“เศรษฐา” สั่งฝ่ายมั่นคงรับนักท่องเที่ยวจีนทะลักหลังคลอดฟรีวีซ่า
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เป็นประธานการประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความมั่นคง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทำงานเชิงรุก เพิ่มความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งคนไทย

เพื่อรองรับการบริหารสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวตามที่คาดการณ์ว่าภายหลังจากการอนุญาตชั่วคราวให้ชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยแบบไม่ต้องขอวีซ่าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในตลาดจีน จนมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าไทยจำนวนมาก
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ขอให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ
โดยเห็นแก่ความเดือดร้อน ปากท้องประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน พัฒนาเศรษฐกิจประเทศ กระจายรายได้
“อนุทิน” เปิดสเป็กโฆษกรัฐบาลโควตาภูมิใจไทยต้องไม่ด้อยกว่า “ไตรศุลี”
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการเสนอชื่อบุคคลที่จะมาเป็นรองโฆษกรัฐบาลในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย ว่า กำลังพิจารณาอยู่

เมื่อถามว่าใช่น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตรองโฆษกรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ใช่ และการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้จะพยายามเสนอให้ได้
เพราะเหลืออยู่ตำแหน่งเดียว ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญเนื่องจากน.ส.ไตรศุลีได้ทำผลงานตั้งมาตรฐานไว้สูง ฉะนั้นคนที่จะมาแทนน.ส.ไตรศุลีจะต้องมีความสามารถไม่น้อยกว่า
“ประเสริฐ” พร้อมสานต่อทุกนโยบายดิจิทัลฯ ยันแจกเงินดิจิทัลทำได้จริง
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวชี้แจงนโยบายรัฐบาล ต่อสมาชิกรัฐสภา โดยยืนยันว่า รัฐบาลเน้นนโยบายการใช้บริการระบบคลาวด์ภาครัฐ มาใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้มีความโปร่งใสมากขึ้น ส่วนเรื่องดิจิทัล ไอดี มีกรอบชัดเจนและมีกฎหมายรับรองไว้แล้ว มีทั้งระบบเอ็นดีไอดี (NDID) การบริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล และ ThaID (ไทยดี) ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 14.5 ล้านคน โดยจะขยายผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพื่อทำให้ประชาชนติดต่อผ่านรัฐ และการติดต่อค้าขายได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงข้อมูลเมือง เพื่อให้เป็น smart city

พร้อมยืนยันว่าบัตรประชาชนใบเดียวจะสามารถรักษาได้ทุกโรงพยาบาลทั่วไทย (Health link) รวมถึงเชื่อมข้อมูลการท่องเที่ยว (Travel link) โดยรัฐบาลกำลังทำ Digital Government มาพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อทำระบบรวมข้อมูลของทุกภาครัฐ ซึ่งในอนาคต จะเกิดการเชื่อมโยงข้อมูลซึ่งกันและกัน และยืนยันว่ากระทรวงมีการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อทำเศรษฐกิจดิจิทัล และกระทรวงยังมีสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ จะรับทำแผนแม่บทเพื่อทำข้อมูลขนาดใหญ่
ตลอดจนการใช้ข้อมูลต้องทำควบคู่ไปกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ให้ทันกับมาตรฐานสากล โดยจะเสนอข้อมูลทางตรงไม่มีการวิเคราะห์ สามารถนำไปใช้ได้ทันที ซึ่งมีรัฐบาลวิเคราะห์ข้อมูลให้ นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และสตาร์ทอัพ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เตรียมความพร้อมสำหรับการใช้บัญชีดิจิทัล
ตนเองมีแผนงานให้กระทรวง ทั้งแผนงาน สตาร์ทอัพ อำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ การออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเมือง การพัฒนาระบบนิเวศในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ตนเองรับไปดำเนินการต่อ ส่วนข้อห่วงใยของเพื่อนสมาชิกต่างๆ นั้น ทั้งเรื่องระบบ IoT หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) ยอมรับว่าเป็นระบบที่ดีกว่า 5G เพราะใช้พลังงานที่ต่ำกว่า และเรื่องการจัดทำสถาปัตยกรรมทางด้านดิจิทัล ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องดีและเป็นเรื่องสำคัญ โดยทางกระทรวงมีแนวคิดการใช้ทักษะการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการอบรมทั้งภาคราชการ และประชาชน เพื่อให้เข้าถึง พร้อมระบุว่าเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะบล็อกเชน ยืนยันว่า เงิน 1 หมื่นบาทจะถึงมือประชาชนทุกบาททุกสตางค์
“สุริยะ” โว 2 ปีได้นั่งแน่รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงกรณีรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นนโยบายที่จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมได้แน่นอน ส่วนระยะเวลาที่เห็นผลเป็นรูปธรรมนั้น เนื่องจากแต่ละเส้นทางมีระบบแตกต่างกัน ทั้งเรื่องการให้สัมปทานเอกชน บางเส้นทางรัฐดำเนินการเอง หรือบางเส้นทางให้กรุงเทพมหานครดำเนินการ

ดังนั้นการให้เก็บ 20 บาทตลอดสายเท่ากันทุกเส้นทาง ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องใช้เวลาเจรจา และวางระบบเทคนิคการทำตั๋วร่วมเป็นระบบเดียวกัน ต้องวางระบบคอมพิวเตอร์ให้เทคนิคเหมือนกัน
ทั้งนี้ เส้นทางที่รัฐจะดำเนินการได้เอง คือ สายสีแดงกับสายสีม่วง จะดำเนินการเพราะกระทรวงคมนาคมทำเอง ภายใน 3 เดือน ประชาชนจะได้ใช้รถไฟฟ้า 2 เส้นทางนี้ 20 บาทตลอดสาย และภายใน 2 ปี ประชาชนจะได้ใช้รถไฟฟ้าทุกเส้นทาง 20 บาทตลอดสาย การที่ไม่สามารถเห็นผลได้ทันที เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการเจรจา และวางระบบตั๋วร่วม นโยบายนี้จะทำเพื่อคนทุกกลุ่ม นอกจากช่วยคนรายได้น้อย ยังช่วยให้คนใช้รถยนต์มาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ลดปัญหามลพิษ
ส่วนการคำนวณราคาค่าโดยสารนั้น ขอยกตัวอย่าง หากอยู่รังสิตจะมากรุงเทพฯ ชั้นใน ที่สยาม ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงมาลงที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ มาต่อสายสีน้ำเงินที่จตุจักร และต่อสายสีเขียวไปที่สยาม จากปัจจุบันค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 108 บาท แต่ถ้านโยบายสำเร็จ จะจ่ายค่าโดยสารแค่ 20 บาทตลอดสาย
“ปชป.ผิดหวังคำแถลงนโยบายรัฐบาลไร้แนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจน ”
มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรค ปชป. อภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 โดยเปรียบรัฐบาลเป็นดั่งเรือที่จะพาคนไทยออกเดินทางท่ามกลางคลื่นปัญหาที่หลากหลาย ทั้งคลื่นปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ปัญหาการเมืองการปกครอง ปัญหาด้านสังคมและคุณภาพชีวิต เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ แต่วันนี้ตนเริ่มไม่มั่นใจว่าเรือของนายกฯ และคณะรัฐบาลลำนี้จะพาเราไปได้ถึงไหน เพราะนโยบายที่ไม่ตรงปก หลายนโยบายที่ท่านหาเสียงไว้ไม่มีอยู่จริง หลายนโยบายที่อยู่ในคำแถลงนี้ผิวเผิน เขียนไว้กว้างๆ ไม่มีตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรม หรือกรอบเวลาที่ชัดเจน ไม่มองลึกไปถึงต้นตอปัญหา

ไม่มองปัญหาคลื่นใต้น้ำ เช่น ทุนผูกขาด คอร์รัปชัน ปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมถึงมีเสียงวิจารณ์ความไม่เหมาะสมของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ผิดฝาผิดตัว เอาตำรวจมาคุมครู คุมเกษตร คุมสิ่งแวดล้อม และครูมาดูแลทหาร โดยอาจมีตัวแทนกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ด้านเกษตร อาหาร และด้านพลังงาน มานั่งบริหารบางกระทรวง แย่ไปกว่านั้นประชาชนอาจวิจารณ์ว่านี่เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดหรือไม่
นายร่มธรรม อภิปรายอีกว่า นโยบายจากคำแถลงที่เป็นคำพูดกว้างๆ ไม่มีตัวชี้วัด กรอบเวลาชัดเจน ประกอบกับคนดูแลที่ผิดฝาผิดตัว ทำให้ตนไม่มั่นใจว่าเรือของนายกฯ และคณะรัฐบาลลำนี้จะพาเราฝ่าคลื่นลูกใหญ่ของปัญหาทั้ง 3 ลูกที่ตนพูดไป ทั้งปัญหาโลกร่อยหรอ โลกเลอะ โลกรวน และปัญหาอื่นๆ ได้หรือไม่ เรือลำนี้อาจล่มจมทะเลเสียตั้งแต่คลื่นลูกแรกก็เป็นได้
อีกปัญหาที่ตนกังวลจากรัฐบาลนี้คือโรคหลงลืมประชาชน หลงลืมนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน ตนหวังและภาวนา ให้นายกฯ และคณะของท่านพาคนไทย และประเทศฝ่าทุกคลื่นปัญหาและพาไปถึงฝั่งตามเป้าหมายที่ได้วางไว้