บีโอไอดึง 5 ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯขยายลงทุนในไทย
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยภายหลังการเดินสายโรดโชว์ครั้งแรกของปี 2566 ณ นครซีแอตเติล และนครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริการะหว่างวันที่ 1 – 3 กุมภาพันธ์ 2566 นำโดย หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย ซึ่งคณะประกอบด้วย เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ผู้แทนจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยได้เข้าพบหารือกับผู้บริหารของบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ บริษัท Amazon Web Services (AWS) ที่ได้ประกาศลงทุนในประเทศไทยด้วยเงินลงทุนกว่า 1.9 แสนล้านบาท บริษัท Google ที่ประกาศจัดตั้ง Google Cloud Region ในประเทศไทย บริษัท Microsoft ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลกที่ทำธุรกิจในไทยมายาวนาน บริษัท Western Digital ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ของโลก ซึ่งมีฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทอยู่ในประเทศไทย และบริษัท Analog Devices ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และ IC อันดับต้นของโลก ซึ่งได้ลงทุนและขยายฐานการประกอบและทดสอบเซมิคอนดัคเตอร์ในไทยอย่างต่อเนื่อง

ทีมประเทศไทยได้ชูจุดเด่นทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ ซัพพลายเชนครบวงจร รวมทั้งความสามารถในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนสำหรับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของบริษัทชั้นนำ นอกจากนี้ บีโอไอยังมีมาตรการใหม่ ๆ หลายเรื่องที่เป็นประโยชน์กับนักลงทุนสหรัฐฯ เช่น มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม มาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจร มาตรการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร และมาตรการยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่ Smart and Sustainable Industry ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากบริษัทรายใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งได้ยืนยันขยายฐานธุรกิจในไทยระยะยาว
โรงแรมยื่น 4 ข้อเสนอรัฐบาลช่วยเหลือด่วน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ม.ค.66 พบว่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 64% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายการเปิดประเทศของจีน พร้อมคาดการณ์ว่าอัตราการเข้าพักเดือน ก.พ. จะเฉลี่ยอยู่ที่ 60% อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการโรงแรม 66% ยังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน

โดยเฉพาะภาคใต้ ที่โรงแรมเริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการ ขณะที่ภาพรวมธุรกิจโรงแรมในทุกภูมิภาค ยังขาดแคลนแรงงานเกือบทุกแผนก โดยส่วนใหญ่มองว่าจะมีผลกระทบต่อคุณภาพการบริการ และส่วนหนึ่งมองว่าอาจกระทบต่อจำนวนลูกค้าที่สามารถรองรับได้ หากปัญหาขาดแคลนแรงงานยังไม่คลี่คลาย โดยต้องการให้ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือ ดังนี้
1. มาตรการด้านต้นทุน เช่น การลดค่าไฟ ควบคุมราคาพลังงานและวัตถุดิบ มาตรการลดหย่อนภาษี
2. มาตรการทางการเงิน เช่น ขยายเวลาพักชำระหนี้/ดอกเบี้ย ลดข้อจำกัดในการขอสินเชื่อ
3. มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว เช่น จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว เพิ่มเจ้าหน้าที่ ตม. ยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวต่างชาติ
4. มาตรการด้านแรงงาน เช่น พัฒนาฝีมือแรงงาน มีแหล่งแรงงานสำรองที่มีคุณภาพ ลดขั้นตอนจ้างแรงงานต่างชาติ
หุ้นไทยปิดร่วง 10.15 จุด กังวลต่างชาติขายปรับพอร์ต
SET ปิดวันนี้ที่ 1,670.34 จุด ลดลง 10.15 จุด (-0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 60,522.85 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ มองตลาดหุ้นไทยวันนี้ลงแรงรับความกังวลต่างชาติเทขายหุ้นไทยต่อเนื่องหลังเปิด short TFEX กว่า 1.4-1.5 แสนสัญญาเป็นการปรับพอร์ตจากหุ้น Defensive เปลี่ยนมาที่กลุ่มเทคฯ-ไอที

ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยมีในตลาดหุ้นไทย ขณะเดียวกัน ผลประกอบการบริษัทใหญ่ออกมาน่าผิดหวัง พรุ่งนี้ให้แนวรับหลัก 1,670 จุด ถัดไป 1,650 จุด ส่วนแนวต้านหลัก 1,695 จุด แนะหนีหุ้นใหญ่หันเก็งหุ้นเล็ก-กลาง เน้นหุ้นปันผล
ปั้น 75 ข้าราชการรุ่นใหม่สู่เมนเทอร์ด้านอุตสาหกรรม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงโครงการ “ปั้นดีพร้อมรุ่นเยาว์สู่ดีพร้อมที่ยอดเยี่ยม หรือ DIPROM YES!” กลุ่มเป้าหมายคือข้าราชการและพนักงานราชการ จำนวน 75 คน แบ่งการอบรมเป็น 2 รุ่น ซึ่งเป็นการประยุกต์มาจากหลักสูตรพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) ของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และมีการปรับให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมและรูปแบบการปฏิบัติงานของดีพร้อม เพื่อพัฒนาการให้บริการผู้ประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยการอบรมนนั้นจะเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ในหลากหลายด้าน มาร่วมการฝึกกระบวนความคิด การระดมสมองผ่านการอภิปราย การโค้ชกลุ่ม (Group Coaching) รวมถึงกิจกรรมแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ (Workshop) การเล่าเรื่อง การสำรวจและประเมินตนเอง การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการสะท้อนการเรียนรู้ (Learning Reflection) การนำเสนอรายบุคคล และกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ ดังนั้น หลักสูตร DIPROM YES! จึงเป็นหลักสูตรที่กระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิดเชิงกลยุทธ์ มุ่งเน้นให้มีความคิดสร้างสรรค์ มีวิสัยทัศน์ รวมทั้งมีทัศนคติที่ดี พัฒนาทักษะความสามารถของการเป็นผู้นำ เพื่อให้เป็นตัวแทนหน่วยงานไปพัฒนาชุมชนที่ตนเองดูแลในทุกมิติ ส่งเสริมผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมสามารถสร้างรายได้และเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
“สรท.” มองส่งออกไตรมาส 1 ติดลบ 3-5% แต่ทั้งปียังบวก
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก คาดภาวะการส่งออกของไทยในไตรมาส 1/2566 อาจเติบโตน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าจะติดลบ 3-5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แม้การส่งออกในเดือน ม.ค. 2566 จะขยายตัวได้ดีกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนก็ตาม

แต่ทั้งปียังมั่นใจว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ 1-2% เนื่องจากช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว เดือน ม.ค. 2566 น่าจะส่งออกไปสัก 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เติบโต 3-5% แต่ไตรมาสแรกคงได้แค่ 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ติดลบ 3-5% เพราะเติบโตน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนไตรมาส 2/2566จะเริ่มฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่ง สรท.ยังมั่นใจว่าส่งออกทั้งปีจะโตได้ 1-2%