คต.สะดุ้ง! เจอปลอมหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้ากว่า 600 ฉบับ
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2565 ได้รับการประสานจากหน่วยงานศุลกากรต่างประเทศ ตรวจสอบย้อนหลังหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่ได้แสดงต่อศุลกากรต่างประเทศ ในการนำเข้าสินค้าจากไทยจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,055 ฉบับ

ซึ่งจากการดำเนินการตรวจสอบพบว่า เป็นหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าปลอมซึ่งไม่ได้ออกโดยกรมฯ จำนวนรวมทั้งสิ้น 604 ฉบับ แบ่งเป็น 1) หนังสือรับรองที่ใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (Form FTA) ได้แก่ Form D / Form E / Form AK และ Form AI จำนวน 382 ฉบับ และ 2) หนังสือรับรองที่ไม่ใช้สิทธิพิเศษทางภาษี (Form CO ทั่วไป) จำนวน 222 ฉบับ ทั้งนี้ คต. อยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อเร่งดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำการปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว
โลกขาดแคลน! ส่งออกอาหารจ่อทุบสถิติ 1.5 ล้านล้านบาท
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ช่วงไตรมาสแรกปี 2566 มูลค่าการส่งออกอาหารไทยนำรายได้เข้าประเทศกว่า 346,000 ล้านบาท ขยายตัว 10% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำตาลทราย ข้าว ไก่ และผลไม้สด ดังนั้น ในปี 2566 นี้ จะใช้ขอบข่ายสินค้า 25 กลุ่ม

ซึ่งได้คาดการณ์มูลค่าการส่งออกของไทย จะทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ อยู่ที่ 1,500,000 ล้านบาท ขยายตัว 2.1% เนื่องจากปัญหาการขาดแคนทำให้แต่ละประเทศต้องการสำรองอาหารเพิ่ม ขณะที่อาหารไทยมีคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเนื่องจากราคาพลังงานและวัตถุดิบขาดแคลน
ทุเรียนไทยยืน 1 ส่งออกจีน 120 วัน ทะลุแสนล้าน
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) แถลงผลการส่งออกทุเรียน ตั้งเป้า100,000 ล้านบาท ล่าสุด ปรากฏผลการดำเนินงานเกินเป้าหมาย ทำนิวไฮได้ราคาสูง ขายทุเรียนไปจีนทะลุแสนล้านบาทภายใน 120 วัน (เดือนกุมภาพันธ์- พฤษภาคม)

ทำให้ทุเรียนไทยครองสัดส่วนตลาดในจีนได้เบ็ดเสร็จกว่า 90 %และบรรลุเป้าหมายนโยบาย “ขายน้อยได้มาก” โดยส่งออก 4.5 แสนตันได้เงิน 1 แสนล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมาส่งออกกว่า 8 แสนตัน ทำเงิน 1 แสนล้านบาทเช่นเดียวกัน
“กล้วยหอมทองหนองบัวแดง” ตีตลาดญี่ปุ่น ขึ้นทะเบียน GI
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง “กล้วยหอมทองหนองบัวแดง” ของจังหวัดชัยภูมิ ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากเป็นสินค้ายอดนิยม ผลยาวใหญ่ สีเหลืองนวล เนื้อแน่น เหนียวนุ่ม เปลือกมีความหนา ไร้จุดดำ เนื้อกล้วยจึงไม่ช้ำ ทำให้สะดวกและเอื้อต่อการขนส่ง

ปัจจุบันมีการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศที่สำคัญ คือ ญี่ปุ่น สามารถสร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท โดยภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวทางที่จะส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง
Gen X-Y ครองผู้มีสิทธิเลือกตั้งสูงสุดกว่า 38 ล้านเสียง
สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ปี 2566 ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม แยกตามช่วงอายุ (Generation) จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น 52,241,808 คน

ประกอบด้วย 1.กลุ่ม Before Baby Boommer เกิดก่อน พ.ศ. 2491 จำนวน 2,956,182 ราย 2.กลุ่ม Baby Boommer เกิดระหว่าง พ.ศ. 2491-2505 จำนวน 9,326,314 ราย 3.กลุ่ม Generation X เกิดระหว่าง พ.ศ. 2506-2526 จำนวน 20,882,235 ราย 4.กลุ่ม Generation Y เกิดระหว่าง พ.ศ. 2527-2546 จำนวน 17,983,355 ราย และ 5.กลุ่ม Generation Z เกิดระหว่าง พ.ศ. 2547-ก่อน 16 พ.ค.2548 จำนวน 1,093,722 ราย