HomeBT Newsความเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ 3-7 ก.ค.66 เงินบาทผันผวน ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3

ความเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ 3-7 ก.ค.66 เงินบาทผันผวน ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3

  • เงินบาทแกว่งตัวเป็นกรอบ โดยมีแรงหนุนในช่วงแรกหลังการเปิดประชุมสภาฯ ผ่านไปด้วยความเรียบร้อยและมีแรงซื้อต่างชาติเข้ามาในตลาดพันธบัตร ก่อนจะลดช่วงบวกลงในช่วงต่อมา หลังเงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
  • SET Index ร่วงลงหลุดแนว 1,500 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับตลาดยังรอติดตามสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน โดยขยับแข็งค่าในช่วงแรก ก่อนลดช่วงบวกลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ เงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงแรก โดยมีแรงหนุนหลังการเปิดประชุมสภาฯ ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากข้อมูลดัชนีราคา PCE และ Core PCE ของสหรัฐฯ ล่าสุดในเดือน พ.ค. ที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกและอ่อนค่ากลับมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ขณะที่ตลาดยังคงรอติดตามความคืบหน้าในประเด็นอื่นๆ ของการเมืองไทย ส่วนเงินดอลลาร์ฯ ทยอยฟื้นตัวขึ้น หลังบันทึกการประชุมเฟดและข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่ออกมาดีกว่าที่คาดหนุนโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในการประชุม FOMC เดือน ก.ค. นี้

- Advertisement -

ในวันศุกร์ที่ 7 ก.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.24 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 35.46 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 มิ.ย.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 3-7 ก.ค. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 8,010 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 10,043 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 15,432 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 5,389 ล้านบาท)

สัปดาห์ถัดไป (10-14 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 34.80-35.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์การเมืองในประเทศ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน มิ.ย. รายงาน Beige Book ของเฟด ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองผู้บริโภคเดือน ก.ค. (เบื้องต้น) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนในเดือน มิ.ย. อาทิ ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวน ดัชนีราคาผู้บริโภคและ ดัชนีราคาผู้ผลิต ด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงหลุดแนว 1,500 จุด หลังจากที่ขยับขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันตอบรับความคืบหน้าทางการเมืองในประเด็นการโหวตประธานสภาฯ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในเวลาต่อมาตามทิศทางหุ้นต่างประเทศท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

หลังรายงานการประชุมเฟดสะท้อนว่าเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่สนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า รวมถึงตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่ง ประกอบกับนักลงทุนมีความระมัดระวังระหว่างรอติดตามประเด็นความคืบหน้าทางการเมืองในสัปดาห์หน้า โดยนักลงทุนต่างชาติอยู่ในฝั่งขายสุทธิหุ้นไทยทุกวันทำการตลอดสัปดาห์นี้

ในวันศุกร์ที่ 7 ก.ค. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,490.51 จุด ลดลง 0.84% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 39,313.94 ล้านบาท ลดลง 15.81% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.37% มาปิดที่ระดับ 458.09 จุด

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (10-14 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,475 และ 1,460 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,520 และ 1,545 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน มิ.ย. รายงาน Beige Book ของเฟด รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น และข้อมูลเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ตัวเลขนำเข้าและส่งออก

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News