ย้อนไป เมื่อปี พ.ศ. 2545 คุณ ณัฐนวรรธ ศักดา หรือ (คุณต้น) ผู้บริหารแพพันวารีย์ เดอะกรีนเนอรี่ & ต้นรักทัวร์ จ.สุราษฎร์ธานี (ในปัจจุบัน) เด็กหนุ่มที่ พึ่งเรียนจบปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ในสมัยนั้น ได้มีโอกาสกลับมาบ้าน แล้วได้ไปเที่ยวที่เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในนามของแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติอันดับต้นๆของเมืองไทยอย่างเช่นทุกวันนี้ เขาได้ผันชีวิตตัวเองเข้าสู่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในเขื่อนเชี่ยวหลานแห่งนี้ ด้วยการ ซื้อต่อสิทธิ์สัมปทาน โดยการปลูกสร้างแพไม้ไผ่หลังเล็กๆ แบบเรียบง่าย มาปรับใช้เพื่อออกแบบที่พักในการรองรับนักท่องเที่ยว


ต่อมาเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2559 ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีประกาศเพิ่มจำนวนพื้นที่แพ ให้กับแพเอกชนทุกแพในเขื่อนรัชชประภา เพื่อความเหมาะสมและความต้องการของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นและเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ในการดำเนินธุรกิจของแต่ละสถานประกอบการให้มีความเท่าเทียมและเป็นมาตราฐานเดียวกัน
ในส่วนของ “แพพันวารีย์” เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ คุณ ณัฐนวรรธ ศักดา หรือคุณต้น ได้ไปดำเนินการออกแบบแพที่พักในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาติเพิ่มเข้าให้ครบ 2,000 ตารางเมตร เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มใหม่ๆที่ต้องการเน้นคุณภาพ ระดับ Hi-EN กลุ่มคู่รัก Honeymoon กลุ่มคนวัยเกษียณจากต่างประเทศที่มีกำลังซื้อค่อนข้างมาก ซึ่งในปัจจุบัน”แพพันวารีย์ โซนเดอะกรีนเนอรี่” ได้รับการยอมรับจากสื่อและบุคคลที่มีชื่อเสียงแนวหน้าของเมืองไทยหลายๆท่าน แต่ในอนาคต คุณณัฐนวรรธ ได้ตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองไว้ว่า จะพัฒนาให้เป็นแพที่พักที่ดีที่สุดอันดับต้นๆของเมืองไทย และต้องได้รับการยอมรับในระดับสากลจากสื่อชั้นนำของโลก บุคคลที่มีเสียงในระดับโลกให้ได้
การบริการ ต่างกับคนอื่นอย่างไร
มีแพที่เอกชนได้รับสัมปทาน 12 ราย เราเป็น 1 ในนั้น จากการศึกษาและประสบการณ์ผมเชื่อว่าให้มีขนาดเล็ก รองรับน้อย เน้นคุณภาพ จะประสบความสำเร็จมากกว่า ทำให้ที่แพเรามีจำนวนห้องน้อยที่สุดแต่เน้นคุณภาพ จำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละวัน 30-40 คน ที่รับได้ เจ้าหน้าที่สามารถดูแลอย่างทั่วถึง บุคคลที่มีชื่อเสียง ที่เลือกมาที่นี่เพราะมีความเป็นส่วนตัว


ปัญหาอุปสรรค
อดีตที่เริ่มทำตอนใหม่ๆ ไม่มีลูกค้าเลย เดือนหนึ่งมีลูกค้าเพียง 4 กรุ๊ป เราจึงคิดว่าจะทำยังไง ถ้ารออย่างเดียวคงไม่ไหว เราเดินไปหาบริษัททัวร์ในสุราษฎร์และพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด เข้าไปสวัสดีเขา ช่วยผมหน่อย หาลูกค้าส่งให้หน่อย ซึ่งเขาถามหาโบรชัวร์ จดทะเบียนนำเที่ยวหรือยัง เราจึงกลับมาทำการบ้าน ในอดีตการอยู่ที่นั่นใช้ชีวิตลำบากมากเหมือนติดอยู่ในป่า ไฟไม่มี การชวนพนักงานมาร่วมทำงานด้วยก็ยากมากๆ
ธุรกิจต้องอาศัยพาร์ทเนอร์ และ เครือข่าย
ผมมีคติอยู่อย่างหนึ่ง “นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน บินสู่ที่สูงไม่ได้” ไม่มีใครทำได้หมดจริงๆ ถ้าไม่อาศัยเครือข่าย ผมมี Connection ซึ่งอาศัยจากการที่ผมชอบท่องเที่ยว ทำให้รู้จักผู้ประกอบการเยอะ ซึ่งมองว่าทุกคนคือเพื่อน
กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจากทางไหนบ้าง
ย้อนไป เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ Backpack เข้ามา แต่ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีคนรู้จักเขื่อนมากขึ้น เราได้ลูกค้าจากการออกบูธ ไทยเที่ยวไทย ครั้งหนึ่งที่เคยมียอดเข้ามาสูงสุด คือจองมา 200 กว่ากรุ๊ปภายในงานเดียว หลังจากนั้นก็มีการจองผ่านออนไลน์มากขึ้น กอปกับ เอเจนซี่ส่งมาหาเราโดยตรง

การบริหารจัดการธุรกิจ
เต็มคือเต็ม ไม่มีการนำลูกค้าไปเบียด และนอกจากห้องน้อยเราทำคล้ายโรงแรม ห้องละ 2 คน มีเสริมเป็น 3 คน ไม่อัดลูกค้า 4-5 คน เราเน้นความสุขลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งลูกค้ารู้สึกดีและให้คะแนนความพอใจค่อนข้างเยอะ
สัดส่วนลูกค้าไทยกับต่างชาติเป็นอย่างไร
ปัจจุบันต่างชาติ 80% คนไทย 10% จากเดิมที่คนไทย 95% นานๆจะได้เจอต่างชาติ ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว
จุดเด่นของ แพพันวารีย์ เดอะกรีนเนอรี่
จุดเด่นของเรา คือด้านหลังจะติดภูเขาแห่งเดียวในเขื่อน มีวิวที่สวย ที่ผมเลือกตรงนี้เพราะด้านหันออกทางทิศตะวันออกตอนเช้าเห็นพระอาทิตย์ขึ้น แต่ตอนบ่ายเมื่อมีภูเขาอยู่ด้านหลังลูกค้าสามารถลงน้ำได้เพราะไม่มีแดดส่อง เน้นให้ลูกค้าให้ประทับใจ เราได้มีการรวบรวมข้อมูล พบว่าลูกค้ากลับมาเที่ยวซ้ำ 3-4 ครั้ง และสิ่งที่สำคัญคือการที่ลูกค้านำไปบอกต่อ

การันตีด้วยรางวัล
มีโครงการ สสว. คัดเลือกผู้ประกอบการที่โดดเด่น จาก 6 เหลือ 2 เข้าระดับภาคใต้ และระดับประเทศ เพื่อให้เป็นต้นแบบ ซึ่งเราเป็นหนึ่งในนั้น

อนาคตมีโปรเจ็คทำอะไรเพิ่ม
นอกจากตอนนี้ที่เราเป็น Eco friendly แล้ว เรามีแพลนว่าจะพัฒนาเรื่องอาหาร ทำฟาร์มปลูกผัก เลี้ยงหมู ไก่ ปลา ให้นักท่องเที่ยวทานอาหารปลอดสารพิษ ซึ่งจะทำให้จากเดิมที่ผมเคยสั่งวัตถุดิบอาหารเข้ามาในแพ เดือนละ แสนกว่าบาท และถ้าทำฟาร์มเอง เลี้ยงสัตว์เอง จะทำให้ผมลดต้นทุนตรงนี้ได้ “ที่สำคัญ ผมอยากให้ลูกค้าของผมได้ทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ”

ข้อคิดในการทำธุรกิจ