HomeBT Newsย่อข่าวธรุกิจในประเทศ 8 กันยายน 2566

ย่อข่าวธรุกิจในประเทศ 8 กันยายน 2566


ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ติดตามการส่งเสริมอาชีพ-แก้ไขปัญหาสินค้าชายแดนภาคใต้

นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรและแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Meeting) พร้อมด้วยเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ระนอง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สำนักแผนงานและโครงการพิเศษ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ศอ.บต.กษ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

- Advertisement -


โดยที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าภาวะการผลิต การตลาด และราคาของสินค้าเกษตร 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกองนอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์สินค้าเกษตร อาทิ ปัญหามังคุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช เกี่ยวกับปัญหาผลผลิตมังคุดที่กำลังจะออกในฤดูกาลนี้ เหลืออีก 12,000 ตัน และปัญหาเกี่ยวกับตลาดรับซื้อล้ง โดยแนะนำวิธีแก้ปัญหาในการการแปรรูปเชิงพานิชย์ โยนำมังคุดตกเกรด แปรรูปเป็นมังคุดคัด และการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกมังคุด GAP ทุกแปลงเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์และวางแผนขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ รองปลัดอภัยฯ ขอให้ ศอ.บต.กษ. และสำนักแผนงานและโครงการพิเศษ สรุปแนวทาง ปัญหา ของสินค้าเกษตรทั้ง 4 ชนิด ให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกันเป็นภาพรวมททั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ และเรื่องสืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่แล้ว เรื่องการใช้แอปพลิเคชันเกษตรแทรค เพื่อใช้สร้างฐานข้อมูลรายแปลงทุกชนิดสินค้า โดยจะหารือกับเกษตรและสหกรณ์จังหวัดต่อไป


ไทย – ออสเตรเลีย ยกระดับความร่วมมือภาคการเกษตรและอาหาร

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทยเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานร่วมความร่วมมือด้านการเกษตรเกษตร ไทย-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 23(The 23rdMeeting of theThailand – AustraliaJoint Working Group on Agriculture)เป็นประธานร่วมกับนายแมทธิว โควาล(Mr.Matthew Koval)First Assistant Secretary of the Trade and International Division, Department of Agriculture, Fisheries and Forestry) หัวหน้าคณะฝ่ายออสเตรเลียโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือการแลกเปลี่ยนนโยบายด้านการเกษตร


โดยเฉพาะแนวทางการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนของทั้งสองประเทศและขยายความร่วมมือทางวิชาการในสาขาต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายสนใจร่วมกันพร้อมด้วยคณะผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ดร.วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักการเกษตรต่างประเทศ กองนโยบายเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน กรมชลประทาน กรมปศุสัตว์ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกรมส่งเสริมการเกษตรกรมประมง และสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงแคนเบอร์ราเข้าร่วมการประชุมณ โรงแรมอมารี พัทยา และผ่านระบบการประชุมออนไลน์

ทั้งนี้ ในการประชุมได้รับทราบรายงานผลการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรไทย-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 22 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 ณ กรุงเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย (The 22nd Meeting of the Thailand-Australia Joint Working Group on Agriculture) และรายงานผลการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชและมาตรฐานอาหาร ระหว่าง ไทย – ออสเตรเลีย ครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา (The 19th Meeting of the TAFTA SPS Expert Group)


ปลัดฯ ณัฐพล เร่งกำหนดบังคับใช้กฎหมาย โรงงานที่ไม่รายงานการกิจการรายปี

วันที่ 6 กันยายน 2566 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมเพื่อวางแนวทางการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น กรณีโรงงานที่ยังมีการประกอบกิจการอยู่ แต่ไม่ดำเนินการรายงานผลการประกอบกิจการประจำปีให้แก่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ในรอบปี พ.ศ.2565 ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2566


โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวีระกิตติ์ รันทกิจธนวิชญ์ นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และนางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้บริหารทีม MIND เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม อก.1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (สปอ.) และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Zoom Meeting


งาน ‘มัดทอใจ มรดกผ้าไทยร่วมสมัย’ หวังดันผ้าไทยสู่เวทีโลก รายได้สู่ชุมชน

นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน“มัดทอใจ มรดกผ้าไทยร่วมสมัย (Mud Tor Jai : Premium Thai Silk)” ว่า ภายใต้โครงการพัฒนาผ้าไหมไทยร่วมสมัย Premium Thai Silk ประจำปี 2566 ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายให้สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (สสท.) ดำเนินการยกระดับพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและผ้าพื้นเมืองในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามยุทธศาสตร์กระทรวงอุตสาหกรรม และแผนพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ที่ได้ดำเนินการมาในปีงบประมาณ 2566


ทั้งนี้ โครงการฯ เน้นในเรื่องการนำรายได้และความยั่งยืนกลับสู่ชุมชน โดยการเพิ่มทักษะทางอาชีพให้กับคนในชุมชนต่าง ๆ ที่ทำอาชีพที่เกี่ยวกับผ้าไหม เช่น ช่างย้อม ช่างมัด ช่างทอ รวมถึงผู้จำหน่าย เน้นให้ความรู้และทักษะด้วยการใส่ความเป็นไทยลงไปในลวดลายผ้า พร้อมนำแรงบันดาลใจจากเอกลักษณ์ ในชุมชน รวมถึงการเลือกใช้สีธรรมชาติที่มีในท้องถิ่นในการย้อมผ้าเพื่อรักษาอัตลักษณ์ของผ้าไหมไทยไว้ ซึ่งจะทำให้วิสาหกิจชุมชนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 400,000 -1,700,000 บาทต่อชุมชน

“กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ได้พัฒนาและออกแบบผ้าไหมไทย ร่วมสมัย อาทิ ผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมขิด ผ้าไหมยกดอก ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมแต้มหมี่ ผ้าไหมบาติก ที่ออกแบบลวดลายใหม่ทั้งหมด เน้นอัตลักษณ์ไทย ผสานเทคนิคการผลิตแบบใหม่ จำนวน 24 ผลิตภัณฑ์ มาจัดแสดงโชว์ภายในงาน “มัดทอใจ มรดกผ้าไทยร่วมสมัย (Mud Tor Jai : Premium Thai Silk) ภายใต้คอลเลกชั่นใหม่ : The art & heart of Thai silk” ที่เน้นความเป็นไทย ทั้งการออกแบบลายผ้าไหมสมัยใหม่บนศิลปะและ อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทย ซึ่งทั้ง 24 ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาภายใต้โครงการฯ จากผู้ประกอบการทั้ง 8 วิสาหกิจชุมชนคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 7,395,000 บาท” นางสาวณัฏฐิญา กล่าว


ออมสินจัดโปร Money Expo ระยอง ชูเงินฝาก 13 เดือน ดอกเบี้ยเทียบเท่าฝากประจำ 2.05% ต่อปี

ธนาคารออมสิน เข้าร่วมงาน Money Expo ระยอง ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 8-10 ก.ย. 2566 ณ เซ็นทรัล ระยอง ภายใต้แนวคิด “GSB Journey to The Green Frontier : บนเส้นทางสู่โลกการเงินสีเขียว” สอดคล้องยุทธศาสตร์ธนาคารเพื่อสังคมที่มุ่งเน้นดำเนินการตามกรอบ ESG in action สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการจัดทำบูธที่เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมนำเสนอโปรโมชันน่าสนใจในงานนี้ ทั้งผลิตภัณฑ์เงินฝากส่งเสริมการออมสำหรับทุกวัย สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อธุรกิจ ที่เข้ากับกระแสรักษ์โลก


ผลิตภัณฑ์เงินฝาก ไฮไลท์ ได้แก่ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 13 เดือน ระยะเวลาฝากเงิน 13 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.75% ต่อปี เทียบเท่าเงินฝากประจำ 2.05% ต่อปี บุคคลธรรมดาไม่หักภาษี เปิดบัญชีฝากเงินขั้นต่ำ 10,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินสูงสุด และ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษเพื่อการเกษียณ 9 ปี สำหรับบุคคคลธรรมดาอายุ 50 ปีขึ้นไป ไม่หักภาษี อัตราดอกเบี้ย 2.99% ต่อปี เทียบเท่าเงินฝากประจำ 3.51% ต่อปี เปิดบัญชีฝากเงินขั้นต่ำ 100,000 บาท ฝากสูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท เปิดลงทะเบียนจองสิทธิผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th Line Official : gsbsociety หรือ MyMo บันทึกภาพหน้าจอสำหรับนำไปเปิดบัญชีและฝากเงินที่ธนาคารออมสินทุกสาขา

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News