ในช่วงนี้หลายคนคงได้เจอกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่แทบจะทุกวัน และมาในหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป แต่จุดประสงค์เดียวของแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้คือ หลอกให้เหยื่อหลงเชื่อและรูดทรัพย์ทางโทรศัพท์ หรือไม่ก็ทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมิจฉาชีพกลุ่มนี้มักมีวิธีที่แยบยล หาสารพัดวิธีที่ให้เหยื่อเชื่อ ล้วนเป็นการฉ้อโกงเงินแทบทั้งสิ้น
เมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ได้เปิดสถิติการหลอกลวงทางการเงินไทยในปี 64 พบว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงทางโทรศัพท์มากถึง 6.4 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 270% และข้อความเอสเอ็มเอสหลอกลวงเพิ่มมากขึ้น 57% โดยมีตัวอย่างการหลอกลวง หรือเรียกว่าฉ้อโกงทางการเงิน เช่น การฉ้อโกงทางบัตรเอทีเอ็ม , การขโมยตัวตน หรือเปิดบัญชีม้า , การหลอกลวงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และการหลอกลวงผ่านโทรศัพท์
สำหรับพฤติกรรมของมิจฉาชีพออกอุบายโทรมาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตของธนาคารแห่งหนึ่ง แจ้งว่ามีการปลอมแปลงเอกสารของเหยื่อไปทำบัตรเครดิตและชื่อของเหยื่อไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินที่เกี่ยวยาเสพติด ซึ่งส่วนใหญ่เหยื่อมักปฏิเสธว่าไม่เคยไปเปิดบัญชีใหม่หรือไม่เคยทำบัตรเครดิต จากนั้นมิจฉาชีพจะส่งเรื่องไปให้ตำรวจตรวจสอบเงินในบัญชีทุกบัญชีพร้อมขอไลน์ไอดี เมื่อขอไอดีไลน์แล้วจะมีแอบอ้างแต่งกายชุดตำรวจวิดีโอคอลล์หาเหยื่อเพื่อตรวจสอบประวัติและเงินในบัญชี และส่งลิงก์เว็บไซต์หมายจับของศาลให้เหยื่อหลงเชื่อ
เมื่อเหยื่อเริ่มหลงเชื่อ และโอนเงินเข้าบัญชีจำนวนมากแล้ว มิจฉาชีพที่อ้างว่าเป็นตำรวจว่าจะนำไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน ได้บอกเหยื่อว่าหากตรวจสอบแล้วพบว่าถูกกฎหมายจะโอนกลับมาให้เหยื่อ พร้อมกับขอเลขที่บัญชีของเหยื่อไว้ จากนั้นเหยื่อก็ถูกบล็อก และไม่สามารถติดต่อกับมิจฉาชีพได้อีก แม้จะรีบเดินทางไปธนาคารแต่ก็ต้องรอตรวจสอบและดำเนินการอีกหลายขั้นตอน ซึ่งปัจจุบันภาครัฐได้จัดให้มีกระบวนการแจ้งความออนไลน์และออกหมายอายัดบัญชีแบบทันที
อีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการหลอกลวงคือ “การเปิดบัญชีม้า” ซึ่งมิจฉาชีพจะให้เหยื่อโอนเงินผ่านบัญชีม้านี้ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 1.ม้าสมัครใจ เป็นการขายบัญชีธนาคารให้ผู้อื่นแล้วนำข้อมูลบัญชีไปขายต่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ และ2.ม้าแบบไม่ตั้งใจ คือถูกสวมรอย ถูกหลอกเอาข้อมูลไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อเอาไปใช้ในการทำธุรกรรมที่ทุจริตหรือฟอกเงินหรือก่อการร้าย
แนวทางจัดการในปัจจุบัน
1.สมาคมธนาคารไทย ได้สร้างช่องทางและปรับปรุงกระบวนการอายัดบัญชีเร็วยิ่งขึ้น ,ทำบัญชีที่ต้องจับตาและแจ้งให้ระวังก่อนที่จะโอนเงินในโมบายแบงกิ้ง
2.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) จัดให้มีกระบวนการแจ้งความออนไลน์ผ่าน 1441 , 081-866-3000 หรือเว็บไซต์ thaipolishonline.com
3.สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ระงับการโทรจากต่างประเทศกรณีหมายเลขต้นทางผิดปกติ หรือโทรเข้าจากต่างประเทศที่ไม่มีกำหนดเลขหมายต้นทาง เป็นต้น
แนวทางแก้ไขปัญหาในอนาคต ประกอบด้วย
1.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)อยู่ระหว่างแก้พ.ร.บ.เพื่อกำหนดให้การรับจ้างเปิดบัญชีม้า มีความผิดตามกฎหมาย และหารือแนวทางเป็นศูนย์กลางรายชื่อที่น่าจับตาให้กับสถาบันการเงิน
2.ปรับปรุงรูปแบบช่องทาง กำหนดเวลาให้ชัดเจนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและอายัดบัญชีระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการเงิน สตช. และปปง.
3.มีนโยบายสื่อสารให้ชัดเจนจากหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบได้ป้องกันและแก้ไข
4.ให้ความรู้ประชาชนให้เห็นทั้งความเสี่ยงและความเสียหาย รวมถึงโทษจากการรับจ้างเปิดบัญชี