“วันนอร์” ชี้ข้อบังคับสภาฯไม่กำหนดให้แคนดิเดตนายกฯต้องแสดงวิสัยทัศน์
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวว่าจะมีการเชิญสมาชิกรัฐสภาประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ส.ค.ซึ่งตนได้หารือกับประธานวุฒิสภาเรียบร้อย รัฐสภาจึงได้กำหนดเวลาโดยในวันนี้(17ส.ค)เวลา 14.00 น. ได้ให้ฝ่ายกฎหมายและฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายละเอียดคำวินิจฉัยของศาลเมื่อฝ่ายกฎหมายได้ประชุมกันเรียบร้อยแล้วประธานรัฐสภาจะนำเรื่องหารือ3ฝ่าย เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับวันประชุมเพื่อโหวตนายก

เมื่อถามว่ามีส.ว. บางคนแสดงความเห็นว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ควรที่จะต้องมาแสดงวิสัยทัศน์ต่อรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ในข้อบังคับไม่ได้กำหนดไว้ว่าผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจะต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งในการเลือกเมื่อปี 2562 ผู้ถูกเสนอชื่อทั้ง2คนไม่ได้เป็นส.ส.ก็ไม่ได้มาแสดงวิสัยทัศน์ อย่างไรก็ดีในเรื่องของข้อกฎหมายก็จะหารือในวันพรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอญัตติให้ทบทวนมติของที่ประชุมรัฐสภา ที่ให้การเสนอชื่อพิธา เป็นนายกฯ รอบสองเป็นการเสนอญัตติซ้ำ นั้นเรื่องนี้อยู่ในวาระการประชุมอยู่แล้ว เมื่อมีคำวินิจฉัยศาลก็ต้องหารือต่อไป โดยจะดำเนินการตามข้อบังคับ และจะทบทวนอย่างไรต้องอยู่ในกรอบคำวินิจฉัยศาลที่ออกมาแล้วด้วยเมื่อศาลไม่รับคำร้องก็ถือว่าสิ่งที่รัฐสภาได้ประชุมไปแล้วเป็นสิ่งที่ถูกต้องไม่ขัดต่อสิ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งไป
“ทักษิณ” กลับไทยแน่หลังโหวตนายกฯ ลงสนามบินดอนเมือง คราวนี้ไม่เลื่อนแล้ว
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ ถึงกระแสข่าว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 21-22 ส.ค. 2566 ว่าทักษิณ ต้องการให้การเมืองนิ่งก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ตามที่เจ้าตัวระบุว่าขอเลื่อนไปอีก 2 สัปดาห์ นับจาก 10 ส.ค. ที่เป็นวันกำหนดเดินทางเดิม โดยคาดว่าน่าจะเดินทางกลับหลังจากโหวตนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นหลังวันที่ 22 ส.ค. นี้แน่นอน

ยืนยันว่างวดนี้ไม่เลื่อนการเดินทางกลับไทยแล้ว เพราะอยากกลับมาอยู่กับลูกหลาน ยิ่งลูกหลานไปหาก็ยิ่งอยากกลับ ส่วนเส้นทางกลับไทยยังคงเป็นเส้นทางเดิม คือ ใช้เครื่องบินส่วนตัว บินจากฮ่องกง มาลงที่สนามบินดอนเมือง
ส่วนกระแสข่าวจากปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ รองศาสตราจารย์ประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ที่ระบุวันที่อดีตนายกฯทักษิณจะกลับไทยวันที่ 21 – 22 ส.ค. ไม่รู้ว่าปวินได้ข่าวนี้มาได้อย่างไร เพราะคนในเพื่อไทย หรือคนใกล้ชิดก็ยังไม่ทราบข่าวนี้เลย
“เสรี” จับตาข้อร้องเรียน “เศรษฐา” รับ สว.กังวลคุณสมบัติไม่เหมาะเป็นนายกฯ
เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ( สว. ) ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เปิดเผยว่า กมธ. มีการพิจารณาคำร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทแสนสิริ จำกัด ( มหาชน) ว่า มีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษีการซื้อขายที่ดินย่านสารสินหรือไม่

ทั้งนี้กมธ. ได้ทำหนังสือเพื่อขอเอกสารและข้อมูลจากกรมที่ดิน เมื่อวันที่ 11 ส.ค. แต่ กรมที่ดิน ไม่สามารถจัดส่งเอกสารได้ทันการพิจารณาของกมธ. แต่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างเร่งด่วนแล้ว
กมธ.ได้นำข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ที่ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เปิดเผยมาพิจารณา ที่เกี่ยวข้องกับนายเศรษฐา รวมถึงข้อมูลล่าสุดต่อกรณีใช้นอมินีทำนิติกรรมเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อซื้อที่ดินด้วย ซึ่งขณะนี้กมธ.ยังไม่สรุปในรายละเอียดใด ขอศึกษาเอกสารและรายละเอียดที่มีให้ครบถ้วนก่อน
โดยตอนนี้กมธ. ยังไม่สรุปว่านายเศรษฐานั้นเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้าม หรือ เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ หรือไม่ เพราะไม่ต้องการพูดไปล่วงหน้า ต้องขอดูรายละเอียดเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วย รวมถึงคำชี้แจงของบริษัทแสนสิริด้วย ขณะที่นายเศรษฐานั้น กมธ.คงไม่เชิญมาชี้แจงเพราะเป็นประเด็นสาธารณะที่เจ้าตัวมีสิทธิจะชี้แจงหรือไม่ชี้แจงต่อสาธารณะได้ “
โดยเงื่อนไขที่ สว. จะใช้พิจารณาขณะนี้ เป็นเรื่องที่นอกเหนือจากคุณสมบัติเศรษฐา เพราะต้องดูนโยบาย และทิศทางของการนำพาประเทศ ซึ่งขณะนี้มองดูแล้วว่าพรรคเพื่อไทยที่มีนโยบายทำประชามติแก้รัฐธรมนูญโดย สภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง อาจทำให้ประเทศศยุ่งยาก วุ่นวาย รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายแจกเงินดิจิทัล ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประเด็นที่ทำให้ ชื่อของเศรษฐา นั้นไม่น่าจะผ่านไปได้
ประชาธิปัตย์ เคาะชื่อ “นพ.บัญญัติ” ลงเลือกตั้งซ่อมระยอง เชื่อได้เป็น ส.ส.อีกรอบ
สาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งดูแลภาคกลาง แถลงผลการประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติส่ง นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 3 สมัยของพรรค เป็นผู้สมัครในการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดระยอง เขตเลือกตั้ง 3กระบวนการถัดไปจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเซ็นหนังสือรับรองสำหรับนำไปดำเนินการสมัครรับเลือกตั้งซ่อมต่อไป

นพ.บัญญัติ แจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า วันนี้(16 สิงหาคม) เวลา 14.30 น. จะเดินทางไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ณ ศาลาอเนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอแกลง ขณะที่ก่อนหน้า เจ้าตัวยังได้โพสต์ขอบคุณ นายสาธิต และพรรคประชาธิปัตย์ ที่สนับสนุนให้ลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมระยอง เขต 3 ด้วย.
สำหรับการเลือกตั้ง สส.ระยอง ครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้ง สส. เขต ด้วยบัตรใบเดียว โดยเจตนารมณ์คืออยากให้ประชาชนได้เข้าใจว่าบัตรใบเดียวก็เป็นการเลือกตั้งคนที่จะต้องมีคุณสมบัติที่มีความผูกพันกับพื้นที่ รู้ปัญหา และมีคุณภาพที่พรรคการเมืองได้ตรวจสอบแล้วว่า เป็นคนที่ไม่มีประวัติด่างพร้อย มีผลงานที่ชัดเจน
ถามว่าเรื่องนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างความคิดในแง่การเลือกคุณภาพของคนเข้ามาเป็น สส. ซึ่งการแก้ไขกฎหมายที่ผ่านมา โดยเฉพาะตนเป็นประธานกรรมาธิการแก้ไขกฎหมาย มีการเปลี่ยนบัตรเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวมาเป็นบัตร 2 ใบ โดยใช้หลักการว่าสิทธิประชาชนน่าจะมีเพิ่มขึ้น
โดยบัตรใบหนึ่งเป็น สส.ในระบบบัญชีรายชื่อ และบัตรอีกใบเป็นการเลือก สส.เขต ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกัน บัตรบัญชีรายชื่อจะเน้นไปยังผู้ที่เป็นนักวิชาการ เป็นมันสมองของพรรค สามารถไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ส่วน สส.เขต คุณสมบัติเด่นคือต้องเป็นคนในพื้นที่ อยู่ใกล้ชิดประชาชน ทราบปัญหาของพื้นที่นั้นๆ นั่นคือที่มาของเจตนารมณ์ของบัตรเลือกตั้งสองใบ
ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความมั่นใจในศักยภาพ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์การทำงานที่ไม่เคยทิ้งประชาชน อยู่ทำงานให้กับพี่น้องประชาชน เขต 3 จ.ระยอง เสมอมา โอกาสและความหวังของพี่น้องประชาชนมาถึงแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจว่าประชาชนจะให้โอกาส นพ.บัญญัติ และพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำงานรับใช้ชาวระยองต่อไป
“ไทยสร้างไทย” ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมระยอง ชี้ควรเคารพฝ่ายประชาธิปไตยที่ชนะครั้งก่อน
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวในฐานะผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้ง สส.พรรคไทยสร้างไทย ว่า จากกรณีที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่องกำหนดวันเลือกตั้งและวันรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 ในวันที่ 10 กันยายน 2556 แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากนครชัย ขุนณรงค์ ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

คณะกรรมการพรรค มีความเห็นร่วมกันว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรคที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ได้รับคะแนนเสียงข้างมากอย่างท่วมท้น ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีจุดยืนในฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เป็นที่เหยียบยืนให้มีการสืบทอดอำนาจ และมีเป้าหมายที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคืนประชาธิปไตยเต็มใบให้กับประชาชน เช่นเดียวกับพรรคไทยสร้างไทย
ทั้งนี้แม้ว่าการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสิทธิของแต่ละพรรคการเมืองที่จะส่งหรือไม่ แต่เพื่อให้การทำงานตามเป้าหมายที่มีร่วมกันในรัฐสภาอย่างมีเอกภาพ จึงควรเปิดโอกาสให้พรรคที่ได้รับคะแนนเสียงสูงกว่าที่มีจุดยืนร่วมกันเป็นผู้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตยต่อไป พรรคจึงไม่ประสงค์จะส่งผู้สมัครเข้าแข่งขันในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้