บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโตขึ้น 11% เตรียมรุกหนักตลาดคอมเมอร์เชียลภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายวิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ฟังก์ชั่นกรุ๊ปได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2540 โดยแบ่งออกเป็น 3 บริษัท ได้แก่ บริษัทฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ดำเนินธุรกิจ นำเข้าสินค้าและจัดจำหน่ายเครื่องกรองน้ำและอุปกรณ์อะไหล่สำหรับเครื่องน้ำดื่ม, บริษัทฟังก์ชั่นมารีน จำกัด ดำเนินธุรกิจ นำเข้า-จำหน่าย เรือสำราญ เรือคายัค ทุ่นลอยน้ำ และเจ็ตสกี และบริษัท ศรีชงโค จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจรีสอร์ท 3 แห่ง
ทั้งนี้ ภายในปี 2563 ฟังก์ชั่นกรุ๊ป ตั้งเป้าจะนำบริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้สำเร็จ และจะทยอยนำบริษัทในเครืออีก 2 บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายหลังด้วยเช่นกัน
สำหรับ ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นบริษัท ที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งในตลาดเครื่องกรองน้ำ เนื่องจากได้มีการสร้างแบรนด์มาอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่จดจำสำหรับผู้บริโภค โดยชิ้นส่วนเครื่องกรองน้ำที่ขายอยู่ตามตลาดกว่า 90% ล้วนแต่เป็นสินค้าของฟังก์ชั่นกรุ๊ป ขณะดียวกันไส้กรองเครื่องกรองน้ำยังถือเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด เนื่องจากมีอายุใช้งาน 2-3 เดือน
อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชั่นกรุ๊ป มีเครื่องกรองน้ำทั้งหมด 5 แบรนด์ที่วางจำหน่ายอยู่ในตลาดประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มบ้านพัก 50% ส่วนกลุ่มคอมเมอร์เชียลมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ราว 5-10% ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีการเติบโตได้ดี โดยบริษัทจะเน้นรุกตลาดคอมเมอร์เชียลมากขึ้นภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการเปิดร้านขายสินค้าชื่อ Water Store สำหรับจำหน่ายสินค้าของฟังก์ชั่นกรุ๊ปโดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้เปิดในประเทศไทยไปแล้ว 8 สาขา โดยตั้งเป้าเปิดเพิ่มเป็น 18 สาขา ภายในเดือนมีนาคม 2563 และยังได้มีการเปิดสาขาที่ประเทศลาว 1 สาขา กัมพูชา 2 สาขา โดยมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มที่เมียนมาร์อีก 1 สาขาด้วย
ขณะที่แผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าในช่วงปี 2563 จะสามารถยื่นคำร้องกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แล้วเสร็จ โดยภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายโรงงานใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาท และใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี โดยโรงงานแห่งใหม่ที่บริษัทฯสร้างขึ้น จะช่วยให้บริษัทฯเก็บสินค้าเพิ่มขึ้น 15% และจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าได้ 5-10%
ทั้งนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 200 ล้านบาท และในปี 61 มีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท รายได้รวม 720 ล้านบาท มีกำไรสะสม 112 ล้านบาท โดยปี 2562 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งปี 820 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตขึ้นจากปี 2561 กว่า 11%