HomeBT Newsย่อข่าวธุรกิจต่างประเทศ ภาคเช้า 15 กุมภาพันธ์ 2566

ย่อข่าวธุรกิจต่างประเทศ ภาคเช้า 15 กุมภาพันธ์ 2566

เงินเฟ้อสหรัฐเพิ่ม 0.5% เดือนม.ค.

กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% และสูงกว่าเมื่อเดือนธ.ค. ที่เพิ่มขึ้น 0.1%

- Advertisement -

ขณะที่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 6.4% ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.2%

อัตราค่าเช่าบ้าน อาหาร และพลังงาน ที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยที่ดันดัชนี CPI ให้เพิ่มขึ้น หลังจากเงินเฟ้อแสดงสัญญาณปรับตัวลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.6% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.5%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

รายงานระบุว่าค่าเช่าบ้านและที่พักอาศัย ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ในดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบกับเดือนธค. และเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบปีต่อปี ส่วนราคาพลังงานเพิ่มขึ้น 2% และ 8% ตามลำดับ ขณะที่ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 0.5% และ 10.1% ตามลำดับ

แม้การปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าและอื่นๆ ได้บรรเทาลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ข้อมูลของเดือนม.ค.สะท้อนว่าเงินเฟ้อยังมีอยู่ในเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งที่ธนาคารกลาง (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยมา 8 ครั้งตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 ในช่วงที่เงินเฟ้อพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 41 ปี

นักวิเคราะห์มองว่าดัชนี CPI ล่าสุดเปิดทางสำหรับการเข้มงวดนโยบายต่อไป แน่นอนว่าเฟดจะไม่ตัดสินใจด้วยรายงานเพียงชิ้นเดียว แต่ชัดเจนว่ามีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะไม่ลดลงเร็วมากพอที่เฟดคาดไว้

นักลงทุนในตลาดคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 2 นัดต่อไปในเดือนมี.ค.และพ.ค. อันจะทำให้ผู้กำหนดนโยบายมีเวลามากพอประเมินผลกระทบโดยรวมทางเศรษฐกิจจากการคุมเข้มนโยบายการเงิน ก่อนตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร

จีนโวยสหรัฐขึ้นบัญชีดำ 6 องค์กร

         กระทรวงพาณิชย์จีนคัดค้านการที่สหรัฐเพิ่ม 6 องค์กรของจีน เข้าไว้ในบัญชีดำทางการค้า หลังจากพบบอลลูนจีนเหนือน่านฟ้าสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและยิงตก

กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จีนหวังว่าสหรัฐจะเลิกกดขี่องค์กรจีนอย่างไม่สมเหตุผล และดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ขององค์กรจีน

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำองค์กรของจีน 6 แห่ง ประกอบด้วยบริษัท 5 แห่งและสถาบันวิจัย 1 แห่ง ในข้อหาให้การสนับสนุนความพยายามที่จะปรับปรุงกองทัพจีนให้ทันสมัย โดยเฉพาะโครงการอวกาศ ซึ่งรวมถึงเรือเหาะและบอลลูน

การขึ้นบัญชีดำจะทำให้องค์กรเหล่านี้ไม่สามารถจัดหาเทคโนโลยีจากสหรัฐ โดยรายงานก่อนหน้านี้ระบุว่า บอลลูนจีนที่ถูกยิงตกในสหรัฐ มีชิ้นส่วนประกอบของชาติตะวันตก

สำหรับองค์กรที่ถูกคว่ำบาตรนั้น รวมถึงบริษัทปักกิ่ง หนานเจียง แอโรสเปซ เทคโนโลยี และสถาบันวิจัยลำดับที่ 48 ของไชนา อิเลกทรอนิกส์ เทคโนโลยี กรุป คอร์ปอเรชัน

โตโยต้าชูเล็กซัสนำทัพรถ EV เจนใหม่

ว่าที่ซีอีโอโตโยต้า เผยเตรียมปล่อยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ “เล็กซัส” ภายในปี 2569 อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ใหม่ด้านการพัฒนา เพื่อเอาชนะปัญหาเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการผลิตรถอีวีที่ต้องใช้เวลาและต้นทุน

นอกจากนั้น โตโยต้ายังจะขยายไลน์รถอีวี ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยโตโยต้า bZ4X หรือรถในกลุ่มคอมแพ็ก ครอสโอเวอร์ SUV และ Subaru Solterra รถอีวีที่พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม e-TNGA ของโตโยต้า โดยเล็กซัสยังไม่ได้เปิดตัว RZ 450e SUV ที่ใช้แพลทฟอร์มเดียวกัน

โคจิ ซาโตะ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานเล็กซัส จะเข้ารับหน้าที่ต่อจากอากิโอะ โตโยดะ ในฐานะประธานและซีอีโอโตโยต้าในวันที่ 1 เม.ย. ซาโตะระบุว่ายานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่นับว่ามีความสำคัญทางธุรกิจเป็นอันดับแรก และถึงเวลาที่เหมาะสมในการพัฒนารถอีวีภายใต้ทีมใหม่ทันทีที่เข้าทำหน้าที่ในเดือนเม.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว

การเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากมีเสียงวิจารณ์ว่าโตโยต้า ล่าช้าในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า โดยอาจยังพอใจกับความสำเร็จของรถใช้น้ำมันและรถไฮบริด ทั้งยังถูกดึงความสนใจไปที่การพัฒนายานยนต์พลังไฮโดรเจน ขณะที่บรรดาคู่แข่งเร่งขยายคอนเซปต์ของการออกแบบรูปร่างและขนาดตามความต้องการใช้งาน ไปยังผลิตภัณฑ์อื่นในไลน์ อย่างบริษัทจีเอ็มที่พัฒนา Ultium หรือระบบการจัดการแบตเตอรี่แบบไร้สายที่ได้รับการออกแบบให้สามารถปรับขนาดได้

ซาโตะระบุว่า โตโยต้าจะใช้ดำเนินท่าทีแบบ”รอบทิศทาง” อันสะท้อนว่าจะยังเดินหน้าธุรกิจไฮบริด ด้วยเหตุผลว่าอยากต่อติดกับลูกค้าทั่วโลกและนำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย

“เวียดเจ็ต”เปิดขายตั๋ว 0 ด่อง

สายการบินเวียดเจ็ตแห่งเวียดนาม เปิดขายตั๋วหลายแสนใบ เริ่มต้นที่ราคา 0 ด่อง สำหรับเที่ยวบินตรงระหว่างนครโฮจิมินห์ซิตี้กับเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เพื่อเปิดศักราชของการขยายเครือข่ายเที่ยวบิน ครอบคลุมทั้ง 5 ทวีปในปีนี้

การเปิดขายมีขึ้นในช่วง “โกลเดนวีค” ตั้งแต่วันที่ 14 -20 ก.พ. โดยตั๋วที่เริ่มต้นราคา 0 ด่องนั้นไม่รวมค่าภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ และเปิดขายทางเว็บไซต์ vietjetair.com รวมถึงบนแอป โดยมีระยะเวลาการบินตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 29 ต.ค. 2566

เที่ยวบินตรงเที่ยวแรกจากเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ไปยังเมลเบิร์น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. โดยมีสัปดาห์ละ 6 เที่ยวบิน

ผู้โดยสารสามารถเลือกตั๋วหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ SkyBoss Business, Skyboss, Deluxe ไปจนถึง Eco ที่มาพร้อมบริการกระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้ถึง 60 กก. , อาหารออร์แกนิก, ประกันการเดินทางฟรี และอื่นๆ

ญี่ปุ่นเสนอ คาซูโอะ อุเอดะ” ผู้ว่าการบีโอเจ

รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอชื่อคาซุโอะ อุเอดะ นักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลาง (บีโอเจ) คนใหม่ คาดเป็นที่จับตาของบรรดาผู้นำในแวดวงการเงินและนักเศรษฐศาสตร์ ก่อนที่อุเอดะจะปรากฏตัวต่อสภาปลายเดือนนี้ เพื่อนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับนโยบายการเงิน

หากอุเอดะได้รับการยืนยันหลังจากการเสนอชื่อ ก็จะรับหน้าที่เป็นเวลา 5 ปีต่อจากฮารุฮิโกะ คุโรดะ ซึ่งวาระการดำรงตำแหน่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 เม.ย.หลังจากดำรงตำแหน่งมา 10 ปี

รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอชื่อ 'คาซูโอะ อุเอดะ' เป็นผู้ว่าการ BOJ คนใหม่

สำหรับผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรองผู้ว่าการบีโอเจ คือ เรียวโซะ ฮิมินะ อดีตผู้กำกับดูแลสำนักงานบริการการเงิน และชินิจิ อูชิดะ ผู้อำนวยการบริหารบีโอเจ

หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุว่าได้พิจารณาเลือกผู้ที่จะสามารถประสานการดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมกับรัฐบาล ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจ ราคาสินค้า และสภาพทางการเงินที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน เพราะหลังจากวิกฤตการเงินโลกปี 2551 เป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นที่ผู้ว่าการบีโอเจต้องสามารถร่วมมือกับผู้ว่าการธนาคารกลางประเทศอื่นๆ และสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงเลือกอุเอดะ ซึ่งเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ และมีความรู้กว้างขวางในเรื่องการเงิน

ขณะที่อุเอดะให้ความเห็นว่า นโยบายการเงินต้องอิงกับแนวโน้มเศรษฐกิจและราคาสินค้า ดังนั้นในขณะนี้จึงมีความจำเป็นต้องผ่อนคลายทางการเงินต่อไป

ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ไม่ได้ตกสู่ภาวะถดถอย แต่ดีดตัวขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ ผลจากการลงทุนภาคธุรกิจซบเซา อันเป็นภารกิจที่ท้าทายธนาคารกลางในการค่อยๆ ผ่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ โดยเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ขยายตัว 0.6% เมื่อไตรมาส 4 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News