จับตา “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดฟังคำสั่งวันนี้ รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ปมห้ามเสนอชื่อ “พิธา” ซ้ำหรือไม่
วันนี้ (16 ส.ค.) เวลาประมาณ09.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญ มีนัดฟังคำสั่งกรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ว่ากรณีรัฐสภา มีมติตีความว่าการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ( พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯก้าวไกล)

ให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่ 2 เป็นญัตติทั่วไป ต้องห้ามนำเสนอญัตติซ้ำอีกตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 41 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 272เป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของผู้ร้องเรียน และขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยให้มีคำสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
การสั่งคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญวันพุธนี้ มีผลเกี่ยวเนื่องกับการเมืองไทยอย่างยิ่ง เพราะเป็นบรรทัดฐานใหม่ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยแนวทางการสั่งคำร้อง ตามที่ผู้ร้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณา
ในกรณีนี้การสั่งคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญมีสามแนวทางประกอบด้วย
1. ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้พิจารณา และ กำหนดมาตราการคุ้มครองชั่วคราวสั่งชะลอการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ
2. ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาโดยไม่กำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว และ 3.คือยกคำร้อง
“ชลน่าน” มั่นใจเสียงสนับสนุน “เศรษฐา” นั่งนายกฯเกิน 375 เสียง
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในการเสนอชื่อบุคคลโหวตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้ซึ่งสมควรแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย และ สส. ของพรรคจะสนับสนุนทั้ง 141 เสียง รวมถึงเสียงของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็จะมีทิศทางไปในทางเดียวกัน และมั่นใจว่าจะมีเสียงเกิน 375 เสียงขึ้นไป โดยวันเลือกนายกรัฐมนตรี คาดการณ์ว่าจะเป็นวันที่ 18 หรือ 21 ส.ค. ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภากำหนด

สำหรับกรณีที่พรรคก้าวไกล มีมติไม่โหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยไม่มีท่าทีใด เพราะถือเป็นมิติการเมืองที่ต่างฝ่ายต่างมีท่าที พรรคเพื่อไทยเคารพการตัดสินใจ และขอตอบอย่างจริงใจว่า ไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งตั้งแต่มีข้อเสนอและพบปะพูดคุยกับพรรคก้าวไกลล่าสุด ประเมินสถานการณ์การเมืองตลอด ยอมรับว่าโอกาสยากที่ก้าวไกลจะยกมือให้เพื่อไทย
ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การรวบรวมเสียงนั้นได้เกิน 375 เสีย งแน่นอน หากโหวตได้นายกรัฐมนตรีและมีการโปรดเกล้าฯ ก็พร้อมจัดตั้งรัฐบาลมาแก้ไขปัญหา เชื่อมั่นว่าเศรษฐา ทวีสิน จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนจะมีพลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ ต้องรอความชัดเจนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
“ก้าวไกล” ยันไม่เสนอชื่อ “พิธา” แข่ง “เพื่อไทย” โหวตนายกฯรอบใหม่
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเลือกนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้ว่า ต้องดูว่าเป็นอย่างไรต่อ อาจโหวตนายกฯไม่จบในครั้งเดียว โดยหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สามารถเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นแคนดิเดตนายกฯอีกรอบได้ พรรคก้าวไกลเราเห็นด้วยอยู่แล้ว เป็นเรื่องหลักการไม่ได้เกี่ยวกับเสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯอีกหรือไม่

แต่นี่คือหลักการที่ควรเป็นแบบนั้น ต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องเรื่องนี้ พรรคก้าวไกลจะเสนอญัตติให้ทบทวนมติเดิมของรัฐสภาในการตีความข้อบังคับ เราไม่เห็นด้วยที่มีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสภาทำอะไรได้ ไม่ได้ แต่พรรคก้าวไกลไม่ได้เสนอชื่อแข่งกับแคนดิเดตพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า หลังจากนี้หมายความว่าพรรคก้าวไกล ปิดประตูต่อรองกับพรรคเพื่อไทยแล้วใช่หรือไม่ ชัยธวัช กล่าวว่า ปิดประตูต่อรองหมายถึงอะไร หมายความว่า ต่อรองว่าแม้จะเป็นฝ่ายค้าน แล้วมีข้อตกลงอะไรกับแกนนำพรรครัฐบาลหรือไม่ ถ้าเรื่องนี้คงไม่มี เพราะอย่างที่ย้ำเหตุผลหนึ่ง เป็นเหตุผลประกอบที่จะไม่โหวตแคนดิเดตนายกฯของรัฐบาลที่กำลังจัดตั้ง
เราไม่เชื่อว่า การจัดตั้งรัฐบาลในสภาพการณ์แบบนี้ คือเกรงใจผู้มีอำนาจทุกฝ่าย ยกเว้นประชาชน จะสามารถผลักดันวาระของประชาชนที่ก้าวหน้าได้จริง ๆ ต่อให้รับปากอะไรกัน ก็ไม่เป็นผลในการปฏิบัติ
“รวมไทยสร้างชาติ” เผย “เพื่อไทย” ทาบทามร่วมรัฐบาลแล้ว พร้อมโหวตนายกฯสัปดาห์หน้า
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส. ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะโฆษกพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและการประชุม สส.ของพรรคว่า พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้แจ้งในที่ประชุมว่า เราได้รับสัญญาณบวกจากพรรคเพื่อไทย จากคณะผู้แทนที่ไปพูดคุย ว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเชิญพรรครทสช. ร่วมรัฐบาล

ซึ่งในส่วนของพรรค รทสช. เราพร้อมที่จะพูดคุย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ และสร้างความมั่นคงให้กับรัฐบาลที่จะเกิดขึ้น เพียงแต่ว่าการเชิญจะต้องเป็นทางการ ส่วนการนัดวันที่จะพูดคุยนั้น ต้องรอการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย เพื่อไปคุยกับหัวหน้าพรรคฯ และเลขาธิการพรรคฯ
โดยหัวหน้าพรรค รทสช.ได้พูดในที่ประชุมชัดเจนว่า จะต้องเชิญพรรค รทสช. พูดคุยอย่างเป็นทางการก่อน ที่จะมีการโหวตนายกฯ เรื่องการพูดคุย ซึ่งการพูดคุยคงจะเกิดขึ้นในอนาคตนี้
เมื่อถามต่อว่ามีการตั้งเงื่อนไขเรื่องการแบ่งกระทรวงหรือไม่ อัครเดชกล่าวว่า ไม่มี เราพร้อมทำงานในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงไหนก็แล้วแต่ ในที่ประชุมได้มีการกำชับให้สส.เตรียมความพร้อมในวันโหวตเลือกนายกฯ หากประธานรัฐสภากำหนดวันไม่ว่าจะเป็นวันที่ 18 ส.ค.นี้ หรือสัปดาห์หน้า
“พิธา” มั่นใจ “หมออ๋อง” ไม่เจตนาโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เชื่อไม่กระทบตำแหน่งรองประธานสภาฯ
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปดิพัทธ์ สันติภาดา (หมออ๋อง) สส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 โพสต์รูปภาพกระป๋องคราฟเบียร์ ตัวแรกของจังหวัดพิษณุโลก จนถูกกระแสวิพากวิจารณ์นั้นว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับปดิพัทธ์ เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 ปดิพัทธ์ ก็คงไม่มีเจตนาที่จะใช้โฆษณาหรือทำผิดกฎหมายอะไร

แต่เขาก็คงภูมิใจในเรื่องของผลิตภัณฑ์ของชาวพิษณุโลก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรตนคิดว่า ปดิพัทธ์ ก็พร้อมจะชี้แจง และขอให้รอทางพรรคชี้แจงอีกที มั่นใจว่าไม่กระทบตำแหน่งรองประธานสภาฯ
สิ่งที่สำคัญกว่าเรื่องของกฎหมาย มาตรา 32 คือเรื่องของความเท่าเทียมในการโฆษณา ความเท่าเทียมในการทำมาหากิน บางอันถ้ามีโลโก้โฆษณาโลโก้ได้ไม่ผิด แต่บางเจ้าอาจไม่มีงบโฆษณาแบบนั้น ก็เป็นหนึ่งในกฎหมายที่เราพูดคุยกัน