ปลัดบุญชอบ เปิดมหกรรม Up skill Thailand 2023 สร้างงาน สร้างอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจ
วันที่ 6 กันยายน 2566 นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดงาน Up skill Thailand 2023 “จักรวาลสร้างอาชีพ” ซึ่งจัดขึ้นโดยเครือมติชน โดยมี คุณปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารเครือมติชนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ พระรามที่ 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

นายบุญชอบ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมการมีงานทำ การพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระให้แรงงานมีรายได้ที่มั่นคง ได้รับสิทธิสวัสดิการความคุ้มครอง มีหลักประกันทางสังคม เพื่อให้แรงงานทั้งในและนอกระบบมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของประเทศ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้กระทรวงแรงงาน ได้จัดฝึกอบรมให้แก่แรงงานนอกระบบ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาส่งเสริมอาชีพผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ด และโครงการฝึกอบรมสร้างอาชีพเสริมรายได้ให้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก แรงงานไทย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านอาชีพให้กับแรงงานนอกระบบอย่างยั่งยืน ได้มีทักษะที่ทันสมัยในการประกอบอาชีพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าหรือบริการในชุมชน ตลอดจนเพิ่มช่องทางการตลาดในโลกยุคใหม่ สอดคล้องกับการจัดงานในวันนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานและกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนและส่งเสริมการมีงานทำ ให้คำแนะนำแพลตฟอร์มไทยมีงานทำเพื่อเปิดโอกาสในการรับสมัครงานสำหรับผู้ว่างงาน นอกจากนี้ ยังมีภาคเอกชนเครือไมเนอร์กรุ๊ป ที่มาเปิดรับสมัครงานกว่า 500 อัตรา ทั้งพนักงานบริการด้านอาหาร พาร์ทไทม์ และฟูลไทม์ รวมไปถึงพนักงานตำแหน่งด้านการตลาด บัญชี ไฟแนนซ์ และรับนักศึกษาฝึกงาน ทั้งบัญชีการตลาด HR และตำแหน่งงานใหม่ๆ อีกมากมาย
ปลัดเกษตรฯ เดินหน้าแก้ปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องหนี้สินและปากท้องของเกษตรกร

โดยในวันนี้ได้เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายสุรเดช สมิเปรม รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องสมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจแห่งชาติ ถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์เร่งรัดคดีการทุจริตในสหกรณ์
ซึ่งอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นการลดผลกระทบและปราบปรามการทุจริตที่จะซ้ำเติมเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ผู้มีรายได้น้อย โดยได้มอบหมายอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์รับผิดชอบโดยตรง รวมทั้ง เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังยืนยันอีกว่าจะเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีให้เข้าสู่ชั้นศาลโดยเร็ว นอกจากนี้ พร้อมให้ความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ ในการดำเนินมาตรการป้องกันการทุจริตในสหกรณ์เพื่อไม่ให้เกิดซ้ำอีกด้วย
ปลัดเกษตรฯ รับลูกรัฐมนตรีเกษตรฯ มอบนโยบายทุกหน่วยงานในสังกัด
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตร ครั้งที่ 2/2566 โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ณ ห้องประชุม 134-135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า การประชุมในวันนี้ได้มอบนโยบายและหารือการขับเคลื่อนงานเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามที่ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบนโยบายไว้ อาทิ มาตรการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรในจังหวัดนครศรีธรรมราช

โดยเฉพาะมังคุดและยางพารา การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร การบริหารจัดการน้ำภาคการเกษตร การแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรระยะเร่งด่วนและระยะยาว ได้แก่ สินค้ากุ้ง และโคนม และการแก้ไขปัญหาการทำประมง เป็นต้น ซึ่งได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาภายในสัปดาห์หน้าและเตรียมดำเนินการได้ทันที
ขณะเดียวกัน ยังได้หารือประเด็นที่สำคัญอื่น ๆ ประกอบด้วย 1) การจัดการที่ดิน ส.ป.ก. และนิคมสหกรณ์ 2) การเตรียมการแก้ไขปัญหาเอลนีโญ 3) การเตรียมการแก้ไขปัญหาหมอกควัน และ 4) การขับเคลื่อนมาตรการคาร์บอนเครดิต อีกด้วย
กรมทางหลวงชนบท ก่อสร้างและยกระดับถนนสาย อด.2009 อุดรธานี เสร็จสมบูรณ์
กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 15 (อุดรธานี) ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนและยกระดับชั้นทางหลวงชนบทสาย อด.2003 แยก ทล.22 – บ้านอ้อมกอ อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เสร็จสมบูรณ์ ก่อสร้างเป็นถนนลาดยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตขนาด 2 และ 4 ช่องจราจร ผิวจราจรกว้าง 3.25 – 6.5 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 1.3 – 2.5 เมตร แบ่งช่องจราจรด้วยเกาะกลางแบบสีและแบบแยกกว้าง 0 – 4 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจรและไฟฟ้าส่องสว่าง บริเวณช่วง กม. ที่ 0 +175 – 7+500 ระยะทาง 7.325 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 49.950 ล้านบาท

เนื่องจากถนนสายนี้เป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่น และเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างอำเภอ ส่งผลให้มีปริมาณการจราจร 2,060 คัน/วัน ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชน ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่ราชการ สถานศึกษา หมู่บ้าน พื้นที่ทางการเกษตร สนับสนุนการท่องเที่ยวภายในจังหวัด อาทิ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง และให้ประชาชนสามารถสัญจรไป – มาระหว่างอำเภอหนองหาน บ้านดุง และทุ่งฝน ได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัย
กรมการจัดหางาน หารือเมียนมา แรงงานอยู่ครบ 4 ปี เข้าระบบการจ้างงาน
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 กรมการจัดหางาน ประชุมหารือร่วมกับท่านมอง มอง ตาน อธิบดีกรมแรงงาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และคณะ ผ่านระบบ Video Conference เกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการแรงงานเมียนมาตาม MOU ที่วาระการจ้างงานครบ 4 ปี ในประเด็น ดังนี้1. การอำนวยความสะดวกแรงงานอยู่ครบ 4 ปี ให้กลับเข้าสู่ระบบการจ้างงานโดยเร็ว

โดยแรงงานที่วาระการจ้างงานครบ 4 ปีในปีนี้ ที่ประสงค์จะทำงานต่อไป สามารถกลับเข้ามาทำงานครั้งใหม่ โดยที่ระยะเวลาในการเดินทางกลับเมียนมาไม่ต้องถึง 30 วัน และสามารถดำเนินการลงนามสัญญาจ้างได้ในบริเวณแนวชายแดนฝั่งเมียนมา ณ เมืองเมียวดี และ เกาะสอง2. ฝ่ายเมียนมาแจ้งให้ทราบว่าสามารถเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2566 โดยพิจารณาอนุมัติบัญชีรายชื่อมาแล้ว จำนวน 171 คน 3. การเตรียมความพร้อมในการออกเอกสาร CI ฝ่ายเมียนมามีความพร้อมที่จะดำเนินการออกเอกสาร CI ให้กับแรงงานเมียนมาจำนวนมากที่ได้ขึ้นทะเบียนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ภายหลังจากที่ฝ่ายไทย ได้เสนอแนวทางการดำเนินการให้กับคณะรัฐมนตรีพิจารณา
“รัฐบาลไทยได้เปิดโอกาสให้แรงงานตาม MOU ที่ครบ 4 ปี ได้ทำงานกับนายจ้างในประเทศไทยต่อไป โดยมีแนวทางดำเนินการด้านนโยบายในการบริหารจัดการแรงงานให้เข้าสู่ระบบการจ้างงานตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แรงงานได้รับสิทธิและการคุ้มครองตามกฎหมายไทย” นายไพโรจน์ กล่าว หากนายจ้าง/สถานประกอบการ และแรงงานต่างด้าว มีข้อสงสัยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน doe.go.th และ Facebook : สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว หรือติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694