ช่างสังเกต ใฝ่รู้ พัฒนาต่อยอดธุรกิจ ถือเป็น DNA ที่ถูกบ่มเพาะของ “สมุนไพรวังพรม” จากรุ่นแม่สู่ลูก ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
จากแคดดี้สาวที่เรียนจบแค่ ป.3 แต่ดันเห็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มด้วยการซื้อยาหม่องจากวัดโพธิ์ ท่าเตียน มาขายต่อที่หน้าวัดไร่ขิง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี ร้านขายยาหม่องแบบแบกะดินได้ขยายกลายเป็นร้านที่ใหญ่ขึ้น
“ประนอม วังพรม” ไม่หยุดอยู่กับที่ เธอเริ่มไปเรียนทำยาหม่องที่ทำจากสมุนไพรอย่างจริงจัง พร้อมทั้งเริ่มคิดค้นสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ด้วยการใช้ไพลมาเป็นส่วนผสมหลักในการทำยาหม่องสูตรต้นตำรับสีเหลือง แต่ธุรกิจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
ยาหม่องสูตรที่เธอคิดค้นขึ้นมาใหม่ตลอดทั้งเดือนขายไม่ได้เลยแม้แต่ขวดเดียว เธอจึงใช้กลยุทธ์ทำยาหม่องเป็นขวดเล็ก ๆ ติดฉลากเบอร์โทรแนบติดกับขวดไปด้วย พร้อมกับแจกให้คนที่เดินผ่านไปมาหน้าวัดแบบฟรี ๆ ผลตอบรับที่ได้ดีเกินคาด ลูกค้าได้ทดลองใช้ ต่างชื่นชอบในตัวสินค้า โทรมาสั่งซื้อให้ส่งผ่านทางไปรษณีย์จนทำให้ธุรกิจมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันนานกว่า 25 ปี
วัชรีภรณ์ วังพรม ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บ. สมุนไพรวังพรม จำกัด คือ ทายาทรุ่น 2 ที่มารับช่วงต่อจากประนอมแม่ของเธอ ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนโต คนที่ 2 รองจากพี่ชาย วัชรีภรณ์ หรือ แต้ว ได้คลุกคลีอยู่กับแม่มาตลอดนับตั้งแต่ที่เริ่มรับซื้อยาหม่องมาขายต่อเนื่องจนกลายมามีแบรนด์เป็นของตัวเอง แบรนด์ที่ต้องมีฉลากเป็นหน้าของหมอเฉลิม วังพรมพ่อของเธอติดอยู่ทุกขวด
การรับช่วงต่อดูแลกิจการของครอบครัวที่โตมาอย่างต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องง่าย แต้วบอกว่า ช่วงแรกเธอถูกญาติพี่น้องสบประมาทไว้ว่า จะทำให้ธุรกิจ 100 ล้าน ของพ่อแม่เดินหน้าต่อไปได้หรือเจ๊งกันแน่ แต่ด้วยความที่ไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ เหมือนกับแม่ของเธอ
แต้วและสามีจึงได้ทยอยปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการบริหารภายในใหม่หมด จากเดิมที่ธุรกิจทำกันแบบง่าย ๆ ภายในครอบครัว ไม่มีเอกสารตรวจสอบบัญชีใด ๆ ให้ชัดเจน ก็เริ่มปรับปรุงให้มีเอกสาร มีพนักงานทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น
การคัดเลือกพนักงานเข้ามาทำงานในบริษัทถือเป็นอีกหัวใจสำคัญ จากเดิมที่บ้าน โรงงาน และออฟฟิศ คือ สถานที่เดียวกัน บรรยากาศการทำงานเป็นแบบเก่า ๆ ไม่ค่อยดึงดูดให้คนดี ๆ มีคุณภาพอยากเข้ามาร่วมงานกับเราสักเท่าไร แต้วจึงยอมทุ่มทุนเปลี่ยนแปลงโซนออฟฟิศใหม่หมด เพื่อให้มีบรรยากาศผ่อนคลาย เข้ากับคอนเซ็ปต์สมุนไพรที่เป็นสินค้าของธุรกิจเราด้วย แล้วเราก็สร้างทีมงานที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้น
ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานมากกว่า 70 คน แบ่งออกเป็นฝ่ายต่าง ๆ ทั้งพนักงานฝ่ายผลิต/สต็อกสินค้า ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายบัญชี ต่อเนื่องไปถึงฝ่ายกราฟิก ที่เข้ามาช่วยดูในเรื่องของการทำตลาดผ่านออนไลน์ ส่งผลให้ยอดขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดิมกว่า 70%
ด้านช่องทางจำหน่ายและการกระจายสินค้า 80% ของยอดขายทั้งหมด มาจากการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย อย่าง บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด มหาชน หรือ BJC อีก 15% มาจากการขายผ่านออนไลน์ และ 5% ที่เหลือ คือการขายผ่านหน้าร้านของบริษัทเองที่มีอยู่ 2 สาขา ใน จ.นครปฐม
สำหรับยอดขายปีนี้ สมุนไพรวังพรม ตั้งเป้าไว้ที่ 300 ล้านบาท มั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าอย่างแน่นอนหลังจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอัตราโตขึ้นถึง 30%
ส่วนกลยุทธ์การตลาดนั้น จะเน้นออกโรดโชว์ตามแหล่งออฟฟิศต่าง ๆ ตามหัวเมืองใหญ่ให้เพิ่มขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่มีมากในแถบอีสานและเป็นชาวเกษตรกร อายุ 40-50 ปี เป็นส่วนใหญ่ ให้กลายมาเป็นกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน อายุ 30-35 ปี ขึ้นไปควบคู่ไปด้วย