“เศรษฐา” ประชุม ครม.นัดพิเศษสั่ง ครม.เร่งผลงาน
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)นัดพิเศษ นัดแรก โดยนายเศรษฐา กล่าวก่อนการประชุมว่า ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นการประชุมครม.นัดพิเศษตนอยากจะขอชี้แจงแนวทางการทำงานร่วมกันในฐานะรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จึงได้พูดไปหลายเวทีว่าเราเป็นรัฐบาลของประชาชน จะทำงานเพื่อประชาชน ปฏิบัติตัวเคร่งครัดตามรัฐธรรมนูญและตามกฏหมายเรื่องการมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ ปัญหาสังคม ปัญหาความแตกแยกความคิดทั้งหลาย

รัฐบาลนี้จะพยายามแก้ไขให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เศรษฐา กล่าวว่า เราจะทำงานด้วยความรวดเร็วอะไรที่ทำได้ก่อนโดยไม่ติดข้อกฎหมายอยากให้ทุกรัฐมนตรีสร้างผลงานทำเพื่อประชาชนที่กำลังเดือดร้อนและรอคอยการทำงานของพวกเราอยู่ วันนี้เรายังสั่งการไม่ได้ จนกว่าจะแถลงนโยบายซึ่งในอาทิตย์หน้าจะมีการแถลงนโยบาย หากได้เข้ากระทรวงไปแล้วก็จะเป็นการเก็บข้อมูลนำมาประกอบในการทำงานต่อไป
ขอเน้นย้ำเรื่องความโปร่งใสในการทำงาน เรื่องการโยกย้ายข้าราชการการบริหารงบประมาณ ให้มีความก้าวหน้าในการทำงานในทุกๆด้านมากที่สุด
“ทรงศักดิ์” พร้อมลุยงานมหาดไทย ติดตามงานถึงระดับหมู่บ้าน
ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)นัดพิเศษว่า การแบ่งงานขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ที่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแบ่งงาน

ส่วนตัวไม่มีเรื่องที่หนักใจแม้จะเคยผ่านงานมาก่อน เพราะเป็นงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข ซึ่งจะต้องสานงาน ที่เคยทำมาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของการแก้ปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในเรื่องนี้ก็ต้องขอดูข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากครั้งที่ผ่านมาไม่ได้ดูแลเรื่องนี้
ส่วนโควต้ารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยที่ได้รับมานั้นทรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามสัดส่วน ตามที่พรรคเพื่อไทยจัดสรรให้ ไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น พร้อมย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่ใหญ่
ดังนั้นการมีรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยหลายคนนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้เกิดความรวดเร็ว ซึ่งเมื่อมีรัฐมนตรีหลายท่านก็จะสามารถแบ่งเบาภาระงานได้ ทำให้การบริการประชาชนเกิดความรวดเร็ว และจะมีการลงพื้นที่ ติดตามงานซึ่งจะต้องลงถึงระดับหมู่บ้านด้วยซ้ำ
“อนุชา” มั่นใจงานกระทรวงเกษตรมีเอกภาพ ไม่ขัดแย้งใคร
อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวก่อนประชุม ครม.นัดพิเศษว่า เมื่อช่วงเช้าได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาแล้ว โดยส่วนตัวขอพรให้การทำงานลุล่วง ซึ่งงานของกระทรวงเกษตร มุ่งเน้นเรื่องของการแก้ปัญหาให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจนให้ได้

พร้อมยืนยันว่า รู้สึกสบายใจ และไม่ลำบากใจในการทำงานร่วมกับรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมืองอื่น และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ให้เกียรติในการทำงานร่วมกัน ล่าสุดก็ได้ไปลงพื้นที่ติดตามปัญหาราคามังคุดตกต่ำที่จังหวัดนครศรีธรรมราชด้วยกัน
จึงเชื่อว่า ทุกคนจะทำงานร่วมกันได้ด้วยดี โดยรัฐมนตรีทั้ง 3 คนก็ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นเอกภาพไม่ขัดแย้งกัน เพื่อร่วมกันทำงานเชิงรุกและเร่งด่วน ตอบสนองประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
“ก้าวไกล” ติงแถลงนโยบายวันเดียวน้อยไป กลัวเนื้อหาไม่ครบ
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาว่าส่วนตัวยังมีข้อกังวล 2 ส่วนคือกรอบเวลาในการอภิปราย ขณะนี้มีข่าวออกมากว่าอาจจะเหลือการอภิปรายนโยบายเพียง 1 วัน โดยยังต้องรอการยืนยัน โดยมองว่าเป็นเวลาที่สั้นมาก หากย้อนดูในอดีตของการอภิปรายก็มักจะมากกว่า 1 วัน โดยจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกรอบอภิปราย 2 วัน ทั้งนี้หากเหลือแค่เพียงวันเดียวจริงก็ถือว่าเป็นวิธีการที่รวบรัดจนเกินไปกับกระบวนการที่มีความสำคัญ

ส่วนข้อกังวลที่สองคือก็คือเนื้อหาสาระของนโยบาย โดยต้องรอการยืนยันว่าเอกสารคำแถลงนโยบายที่หลุดออกมากเป็นเอกสารทางการหรือไม่ หากเอกสารที่ออกมาตรงกับเอกสารหลุดออกมาผ่านสื่อก็ยอมรับว่ายังขาดรายละเอียดนโยบายที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สื่อสารกับประชาชนก่อนหน้าการเลือกตั้ง
โดยยังไม่พบนโยบายค่าแรง สภาร่างรัฐธรรมนูญที่ยังมีความคลุมเครือว่าจะจัดตั้งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งหรือไม่ รวมทั้งนโยบายรถไฟฟ้า20บาทก็ไม่มี
“เพื่อไทย” ลุยเจรจา “ก้าวไกล” เคลียร์ปม กมธ.สภาฯ
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าในสัปดาห์นี้จะร่วมพูดคุยกับพรรคก้าวไกล รวมถึงพรรคการเมืองที่ขอจัดสรรตำแหน่งประธานกรรมาธิการ(กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ซ้ำกัน โดยไม่ต้องรอให้ผลการเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง แทนตำแหน่งที่ว่าง ในวันที่ 10 ก.ย. นี้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ในการประชุมเพื่อจัดสรรโควตาประธานกมธ. เมื่อ 4 ก.ย. ที่มีปัญหาและประเด็นว่าไม่สามารถตกลงกันได้นั้น

เนื่องจากตัวแทนของพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าต้องการประธานกมธ. 11 คณะ เพื่อให้ที่บทบาทในการตรวจสอบ โดยไม่สามารถถอยให้กับพรรคการเมืองที่มีความต้องการซ้ำคณะกันได้ ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้วการตรวจสอบนั้นสามารถทำได้กับทุกกมธ. โดยไม่จำเป็นว่าต้องนั่งประธานกมธ.เท่านั้น
ตามสัดส่วนที่คำนวณพรรคก้าวไกล จะได้โควตา 10 คณะ แต่ในวงประชุมเขายืนยันว่าจะได้ 11 คณะ เพราะในการเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขายืนยันอย่างมั่นใจว่าจะชนะแน่นอน ซึ่งที่ประชุมไม่ว่าอะไร เพราะยังไงต้องรอผลการเลือกตั้งออกมาก่อน แต่ที่ไม่สามารถคุยกันได้ เพราะพรรคก้าวไกลยืนยันว่า 11 คณะนั้นไม่สามารถจัดสรรให้พรรคอื่นได้ เพราะมีความสำคัญในบทบาทตรวจสอบฝ่ายค้านบริหาร แม้ว่าผมจะเจรจาว่า กมธ.ของสภาฯ
ทุกคณะมีบทบาทตรวจสอบรัฐบาลและเรียกเอกสาร ตรวจสอบได้ทั้งหมด ดังนั้นการหารือร่วมกันด้วยความประนีประนอม แบ่งใจหากัน โดยพรรคเพื่อไทยฐานะแกนนำรัฐบาลไม่มีปัญหากับการถูกตรวจสอบ แต่เรื่องกมธ.นั้นไม่ว่าใครจะเป็นประธานกมธ.หรือไม่ การทำงานต้องตรวจสอบทุกฝ่ายอยู่ดี