นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลชาธิการ กสทช. กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมห้องประมูล 5G พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับกระบวนการประมูลและกฎการประมูล เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎ และวิธีการประมูล ในส่วนของผู้เข้าร่วมการประมูล 5G สำนักงาน กสทช. จัดการชี้แจงกระบวนการและกฎการประมูล (Bidder information session) และการประมูลรอบสาธิต (Mock Auction) เป็นวันที่ 2
-กสทช. จัด Mock Auction การประมูล 5G วันแรก
สำหรับสถานที่จัดการประมูล สำนักงานฯ ได้จัดห้องประมูลอยู่ที่อาคารอำนวยการ ชั้น 3 จำนวน 4 ห้อง จัดเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงาน Bidder 5 คน ชั้น 11 จำนวน 1 ห้อง โดยเข้าได้ไม่เกิน 10 คน ในแต่ละห้อง
จัดเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงาน Bidder 2 คน และจัดห้องประมูลสำรองไว้ที่ ชั้น 10 จำนวน 1 ห้อง โดยในห้องประมูลทุกห้องจะจัดแบ่งเป็น โซนประมูล โชนรับประทานอาหาร และห้องน้ำ
โดยสำนักงาน กสทช .ได้จัดอุปกณ์ที่จำเป็นไว้ในให้ในห้องประมูล เช่น อุปกรณ์สำหรับการประมูล ได้แก่
-คอมพิวเตอร์สำหรับประมูล 2 เครื่อง
-Notebook สำหรับคำนวณ 2 เครื่อง
-Printer 1 เครื่อง
-จอ Monitor 3 จอ
-เครื่องคิดเลข
-คู่มือที่เกี่ยวข้อง ประกาศหลักเกณฑ์ฯ
-คู่มือปฏิบัติตน
-การใช้ Sofware
-แบบคำร้อง
-อุปกรณ์เครื่องเขียนที่จำเป็นต่าง ๆ

นอกจากนั้นสำนักงานฯ ยังได้จัดเตรียมเครื่องใช้และสิ่งของอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ ขนมขบเคี้ยว ยาสามัญประจำบ้าน หน้ากากอนามัย เอาไว้ให้ผู้เข้าร่วมการประมูล และได้จัดเตรียมแพทย์ จำนวน 1 คน และพยาบาล จำนวน 4 คน ประจำที่ห้องพยาบาลสำนังาน กสทช. ตลอดการประมูล
ทั้งนี้สำนักงาน กสทช. ได้จัดอาคารหอประชุมชั้น 1 เป็นสถานที่สังเกตการณ์การประมูล โดยจะมีจอแสดงผลการประมูล พร้อมเจ้าหน้าที่คอยบรรยายให้คำแนะนำประกอบตลอดการประมูล
ขั้นตอนการประมูลจะเริ่มหลังจับสลากเลือกห้อง จากนั้นแต่ละผู้เข้าประมูลจะแยกย้ายเข้าห้อง จากนั้นเวลา 9:30 น. จะเริ่มประมูลคลื่น 700 MHz และเมื่อจบจะประมูลคลื่น 2600 MHz ต่อ และปิดด้วยคลื่น 26 GHz ใดยในการเคาะราคาแต่ละรอบจะมีเวลาให้รอบละ 20 นาที และให้ผู้เข้าประมูลออกจากห้องได้หลังการประมูลจบทั้งหมดเพื่อไม่ให้รู้ราคาของผู้ชนะ จากนั้นจะประกาศผู้ชนะหลังการจบประมูลทั้ง 4 คลื่น
นายฐากร กล่าวว่า การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz 2600 MHz และ 26 GHz ในวันที่ 16 ก.พ. 2563 นี้ สำนักงาน กสทช. เลือกใช้วิธีการประมูลแบบ Clock Auction ในการประมูล นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยเลือกใช้การประมูลรูปแบบนี้ เนื่องจากช่วยประหยัดเวลาในการดำเนินการประมูล เพราะการประมูลครั้งนี้เราวางแผนจัดให้มีการประมูลคลื่นความถี่ 4 คลื่นพร้อมกัน คือ คลื่นความถี่ย่าน 700 MHz 1800 MHz 2600 MHz และ 26 GHz
โดยเฉพาะคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz และ 26 GHz ซึ่งจำนวนชุดคลื่นความถี่ถึง 19 และ 27 ชุดตามลำดับ
หากใช้การประมูลรูปแบบเดิมจะทำให้เวลาที่ใช้ในการประมูลยาวนานมาก นอกจากนี้ ระบบการประมูลแบบ Simultaneous Ascending Clock Auction ช่วยให้การระบุราคามีความยืดหยุ่นมากขึ้น ปัจจุบัน หลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ก็เปลี่ยนรูปแบบการประมูลจาก Smultaneous Muti-Round Auction (SMIRA) มาเป็นรูปแบบ Clock Auction เช่นกัน
การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz 2600 MHz และ 26 GHz จะประมูลตามลำดับจากคลื่นย่านต่ำไปคลื่นย่านสูง โดยการประมูลแต่ละคลื่นความถี่จะประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ
-การจัดสรรคลื่นความถี่ (Alocation Stage) ด้วยรูปแบบการประมูลแบบ Clock Auction
-การกำหนดย่านความถี่ (Assignment Stage) ซึ่งจะเปิดให้ผู้ชนะการประมูลแต่ละรายยื่นข้อเสนอสำหรับแต่ละทางเลือก (First-price Sealed-bid Auction)

เลขาธิการ กสทช. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การประมูลแบบ Clock Auction เป็นการเสนอจำนวนคลื่นความถี่ที่ต้องการ ณ ราคาประมูลที่เพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ โดยหลังจากการประมูลรอบแรกแล้ว ผู้เข้าร่วมประมูลสามารถยืนยันจำนวนคลื่นความถี่ที่ต้องการในราคาที่เพิ่มขึ้น หรือลดจำนวนคลื่นความถี่ลง โดยจะต้องระบุราคาที่เต็มใจจ่ายทุกครั้งที่ลดจำนวนคลื่นความถี่ลง ซึ่งคาดว่าจะได้เงินจากการประมูลในรอบนี้ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท
โดยการประมูลแบบ Clock Auction จะสิ้นสุดลงเมื่อความต้องการจำนวนคลื่นความถี่เท่ากับจำนวนคลื่นความถี่ที่เสนอขาย ทั้งนี้ หากในรอบแรก ความต้องการจำนวนคลื่นความถี่มีน้อยกว่าหรือเท่ากับจำนวนคลื่นความถี่ที่เสนอขาย การประมูลจะจบในรอบแรก