้เรียนอยู่ในประเทศไทยจึงเข้ามาเริ่มทำโครงการนี้เพื่อที่จะทำความรู้จักกับวัฒนธรรมของประเทศไทย จึงสนใจใน “วังหน้า” และด้วยการทำงานที่อยู่ในกรมศิลปากรจึงทำให้ได้พบกับนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในกรมศิลปากร และปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แล้วถ้าหากกาลเวลาเปลี่ยนไปเยาวชนในอนาคตจะรู้ได้อย่างไรว่าในอดีตมีประวัติความเป็นมาเป็นอย่างไร
ซึ่งในอนาคตจะเป็นเรื่องของการเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นการทำให้วัฒนธรรมและข้อมูลรวมถึงประวัติศาสตร์ต่างๆของประเทศไทยสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายและทุกที่ทุกเวลาจึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พิพิธภัณฑ์ของกรมศิลปากรถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มี โบราณวัตถุและวัตถุอันล้ำค่าทางวัฒนธรรมจำนวนมาก ดังนั้นหากสามารถทำให้ผู้คนมากมายทั่วโลกสามารถที่จะเข้าถึงศิลปะวัฒนธรรมไทยได้อย่างกว้างขวางทุกที่ทุกเวลาและสามารถสัมผัสความสวยงามอันล้ำค่านี้ได้ก็จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ทำให้วัฒนธรรมไทยก้าวไปสู่ระดับโลก
นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ระบุว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากในการที่จะได้เปิดโครงการ พิพิธภัณฑ์ในรูปแบบดิจิทัล พี่จะซิ่งกรมศิลปากรได้มีการดำเนินการทำให้ข้อมูลและวัฒนธรรมต่างๆของกรมศิลปากรเข้ามาอยู่ในรูปแบบดิจิตอลตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งกรมศิลปากรได้มีการพยายามนำระบบดิจิตอลเข้ามาส่งเสริมเรื่องราวต่างๆ ซึ่งกรมศิลปากรได้มีการนำระบบดิจิทัลเข้ามาส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆและวัฒนธรรมไทยของกรมศิลปากรไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยี AR และเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดซึ่งที่ผ่านมามี ผลตอบรับการที่มีผู้เข้าชมนับล้านคนต่อเดือน ผ่านช่องทางต่างๆของกรมฯ ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องของวัฒนธรรม บางครั้งอาจเป็นเรื่องที่ล้าหลังและไม่เท่าทันต่อโลกแต่ถ้าหากสามารถนำมารวมกับเทคโนโลยีและรวมเข้ากับความก้าวหน้าก็จะสามารถทำให้คนรุ่นใหม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเปิดกว้างและเข้าใจวัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่ากรมศิลปากรเป็นกลมที่ค่อนข้างล้าหลังแต่ทางเรารู้สึกยินดีที่ทางด้านท่านผู้หญิงสิริกิตติยาให้ความสำคัญกับกรมศิลปากรและให้ความสำคัญกับเรื่องของมรดกทางวัฒนธรรมและศิลปะอันล้ำค่าของประเทศไทย อีกทั้งยังเชื่อว่าการที่มีพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบดิจิทัลแบบนี้จะทำให้เด็กและเยาวชนไทยคนรุ่นใหม่สามารถที่จะเรียนรู้เรื่องราวอันทรงคุณค่าของประเทศไทยให้คงอยู่สืบต่อไปและก้าวไปสู่สายตาชาวโลกต่อไป
นายจิรวัฒน์ ภูมิศรีแก้ว หัวหน้าฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ Google (ประเทศไทย) ระบุว่า พิพิธภัณฑ์ในรูปแบบดิจิตอลจะเป็นหนึ่งในประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ซึ่งภายในงาน Google for Thai ในช่วงที่ผ่านมา มีการประกาศ 4 พันธกิจหลักเพื่อที่จะพัฒนาประเทศไทยนั่นคือการเพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต , การเพิ่มทักษะทางด้านดิจิตอลและการศึกษาในประเทศไทย , การเสริมสร้างเนื้อหาส่วนภูมิภาคให้ก้าวไปสู่ระดับสากล และ การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดเล็ก
ซึ่งทาง Google มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำไปลงในเพลตฟอร์ม Google Art and culture เข้ามาให้บริการในประเทศไทยและหวังว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่จะสามารถทำให้ทุกคนจากทั่วทั้งโลกสามารถเข้าถึงวัฒนธรรมต่างๆได้เข้าถึงจากทุกที่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่ง Google ได้พัฒนาและนำเอาเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาพัฒนาและสร้างการเข้าถึงให้ง่ายมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการถ่ายภาพความคมชัดสูงรวมถึงเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง(AR) พร้อมทั้งมองว่าการเสริมสร้างรูปแบบวัฒนธรรมและความรู้ในรูปแบบดิจิตอลจะทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการที่จะเรียนรู้มากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันการที่จะทำให้วัฒนธรรมไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลกส่วนหนึ่งก็ต้องเกิดจากคนไทย ที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพและส่งเสริมวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักได้มากยิ่งขึ้น สิ่งที่ผ่านมาในการครบรอบความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา และการครบรอบ 101 ปีธงชาติไทย ก็มีการบันทึกเรื่องราวต่างๆลงในแพลตฟอร์มของ Google Art and culture ปัจจุบัน Google มีพันธมิตรพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด 10 แห่ง โดยมีนิทรรศการออนไลน์มากกว่า 30 เรื่องและมีวัตถุอันล้ำค่าทางวัฒนธรรมจากแสดงอยู่มากกว่า 960 ชิ้น แม้อาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อหาทั้งหมดในประเทศไทยแต่เชื่อว่าสามารถที่จะแสดงให้ชาวต่างชาติเห็นได้ว่าประเทศไทยยิ่งใหญ่และมีวัฒนธรรมอันล้ำค่ามากน้อยเพียงใดได้
นอกเหนือจากภาพและวีดีโอแล้ว ยังมีการนำเอาเพลงเข้ามาประกอบขณะการเข้าชม ซึ่งนอกเหนือจากนี้ยังมีการเปิดบิลเชื่อมวิวซึ่งเปิดให้ ผู้เข้าชมสามารถที่จะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ในรูปแบบเสมือนจริงแบบ 360 องศาคล้ายกับ Google Street View ที่ให้คนสามารถลงไปอยู่ในสถานที่จริง
