ถึงสภาพเศรษฐกิจโลกจะไม่เอื้ออำนวย แต่ ลอรีอัล แบรนด์ด้านความงามชั้นนำของโลก ยังฝ่ามรสุมดันยอดขายในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 7.8% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบกว่า 1 ทศวรรษ และยังคงเติบโตมากกว่าตลาด มียอดขายรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 2.199 หมื่นล้านยูโร โดยทุกแผนกมียอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูงและผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่ขยายตัวได้ดี
นายฌอง-พอล แอกง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของลอรีอัลในไตรมาส 3 และในช่วง 9 เดือนแรก เป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของเราที่มีต่อความเปลี่ยนแปลงในตลาดเครื่องสำอาง แม้ว่าตลาดจะมีความผันผวนและมีความต่างขั้วในแต่ละภูมิภาค แต่ลอรีอัลยังสามารถปรับตัวได้อย่างดีเยี่ยม และมุ่งทำยอดขายและผลกำไรของเราเพิ่มขึ้นต่อไปอีกปี
“ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของลอรีอัล กรุ๊ป มาจากผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์ อี-คอมเมิร์ซ และช่องทางค้าปลีกท่องเที่ยว โดยช่องทางอี-คอมเมิร์ซ 2 มีอัตราการเติบโตถึง 47.5%1 ซึ่งคิดเป็น 13.5% ของยอดขายรวม ส่วนช่องทางค้าปลีกท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20.8%”
ลอรีอัล โชว์สถิติน่าสนใจ
เมื่อพิจารณาตามภูมิภาค จะพบว่า เอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตที่สูงที่สุด โดยเฉพาะในจีน อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และญี่ปุ่น ขณะที่ยุโรปตะวันออกมีการขยายตัวเร็วขึ้น และยุโรปตะวันตกสามารถปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
โซนยุโรปตะวันตก ยอดขายเพิ่มขึ้น 1.7%
โซนอเมริกาเหนือ ยอดขายลดลง 0.4% เนื่องจากสภาวะตลาดที่ย่ำแย่
โซนตลาดใหม่ อย่างเอเชียแปซิฟิก เติบโต 23.7% โดยจีน ตลอดจนอินเดีย มาเลเซีย และอินโดนีเซียยังคงมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง และทุกแผนกมียอดขายที่เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเลขสองหลัก ด้านละตินอเมริกา เติบโต 2.4% โดยเม็กซิโก และชิลี มียอดขายที่เติบโตสูง แต่บราซิลและอาร์เจนตินายังคงเผชิญปัญหา
ขณะที่ยุโรปตะวันออก เติบโต 9.2% จากการเติบโตในรัสเซีย ตุรกี และประเทศในยุโรปกลาง (ยูเครน, โรมาเนีย และสาธารณรัฐเช็ก) ด้านแอฟริกาและ ตะวันออกลาง ยอดขายลดลง 4.0% โดยยอดขายในอียิปต์ โมรอกโก ปากีสถาน และซาอุดิอาระเบียโตขึ้น แต่ตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังคงย่ำแย่
โตทุกกลุ่มโปรดักซ์
เมื่อมองถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์เรือธงที่ช่วยดันยอดให้ลอรีอัล พบว่า ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์มีการเติบโตขึ้น เริ่มจากแผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ เติบโต + 3.0% จากผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องในสหรัฐและเอเชียแปซิฟิก จากการคงส่วนแบ่งการตลาด ในยุโรปตะวันออกก็ยังคงมีการเติบโต แต่ในละตินอเมริกาและยุโรปตะวันตกยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาในบางประเทศ
ขณะที่แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เติบโต +13.4% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ช่องทางอี-คอมเมิร์ซ และช่องทางค้าปลีกท่องเที่ยว นำมาซึ่งผลประกอบการที่ดีมากในยุโรปและละตินอเมริกา ขณะที่ตลาดในอเมริกาเหนือยังคงไม่ค่อยดี ส่วนแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค เติบโต +3.0% มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในเอเชีย โดยเฉพาะในจีน อินเดีย เกาหลี และอินโดนีเซีย แต่ก็ยังถูกฉุดรั้งจากตลาดเมคอัพของสหรัฐที่ยังคงชะลอตัว และแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เติบโต +13.8% ยอดขายในทุกโซนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และโดดเด่นในตลาดกลุ่มเดอร์โม ซึ่งยังคงคึกคักอย่างมาก
เปิดพอร์ตโฟลิโอลอรีอัล
ที่ผ่านมา ลอรีอัล ยืนหยัดในฐานะแบรนด์ความงามที่ต้องการสนองความปรารถนาด้านความงามของผู้คนทั่วโลกมากว่า 100 ปี โดยในปี 2561 ลอรีอัลกรุ๊ป มียอดขายผลิตภัณฑ์ 26.9 พันล้านยูโร จากทั้งหมด 36 แบรนด์ โดยลอรีอัลมีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ครอบคลุมถึงตลาดมวลชน ห้างสรรพสินค้า เภสัชกรรมและร้านขายยา ซาลอน ร้านค้าในสนามบิน ร้านค้าปลีก และ อี-คอมเมิร์ส
สำหรับลอรีอัลประเทศไทย นำเข้าและจัดจำหน่าย 22 แบรนด์ระดับสากล ใน 4 แผนกผลิตภัณฑ์ ได้แก่แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค, แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง, แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ และ แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง
เรียกได้ว่าเป็นอีกธุรกิจที่น่าจับตา เพราะตราบที่ผู้หญิงไม่ยอมหยุดสวย แบรนด์ความงามก็ยังมีโอกาสโตไม่ยั้ง ตามดีมานด์ที่แข็งแกร่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
