“บิ๊กตู่” ปลื้ม ไทยบรรลุผลเจรจา FTA เพิ่มอีก 3 ฉบับ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีที่การเจรจาเขตการค้าเสรี (Free Trade Agreement: FTA) หลายฉบับมีความคืบหน้าต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพและความสามารถทางการแข่งขันของไทย ท่ามกลางความท้าทายเศรษฐกิจโลก ล่าสุด ไทยตั้งเป้าสรุปผลการเจรจา FTA 3 ฉบับ

ได้แก่ 1. European Free Trade Area : EFTA (สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ ราชรัฐลิกเตนสไตน์ ราชอาณาจักรนอร์เวย์ และสมาพันธรัฐสวิส) 2. ศรีลังกา และ 3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ให้จบภายในกลางปี 2567 เพื่อเพิ่มศักยภาพการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งปัจจุบันไทยมี FTA รวม 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย เปรู ชิลี และฮ่องกง โดยความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ถือเป็น FTA ฉบับล่าสุดของไทย
ศูนย์วิจัยมองนโยบายเศรษฐกิจใหม่ต้องแลกด้วยภาระการคลัง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองนโยบายทางเศรษฐกิจที่ใช้หาเสียงในการเลือกตั้ง ซึ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือด้านรายได้กลุ่มเปราะบาง การปรับขึ้นค่าแรง การบรรเทาภาระการครองชีพจากราคาพลังงานที่สูง ซึ่งต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก และหากสามารถดำเนินการได้ก็จะส่งผลบวกต่อ GDP ในระยะสั้น แต่ก็จะมีโจทย์ภาระการคลังที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย

เนื่องจากหากแหล่งเงินที่จะใช้ดำเนินนโยบายดังกล่าว มาจากการจัดสรรงบประมาณใหม่คงทำได้ระดับหนึ่งแต่ไม่น่าจะเพียงพอ หรือใช้รายได้รัฐบาลจากการเก็บภาษีที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นก็อาจจะต้องรอระยะเวลาให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่ม ซึ่งคงไม่ทันช่วงเวลาที่จะต้องมีรายจ่าย ดังนั้น รัฐบาลใหม่คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเผชิญการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น
ราคาอ้อยขั้นต้นจ่อทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ 1,300 บาท
นายวีระศักดิ์ ขวัญเมือง ผู้แทนชาวไร่อ้อยในคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยแนวโน้มราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2566/67 ประเมินเบื้องต้นเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,300 บาทต่อตัน ถือเป็นการทำสถิติใหม่ สูงเป็นประวัติการณ์

จากเดิมฤดูการผลิตปี 65/66 ทำไว้ที่ 1,080 บาทต่อตัน ณ ระดับความหวาน 10 ซี.ซี.เอส เนื่องจากราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เฉลี่ยปัจจุบันประมาณ 26 เซนต์ต่อปอนด์ เทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทและค่าความหวานของอ้อย โดยผลผลิตภาพรวมของโลกลดต่ำลงกว่าที่คาดไว้เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง
ทูตพาณิชย์แนะ “ขนมและของหวาน” ปรับวัตถุดิบเจาะตลาดเยอรมนี
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยข้อมูลจากนางสาวจีรนันท์ หิรัญญสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ถึงสถานการณ์สินค้าขนมและของหวานในตลาดเยอรมนีว่า พฤติกรรมผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น

โดยมีการบริโภคของหวานลดลง แต่ยังเห็นว่าขนมและของหวานเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ ผู้ประกอบการไทยจึงควรให้ความสำคัญกับส่วนประกอบที่ใช้ในกระบวนการผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ มีการนำผักและผลไม้นานาชนิดของไทย ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ มะพร้าว สัปปะรด มะม่วง เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเสริมด้านสีสันชวนรับประทานแล้ว รสชาติควรโดดเด่นและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
นักท่องเที่ยววูบหลังสงกรานต์ แต่ พ.ค. ยังเกิน 2 ล้านคน
สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลสัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมีการปรับตัวลงเล็กน้อยจากการไม่มีวันหยุดต่อเนื่องในตลาดระยะใกล้ ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 415,309 คน เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ในสัปดาห์ก่อนหน้า (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ค.66)

โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบด้วย มาเลเซีย จีน อินเดีย ลาว และเกาหลีใต้ คิดเป็นร้อยละ 47.5 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ขณะที่การประเมินเบื้องต้นเกี่ยวกับภาพรวมของเดือนพ.ค.66 จะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 2 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากอาเซียน เอเชียตะวันออก และเอเชียใต้ เป็นหลัก