ชงอาเซียนตั้ง “หน่วยงานข้ามชาติ” ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลครั้งที่ 3 ที่เกาะโบราไคย์ ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านดิจิทัลของกลุ่มประเทศ 10 ประเทศ โดยการนำเทคโนโลยีการสื่อสารไอซีทีมาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นการนำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ

โดยประเทศไทยได้เสนอต่อที่ประชุมอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ให้จัดตั้งองค์กรหรือหน่วยงาน เพื่อกำกับดูแลและทำความร่วมมือระหว่างกันในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือการหลอกลวงออนไลน์ การหลอกลงทุน เเก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีปัญหาในทุกประเทศ ดังนั้นเราต้องจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมากำกับดูและแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้ได้อย่างจริงจังและเร่งด่วน เพราะเกิดความเสียหายกับประชาชนในทุกประเทศ
‘การบินไทย’ โชว์รายได้ปีนี้ทะลุแสนล้าน จ่อออกแผนฟื้นฟูก่อนกำหนด
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภาพรวมการดำเนินงานในปัจจุบัน การบินไทยมีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิ้นแฟกเตอร์) เฉลี่ยประมาณ 80% และคาดว่าทั้งปี 2566 จะคงอยู่ในระดับ 80% ส่วนรายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตราว 40% จากปี 2565 ที่คาดการณ์รายได้ 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่การบินไทยมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 1.6 – 1.7 แสนล้านบาทต่อปี ด้านความสามารถทำการบิน ขณะนี้การบินไทยเริ่มกลับมาทำการบินคิดเป็น 65% ของเส้นทางบินทั้งหมด หากเทียบกับปี 2562 และมีแผนจะทยอยเปิดบินเพิ่มเติมต่อเนื่องในเส้นทางเอเชีย จีน ญี่ปุ่น และยุโรปในเมืองที่มีความนิยมสูง ซึ่งจะทำให้การบินไทยกลับมาเปิดบินคิดเป็น 80% ในปี 2568

จากผลการดำเนินงานที่เป็นบวกต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พ.ค.2565 ประกอบกับแนวโน้มการฟื้นตัวของดีมานด์ที่มีอยู่ ทำให้มั่นในว่าปีนี้ผลการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) จะเป็นบวกมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเข้าเกณฑ์กำหนดของการยื่นขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการที่ระบุว่าบริษัทฯ ต้องมี EBITDA หักลบค่าเช่าและเงินสด ย้อนหลัง 12 เดือน ต้องคงเหลือมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจะทำให้การบินไทยสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการก่อนเป้าหมายกำหนดในปลายปี 2567 และกลับเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ภายในปี 2568
สรรพากรตั้ง “กองสำรวจ” เช็คร้านค้าออนไลน์-ยูทูปเบอร์เข้าระบบจ่ายภาษี
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากระบบการทำธุรกิจค้าขายที่ปรับเปลี่ยนจากการขายสินค้าหน้าร้านไปสู่การขายสินค้าออนไลน์และไลฟ์สดมากขึ้น ทำให้ระบบการจัดเก็บภาษีต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันตามไปด้วย โดยกรมสรรพากร ได้ตั้งกองสำรวจและติดตามธุรกิจนอกระบบ เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบคนหรือธุรกิจที่อยู่นอกระบบภาษี ให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้อง เป้าหมายหลักคือกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างสูง ซึ่งปัจจุบันก็คือแม่ค้าออนไลน์ อินฟลูเอ็นเซอร์ ยูทูปเบอร์ต่าง ๆ ซึ่งในส่วนนี้ ถือเป็นหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยทำให้รายได้ภาษีขยายตัวตามที่ควรจะเป็น โดยในปีงบประมาณ 2565 มีผู้ประกอบการในส่วนนี้เข้ามาสู่ระบบภาษีมากถึง 2 แสนราย

สำหรับปีงบประมาณ 2566 กรมสรรพากร มีเป้าหมายจัดเก็บรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-ม.ค.66) สามารถจัดเก็บได้เกินกว่าเป้าหมายถึง 6 หมื่นล้านบาท สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอานิสงส์จากจีนเปิดประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและบริการของไทยเป็นอย่างมาก จึงมั่นในว่าการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2566 จะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
DITP เผย “เนื้ออกไก่แปรรูป” ยอดฮิตร้านสะดวกซื้อในจีน หนุนไทยส่งออกป้อน
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยข้อมูลจาก นางสาวนันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ถึงผลการสำรวจตลาดเนื้ออกไก่แปรรูปพร้อมรับประทานในตลาดจีน และโอกาสการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทย โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานสถานการณ์สินค้าตลาดเนื้อไก่ในจีนว่า เมื่อเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อในเมืองปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว พบว่า บนชั้นวางสินค้าอาหารแช่เย็น

มักจะพบสินค้าที่มีส่วนผสมของเนื้ออกไก่หลากหลายชนิดและหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบชิ้นเนื้ออกไก่ ไส้กรอก และลูกชิ้น เป็นต้น ที่นำมาวางให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้ออย่างหลากหลาย และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื้ออกไก่กลายเป็นทางเลือกในการทดแทนอาหารมื้อหลัก หรืออาหารสุขภาพลดความหิว ผู้ประกอบการไทยต้องเพิ่มการวิจัยพัฒนาการแปรรูปสินค้าเนื้อไก่ในรูปแบบเดิม ให้เป็นสินค้าแปรรูปเชิงลึกแบบใหม่ที่มีความหลากหลาย มีประโยชน์ และสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านต่าง ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ จะเป็นการขยายช่องทางตลาด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ประกอบกับ เทรนด์การรักสุขภาพ บริโภคของดีมีประโยชน์ และเทรนด์การออกกำลังกาย สร้างกล้ามเนื้อ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนโอกาสการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ของไทยเพื่อเจาะเข้ากลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ได้มากยิ่งขึ้น
หุ้นไทยปิดลบ 1.17 จุด ฟื้นหลังเช้าร่วงหนัก
SET ปิดวันนี้ที่ 1,669.17 จุด ลดลง 1.17 จุด (-0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 63,487.16 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีฯ ฟื้นตัวกลับ หลังเช้าร่วงแรง โดยทำจุดสูงสุด 1,672.09 จุด และต่ำสุด 1,656.74 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 598 หลักทรัพย์ ลดลง 941 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 492 หลักทรัพย์

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KCE มูลค่าการซื้อขาย 3,040.76 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,314.38 ล้านบาท ปิดที่ 199.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,219.43 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,639.93 ล้านบาท ปิดที่ 922.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,592.07 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท