HomeBT Newsย่อข่าวธุรกิจต่างประเทศ ภาคเช้า 17 กุมภาพันธ์ 2566

ย่อข่าวธุรกิจต่างประเทศ ภาคเช้า 17 กุมภาพันธ์ 2566

จีนเผยจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินเดือนม.ค.พุ่ง 34.8%

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน ว่าจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินของจีนในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 34.8% เมื่อเทียบรายปี หลังจากยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (zero-COVID policy)

รายงานยังระบุด้วยว่า จีนกลับมาให้บริการเที่ยวบินโดยสารกับอีก 58 ประเทศนับตั้งแต่เปิดพรมแดนในวันที่ 8 ม.ค.

- Advertisement -

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีสายการบินจีนและสายการบินต่างชาติทั้งหมด 98 สายการบิน ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ 795 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 65% จากสัปดาห์ก่อนที่จีนจะยกเลิกข้อกำหนดกักตัวนักเดินทางขาเข้า

ขณะเดียวกัน มีรายงานตัวเลขปริมาณการขนส่งผู้โดยสารของสายการบินชั้นนำ 3 สายของจีน ที่ดีดตัวขึ้นตามการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง โดยสายการบินไชนา เซาเทิร์น แอร์ไลนส์ มีผู้โดยสาร 72.7% ของที่นั่งเมื่อเดือนม.ค. , สายการบินแอร์ไชนามีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร 69.9% ตามด้วยสายการบินไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลนส์ ที่ 68.3%

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเที่ยวบินระหว่างประเทศ ดำเนินไปช้ากว่าเที่ยวบินในประเทศ เพราะสายการบินต่างๆ ต้องใช้เวลาในการจัดเตรียมและฟื้นเส้นทางบิน ส่วนผู้โดยสายจำนวนหนึ่งก็ยังลังเลที่จะเดินทางไปต่างประเทศ

ทั้งนี้ จีนถือเป็นตลาดการท่องเที่ยวขาออกที่ใหญ่ที่สุดในโลกก่อนจะเกิดโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางทั่วโลกหยุดชะงัก โดยนักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงินรวมประมาณ 2.55 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2562

สำนักงบประมาณเตือนสหรัฐจ่อผิดนัดชำระหนี้

สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) เตือนว่า กระทรวงการคลังสหรัฐอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.ปีนี้ นอกเสียจากว่ากระทรวงการคลังจะสามารถตกลงกับสภาคองเกรสเพื่ออนุมัติการปรับเพิ่มเพดานหนี้ หรือยกเลิกเพดานหนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์

CBO ระบุในรายงาน แสดงความกังวลว่าการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐ อาจจะเกิดขึ้นก่อนเดือนก.ค.ปีนี้ หากรายได้ที่ไหลเข้าสู่กระทรวงการคลังในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นเดือนที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะต้องยื่นแบบชำระภาษีประจำปี อยู่ต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้

เมื่อพิจารณาจากขนาดของรายได้ที่กำลังจะได้รับ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มอ่อนแอลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ทำให้เป็นเรื่องยากที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่ากระทรวงการคลังจะเริ่มผิดนัดชำระหนี้หลายรายการเมื่อใด

นอกจากนี้ CBO ระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณประจำปีของรัฐบาลโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2567- 2576 ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลให้สมาชิกพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้รัฐบาลปรับลดการใช้จ่าย ขณะเดียวกัน CBO คาดว่าอัตราว่างงานในปี 2566 จะอยู่ที่ 4.7% ซึ่งสูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 3.4%

ทั้งนี้ สมาชิกสภาทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ต่างพากันรับรองว่าสหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ และจะมีการบรรลุข้อตกลง รวมถึงจัดทำร่างกฎหมายได้อย่างทันเวลา จนไม่เกิดวิกฤติ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายฝ่ายรอดูคือเนื้อหาในร่างกฎหมายว่าจะเป็นเช่นไร และจะผ่านเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองอยู่ รวมถึงในวุฒิสภาที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ไปได้มากน้อยแค่ไหน

“ไบเดน”ดึงรองประธานหญิงเฟด นั่งสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ

ทำเนียบขาวดึงเลล เบรนาร์ด (Lael Brainard) รองประธานหญิงแห่งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปนั่งในสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ทั้งยังดึงจาเรด เบิร์นสเตน ไปคุมสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เพื่อช่วยวางแนวนโยบายเศรษฐกิจ ในช่วงที่สหรัฐเผชิญเงินเฟ้อในระดับสูง

การประกาศครั้งนี้ ถือเป็นการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาลครั้งล่าสุด หลังจากการเลือกตั้งกลางสมัย และหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน บริหารประเทศมาได้ครึ่งเทอม

ไบเดนพูดถึงเบรนาร์ดว่าเป็นนักเศรษฐศาสตร์มหภาคชั้นนำคนหนึ่งของประเทศ เป็นที่รู้จักในทุกสถาบันทางเศรษฐกิจ และเข้าใจดีว่าสภาพเศรษฐกิจส่งผลกระทบถึงชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างไร

ก่อนหน้านี้เคยมีการคาดหมายว่าเบรนาร์ด อาจได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง หรือรับหน้าที่ประธานเฟดต่อจากเจอโรม โพเวลล์ ขณะที่สมัยเจเนต เยลเลนเป็นประธานเฟดนั้น เบรนาร์ดก็เคยทำงานกับเยลเลน 3 ปี ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังช่วงปี 2552-56

คาดแผ่นดินไหวตุรกีสร้างความเสียหาย 8.6 แสนล้านบาท

รายงานของเจพีมอร์แกนระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ตุรกีเมื่อวันที่ 6 ก.พ. สร้างความเสียหายโดยตรงต่อเศรษฐกิจ คิดเป็นสัดส่วนราว 2.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือราว 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว 8.6 แสนล้านบาท

ขณะที่รายงานของสมาพันธ์ธุรกิจและวิสาหกิจตุรกี ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวจะสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 8.41 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 2.8 ล้านล้านบาท

ความเสียหายจากแผ่นดินไหวจะทำให้รัฐบาลมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน และฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของประเทศราว 7.08 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ส่งผลทำให้ประเทศสูญเสียรายได้ราว 1.04 หมื่นล้านดอลลาร์ และสูญเสียวันทำงานคิดเป็นมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์

เงินเฟ้อทำ EBRD ปรับลดแนวโน้มเติบโต

ธนาคารเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาของยุโรป (EBRD) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาค ที่ระบุว่าราคาก๊าซที่สูงและอัตราเงินเฟ้อที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เป็นตัวบั่นทอนมูลค่าที่แท้จริงของค่าจ้าง จนกระทบถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่ของยุโรป, เอเชียกลาง และแอฟริกาเหนือ

EBRD ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของภูมิภาคลงเหลือ 2.1% จาก 3% ในปีนี้ ท่ามกลางเงินเฟ้อในภูมิภาคที่เป็นสมาชิกของ EBRD ซึ่งครอบคลุม 40 ประเทศตั้งแต่คาซักสถานไปจนถึงฮังการีและตูนิเซีย ในระดับเฉลี่ย 16.5% เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ EBRD ระบุว่านอกจากนั้นยังมีความไม่แน่นอนสืบเนื่องจากสงครามในยูเครน โดยเฉพาะสำหรับประเทศที่มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ในบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งการเติบโตของ EBRD ยังสูญเสียแรงส่งตามเยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป เพราะเมื่อเศรษฐกิจเยอรมนีซบเซาก็ทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศเหล่านี้ลดน้อยลงไปด้วย

EBRD ปรับลดประมาณการการเติบโตของตุรกีลงเหลือ 3% จาก 3.5% ในปีนี้ โดยตัวเลขนี้ยังไม่ได้รวมผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่ประเมินว่าแผ่นดินไหวน่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ลดลง 1% เพราะคาดว่าหลายเดือนหลังจากนั้น จะมีความพยายามฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News