ยุคสมัยเปลี่ยนไป วงการอสังหาริมทรัพย์ต้องเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค กับ แนวคิดที่ว่าทำอย่างไรให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ล่าสุด แอสเซทไวส์ ขยายแบรนด์เคฟ ดึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ย่านรังสิต เปิดพื้นที่ “เคฟ คลับ” (Kave Club) เอาใจบรรดานักศึกษา และเหล่าเกมเมอร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยการมี E-Sports Mini Stadium ครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์

กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับคอนโดมิเนียม ภายใต้ แบรนด์ KAVE บริษัทฯ ได้ตั้งใจพัฒนาขึ้นเป็นแคมปัส คอนโด เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักศึกษาโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากการพัฒนาในส่วนของห้องชุดให้มีฟังก์ชั่นที่สะดวกสบายในการอยู่อาศัยแล้ว บริษัทฯ ยังได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้ครอบคลุมกับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่ จะเห็นได้ว่าเราได้พัฒนาพื้นที่บริเวณชั้น 2 ของเซลล์แกลลอรี่ ในโครงการเคฟ ทาวน์ ให้กลายเป็น “เคฟ คลับ” (KAVE Club) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เติมเต็มความสนุกให้ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆให้กับกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ให้ได้ใช้ประโยชน์ในทุกวัน โดยแบ่งสัดส่วนพื้นที่เป็น 4 ฟังก์ชั่นด้วยกัน ประกอบด้วย Co-Working Space ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ คอยให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น Vending Machine, Smart Locker และ Digital Print Self Service อีกทั้งยังมี E-Library พื้นที่สำหรับค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ พร้อมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมไปถึง Chill Out Area พื้นที่สำหรับผ่อนคลาย และโซนที่เป็นไฮไลท์ของ “เคฟ คลับ” ก็คือ E-Sports Mini Stadium พื้นที่ความพิเศษแบบจัดเต็มเพื่อใช้สำหรับฝึกซ้อมและแข่งขัน E-Sports ของเหล่าบรรดาเกมเมอร์อีกด้วย


การพัฒนาเคฟ คลับ (KAVE Club) ถือเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยในการสร้างสรรค์พื้นที่แห่งนี้เพื่อรองรับกิจกรรม E-Sports โดยเฉพาะ ซึ่งเปิดให้บริการแก่นักศึกษาม.กรุงเทพ เท่านั้น โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่ซื้อคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เคฟหรือไม่ก็ตาม ซึ่งสามารถเข้ามาใช้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถใช้งานได้คนละ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
“Kave Town แล้ว จริงๆ มีหลายเฟส ตอนนี้เราเปิดมาแล้ว สองเฟส ก็คือ Kave Town Space แล้ว Kave Town Shift ซึ่งตอนนี้มีลูกค้าจับจองไปแล้วกว่า 60% โดยจะเริ่มทยอยโอนภายในสิ้นปีหน้า ในส่วนของ KAVE Club เราลงทุนไป 6-7 ล้านบาท (ไม่รวมค่าสถานที่) มูลค่าทั้งโครงการเฉพาะ KAVE Town เฟสหนึ่งมูลค่าประมาณ 2.2 พันล้าน สองเฟสรวมกัน 4.4 พันล้าน ซึ่งเราคาดว่าเฉพาะสองเฟสนี้น่าจะ Sold Out ไม่เกิน 6 เดือน หรือคิดเป็นประมาณ 2 พันยูนิต”
สำหรับจุดแข็งของเรา คือการมี Facility ที่ดีที่สุด ซึ่งเราจะไม่หยุดนิ่ง จะครีเอท Facility ใหม่ๆ และจะ Beyond ขึ้นไปอีก ในอนาคตส่วนของ Facility เราก็แพลนไว้ว่าจะมีอะไรที่พิเศษแน่นอน ซึ่งต้องรอดูในโอกาสต่อไป ส่วน KAVE Club เราก็แพลนไว้ว่าที่ธรรมศาสตร์ เราอาจจะทำเพิ่มอีก 1 ฮับ
“ผมคิดว่าอสังหาฯเป็นสินค้าแพ็คใหญ่มีมูลค่าสูง ชีวิตหนึ่งอาจจะไม่ได้ซื้อบ่อยๆ เพราะฉะนั้นราคา สูงสุดที่เขาจ่าย เราจะต้องทำให้ได้ดีที่สุด ไม่ได้ทำแบบฉาบฉวย ทำแล้วต้องอยู่ได้จริง Facility ต้องใช้ได้จริง มีCommunity ที่ดี และที่สำคัญต้องอยู่สบาย”