“ก้าวไกล” ซัด กกต.ตำหนิส่งศาลรธน. ปมหุ้นพิธา เล็งฟ้องคดี ม.157
ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังพรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์กรณีการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในคดีถือหุ้นสื่อของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวว่า นอกเหนือจากแถลงการณ์แล้ว กรณีนี้มีข้อสังเกตว่า ทำไมกกต.ถึงรีบเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างผิดปกติ ทั้งที่เรื่องหุ้นไอทีวีก่อนหน้านี้มีข้อพิรุธ มีข้อถกเถียงในสังคมอย่างกว้างขวางว่าตกลงไอทีวียังดำเนินธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ มีขบวนการจงใจจัดทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นและเอกสารงบการเงินให้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่ แต่กกต.กลับรีบประชุมทันทีที่ได้รับเรื่องเพื่อเร่งสรุปให้ได้ว่ามีข้อมูลพยานหลักฐานเพียงพอให้เชื่อว่าพิธา มีความผิด

โดยแม้กกต.พยายามจะอ้างเหตุผลมากมายว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหาพิธา เพื่อให้มาชี้แจงก่อน แต่ในขณะที่กกต.มีเวลาเชิญไอทีวีไปชี้แจง แล้วกกต.มีเหตุผลอะไรที่รับฟังได้ว่าจะไม่ยอมเสียเวลาให้พิธาได้รับทราบข้อกล่าวหา และมีโอกาสชี้แจง เพื่อให้กกต.พิจารณาได้อย่างรอบด้านเป็นธรรม หากผู้บริหารไอทีวีได้ชี้แจงต่อกกต.แล้วจริง ว่าไอทีวีไม่ดำเนินธุรกิจสื่อ กกต.ใช้หลักฐานอะไรที่นำไปสู่ข้อสรุปที่บอกว่าตนเองเชื่อว่าพิธามีความผิดตามที่มีการยื่นคำร้อง
ในฐานะส.ส.ขอฝากเสียงเตือนจากประชาชน ไปยังกกต. และองค์กรอิสระทั้งหมด ว่าท่านอย่าลุแก่อำนาจจนเกินขอบเขต วันใดวันหนึ่งเมื่อการเมืองกลับมาเป็นปกติ ประชาชนจะลงโทษพวกท่าน ฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมและส.ส.พรรคก้าวไกล รวมถึงเพื่อนอีก7พรรคการเมืองจะยังเสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯในวันพรุ่งนี้
เมื่อถามว่าจะมีการพิจารณาฟ้องกกต. ตามมาตรา157หรือไม่ ชัยธวัช กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่ คงต้องดูรายละเอียดของเอกสารหลายๆอย่างด้วย ขอยืนยันอีกครั้งว่ากระบวนการตรวจสอบของกกต. และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นคนละส่วน ไม่เกี่ยวข้องกันกับรัฐสภาในการเลือกนายกฯ แต่แน่นอนว่ามีบางฝ่ายพยายามที่จะใช้เรื่องนี้อ้างเหตุผลว่าจะไม่เลือกพิธา เป็นนายกฯ
“ส.ว. สมชาย” ชี้ กกต.ส่งเรื่องการถือหุ้นITV ของพิธาให้ศาลรธน. ตีความเป็นเรื่องปกติ
สมชาย แสวงการ สภาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ฐานะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ให้สัมภาษณ์ว่าในการพิจารณาของวิปวุฒิสภา ในการโหวตนายกฯ ที่ขณะนี้ มีประเด็นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความคุณสมบัติของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฐานะแคนดิเดตนายกฯ ตนมองว่าไม่กระทบต่อการพิจารณาหรือโหวตนายพิธา เพราะกรณีดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ชี้ขาด

ซึ่งไม่เหมือนกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนจะให้รัฐสภาโหวตนายกฯ เมื่อปี2562 ซึ่งธนาธรไม่สามารถเข้าร่วมประชุมรัฐสภาได้ เรื่องกรณีที่ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้นมองว่าเป็นปกติ และมองว่า กกต.ควรส่งไปตั้งนานแล้ว เพราะมีเรื่องที่มีผู้ร้องนานแล้ว ตั้งแต่พิธายื่นสมัครส.ส. และจนได้เป็นส.ส. ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เกมการเมือง ส่วนจะเป็นประเด็นที่ส.ว.นำไปพิจารณาก่อนโหวตหรือไม่นั้น ไม่ก้าวล่วง เพราะตนเองมีหลักการโหวตคือต้องซื่อสัตย์ มีวิสัยทัศน์ และสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงคำถึงถึงความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่ทำอะไรที่สุดโต่ง พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
ที่ประชุม “ศาลรัฐธรรมนูญ” ยังไม่พิจารณาเรื่องหุ้น ITV ที่ กกต.เสนอในวันนี้
รายงานข่าวระดับสูงจากสำนักานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยกรณีนี้ว่า คำร้อง กกต.เรื่อง ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของพิธา พร้อมขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวที่ กกต. มีมติส่งที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตามกระบวนการพิจารณายังไม่สามารถนำเข้าที่ประชุมของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ได้

โดยตามกระบวนการจะต้องเข้าคณะปกติที่จะพิจารณาคำร้องว่าถูกต้องหรือไม่ก่อนที่จะส่งให้คณะชุดเล็กพิจารณารับกรือไม่คำร้อง ก่อนที่จะส่งความเห็นไปยังคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมมนูญในครั้งหน้า ซึ่งไม่สามารถที่จะพิจารณาได้ในวันนี้ น่าจะต้องเป็นไปตามกระบวนการเพื่อความรอบคอบในการพิจารณา ทั้งนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีประชุมปกติประจำสัปดาห์ทุกวันพุธ โดยมีวาระการพิจารณาที่บรรจุไว้อยู่แล้ว ดังนั้นคาดว่าจะมีการนำเสนอกรณีของพิธาเข้าสู่วาระการประชุมในวันที่ 19 ก.ค. 2566
ผบ.เหล่าทัพ – ผบ.สส. ลาประชุมฯไม่ร่วมโหวต นายกฯในวันพรุ่งนี้
รายงานข่าวจากรัฐสภาเปิดเผยว่ามีผู้บัญชาการเหล่าทัพที่เป็น ส.ว.โดยตำแหน่งหลายคนส่งหนังสือลาประชุมรัฐสภาพรุ่งนี้ โดยมีภารกิจไม่เข้าร่วมการประชุมเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี โดยพล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางราชการต่างจังหวัด พลเรือเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ติดภารกิจตรวจชายแดน พลอากาศเอกอลงกรณ์ วัณณรถ เดินทางไปราชการที่ต่างประเทศ และพล.ร.อ.เชิงชาย เชิงชมแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปร่วมพิธีรำลึก รศ.112 พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่าในวันที่ 13 ก.ค.นี้ว่า ในวันพรุ่งนี้ มีภารกิจไปร่วมงาน ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า

โดยจะมีพิธีตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเย็น ยืนยันว่าภารกิจในวันพรุ่งนี้เรากำหนดล่วงหน้าไว้นานแล้ว และกระทำกันทุกปี ซึ่งปีนี้จัดยิ่งใหญ่พอสมควร ในรอบ 130 ปี ทั้งนี้ยืนยันว่าพิธีรำลึก รศ.112 ตรงกับวันที่ 13 กรกฎาคม ส่วนพลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้แนวทางในเรื่องกาโหวตเลือกนายกฯ อย่างไรบ้าง พลเรือเอกเชิงชายกล่าวว่า ท่านไม่ได้ให้นโยบายอะไร ไม่ได้มีการตกลงหรืออะไรทั้งสิ้น เมื่อถามว่าในวันพรุ่งนี้ ผบ.เหล่าทัพ ได้นัดหมาย ที่จะเข้าประชุมพร้อมกันหรือว่าติดราชการกันทั้งหมด พลเรือเอกเชิงชาย ระบุว่า ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละท่าน ที่จะพิจารณาด้วยตัวเอง ส่วนจุดยืนในเรื่องของ ม.112 จะมีเหมือนกับสว. คนอื่นที่จะไม่เลือกพรรคมีนโยบายแก้ไขม. 112 หรือไม่ พลเรือเอกเชิงชาย ระบุว่า ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้
25 ส.ส.ประชาธิปัตย์มีมติ งดออกเสียง โหวตนายกฯ
สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง และรองประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยหลังการประชุมพรรคประชาธิปัตย์เรื่องแนวทางโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มีมติตรงกันว่า ให้งดออกเสียงในการโหวตเลือกนายกฯ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดเจนว่า ไม่สนับสนุนแคนดิเดตของพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ที่ประชุมให้เหตุผลและเน้นย้ำจุดยืนว่า เราไม่แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องคุณสมบัติของนายพิธาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น ที่ประชุมส.ส.ของพรรคฯหยิบมาพูดคุยกัน แต่เห็นว่าศาลฯยังไม่ได้พิจารณาวินิจฉัยเรื่องนี้ จึงไม่ใช่เวลาที่เราจะนำมา เมื่อถามว่า เหตุใดพรรคฯจึงไม่ลงมติว่าไม่เห็นชอบ แทนการงดออกเสียง สุณัฐชา กล่าวว่า ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าทำตามธรรมเนียม เพราะเมื่อย้อนกลับไปในสมัยปี 2562 ที่พรรคก้าวไกลหรือพรรคอนาคตใหม่เดิมในขณะนั้น เรียกร้องให้ลงมติสนับสนุนพรรคที่มาจากเสียงข้างมากในสภาฯ แต่พรรคดังกล่าวไม่ได้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นแคนดิเดตที่มาจากพรรคในฝ่ายเสียงข้างมากให้เป็นนายกรัฐมนตรี