HomeBT Newsสรุปข่าวธุรกิจภายในประเทศ ภาคเช้า 13 กุมภาพันธ์ 2566

สรุปข่าวธุรกิจภายในประเทศ ภาคเช้า 13 กุมภาพันธ์ 2566


ดัน “เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน” เสริมศักยภาพสู่สินค้าระดับโลก

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบถึงกิจกรรมลงนามบันทึกความร่วมมือภาคีเครือข่าย (MOU) ในการพัฒนาการจัดการโลจิสติกส์และ ซัพพลายเชน สินค้าและบริการ GI “เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน” ที่ผ่านมาและชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ที่ช่วยส่งเสริมสินค้าชุมชนให้เกิดอัตลักษณ์ที่โดดเด่น เชื่อมั่นจะยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งจะรวมไปถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค และวิถีชุมชน ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านโลจิสติกส์การท่องเที่ยว พัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ รวมทั้งจะสนับสนุนภาคการผลิต และการจัดจำหน่ายสินค้าชุมชนสู่ระดับภูมิภาค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสุดท้ายประโยชน์จะเกิดที่ประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย และสร้างรายได้มวลรวมที่เพิ่มมากขึ้นให้กับจังหวัดนครราชสีมา

- Advertisement -


ด่วน! เตือนนายจ้าง 13 ก.พ. วันสุดท้าย ยื่นต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาล โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ขอให้นายจ้าง สถานประกอบการ ที่มีแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 13 ก.พ.2566 หากประสงค์จะทำงานต่อไป ให้รีบยื่นคำขอต่อใบอนุญาตทำงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์กรมการจัดหางาน หรือสำนักงานจัดหางานทั่วประเทศ โดยดำเนินการยื่นต่ออายุใบอนุญาตทำงานและชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน


ภายในวันที่ 13 ก.พ.66 เพื่อที่จะสามารถอยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้ถึงวันที่ 13 ก.พ. 2567 หรือ 13 ก.พ. 2568 แล้วแต่กรณี หากยื่นต่ออายุใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวไม่ทันตามเวลาที่ราชการกำหนด จะถือว่าเป็นการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย โดยแรงงานต่างด้าวดังกล่าวจะไม่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักร แรงงานผิดกฎหมาย มีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท ไม่สามารถกลับมาทำงานภายในราชอาณาจักรในระยะเวลา 2 ปี ส่วนการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย มีโทษปรับ 10,000-100,000 บาท หากกระทำความผิดซ้ำ จะไม่สามารถจ้างแรงงานต่างด้าวได้เป็นระยะเวลา 3 ปี


DITP จับมือ ทีเอ็มบีธนชาต ลงนาม MOU ผนึกกำลังส่งเสริม SMEs-Startups

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และธนาคารทหารไทย  ธนชาต หรือ ทีเอ็มบีธนชาต ได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) “ความร่วมมือในการส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย” โดยความตกลงดังกล่าวมีเนื้อหาครอบคลุมความร่วมมือระหว่างทั้งสององค์กรในหลากหลายด้าน เช่น การบูรณาการข้อมูลการสนับสนุนทางการเงินและสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ และการส่งเสริมองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการ เป็นต้น การลงนาม MOU ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นพันธมิตรระหว่างกันในการร่วมกันผลักดันการยกระดับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs และ Startups สู่การเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ที่มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศอย่างยั่งยืนและมั่นคง


ด้านนายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธนาคารได้มีการสนับสนุนและช่วยเสริมศักยภาพและความสามารถในด้านต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง โดยมีโครงการ finbiz by ttb โครงการเสริมความรู้สู่การเป็น Smart SME ที่เจาะลึกทุกบริบทของอุตสาหกรรมและเข้าใจธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริงผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และงานสัมมนา นอกจากนั้นยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นธนาคารพันธมิตร ที่ช่วยสนับสนุน SMEs ด้วยองค์ความรู้ ผลิตภัณฑ์ บริการ และดิจิทัลโซลูชัน ที่ครบครัน และถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับ SMEs โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถขยายธุรกิจได้เต็มศักยภาพ


ไทยขึ้นแท่นผู้ส่งออกสินค้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ของเอเชีย

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ติดตามสถานการณ์การส่งออกของไทย พบว่า เนื้อไก่และผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าดาวเด่นที่มีศักยภาพทั้งการผลิตและส่งออก โดยปัจจุบันไทยครองตำแหน่งผู้ส่งออกอันดับ 1 ของเอเชีย และเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากบราซิลและสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปี 2565 ไทยส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดโลก มูลค่าสูงถึง 4,074 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า


โดยเป็นการส่งออกไปตลาดที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) มูลค่า 2,871.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15.9% มีสัดส่วนถึง 70% ของการส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ทั้งหมด โดยตลาดคู่ FTA ที่ไทยส่งออกเติบโตได้ดี อาทิ ญี่ปุ่น มูลค่า 1,882.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+10.2%) จีน มูลค่า 382.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+15.1%) มาเลเซีย มูลค่า 165.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+83.4%) สิงคโปร์ มูลค่า 127.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+37.6%) เกาหลีใต้ มูลค่า 183.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+40%) และกัมพูชา มูลค่า 17.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+20.3%)     

ปัจจัยที่ทำให้สินค้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไทยเป็นที่นิยม เนื่องจากได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพมาตรฐาน เทคโนโลยีการผลิตอาหารและแปรรูปที่ทันสมัย มีระบบฟาร์มที่มีประสิทธิภาพ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมทั้ง FTA ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สร้างความได้เปรียบและเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ทำให้การส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นวันนี้ยังรอลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและทิศทางเงินทุนต่างชาติ

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนสัปดาห์นี้ น่าจะเห็นสีสันการลงทุนในวันพุธ โดยช่วง 2 วันแรกของสัปดาห์ตลาดคงรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ หากออกมาต่ำกว่าคาดช่วยต่างชาติชะลอแรงขายและอาจกลับมาซื้อ โดยให้แนวรับแรกที่ 1,660 จุด ถัดไป 1,650 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,670 และ 1,680 จุด


ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองทิศทางดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มีแนวรับอยู่ที่ 1,650 และ 1,635 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,680 และ 1,700 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ของ บจ.ไทย รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนม.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ของญี่ปุ่นและยูโรโซน

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News