“เศรษฐา” นัด 17 รมต.เพื่อไทยหารือ เร่งตีปี๊บผลงาน
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย รวมทั้งสิ้น 17 คน เช่น ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย
โดยเศรษฐา กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่พบกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งน่ายินดีว่าพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) เรามีถวายสัตย์ฯ ทุกคนก็ทราบขั้นตอนแล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนเคยพูดว่าเราเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จากนี้ต่อไปตนจะระวังคำพูด เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชนที่มีพรรคร่วม 11 พรรค เพื่อเป็นการให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชน ช่วงการเลือกนายกฯ และแต่งตั้งรัฐมนตรี นายภูมิธรรม พูดหลายหนเราใช้ต้นทุนที่สูง
อยากเปลี่ยนเป็นคำว่า เราเทหมดหน้าตัก ซึ่งการทำงานครั้งนี้ เรามีผู้มีเกียรติที่นั่งอยู่ที่นี่ที่ได้รับเกียรติของพี่น้องประชาชนเลือกเข้ามา ดูแลบ้านเมือง การเทหมดหน้าตักเป็นเรื่องที่เราต้องทุ่มเทการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เชื่อว่าทุกท่านตระหนักดีก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในช่วงเวลานี้ ทั้งเรื่องการทำงาน ระยะเวลา และขีดจำกัดของงบประมาณก็เป็นเรื่องสำคัญ
ตนไม่อยากให้ขีดข้อจำกัดงบประมาณ หรือบอกเข้ามาบริหารช้าไปนิดหนึ่ง ซึ่งการใช้งบประมาณคาดว่าจะได้ใช้ต้นปีหน้า แต่ไม่ได้หมายความว่างบประมาณจะเป็นขีดจำกัดไม่ให้เราทำงาน เราเชื่อว่าเรามีควิกวินหลายที่เราทำได้ เพื่อดูแลทุกข์สุขยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน อะไรที่ทำได้ก่อนก็ทำ
เข้าใจว่าแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ก็มีแผนบางอย่างขึ้นอยู่งบประมาณ ถ้าอะไรทำได้หรืออะไรที่เป็นควิกวินเพื่อให้ประชาชนเห็นว่าเราทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ตนก็อยากให้เขียนออกมาให้ได้ก่อน และเวลาที่ไปพูดคุยกับประชาชนอย่าไปบอกว่าทำไม่ได้ เราถูกเลือกเข้ามาเพื่อให้ทำให้ได้ ถือว่าเรื่องที่สำคัญที่สุด
“ ครม.ใหม่” เตรียมย้ายเข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ถึงการจัดเตรียมห้องทำงานของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ของทำเนียบรัฐบาล ขึ้นไปทำความสะอาด และดูความเรียบร้อย ภายในห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ว่า มีส่วนไหนที่จะต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงหรือไม่ โดยยังไม่มีการสั่งให้เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ใดๆ
นอกจากนี้ ในส่วนของตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของรองนายกรัฐบาล และ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีรายงานข่าวว่า บรรดารองนายกรัฐมนตรี ได้ส่งคนมาดูห้องทำงาน ซึ่งมีรายงานว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ จะใช้ห้องทำงานที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขณะที่พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะใช้ห้องทำงานที่ชั้น 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของ ดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.ต่างประเทศ
ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องทำงานของวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขณะที่พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีต รมว.พลังงาน
สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีจะใช้ห้องทำงานชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีต รมว.พาณิชย์ ด้าน พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ของอนุชา นาคาศัย อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะใช้ห้องทำงานห้องเดิมที่ชั้น 3 และห้องของผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกัน
“สุทิน” เล็งรื้อสัญญาเรือดำน้ำเคลียร์ปัญหาเรือไร้เครื่องยนต์
สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหาเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ว่า ภายหลังการถวายสัตย์ปฏิญาตและรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาฯแล้ว ตนจะให้ความชัดเจน ปัญหาเรือดำน้ำขาดเครื่องยนต์ หลังกองทัพเรือเสนอให้ใช้เครื่องยนต์จากจีน ซึ่งตนมีทางออกอยู่ในใจแล้ว และเป็นทางอออกที่ดี
กองทัพต้องพอใจ และประชาชนและสังคมรับได้ มีเหตุผลอธิบายได้ เมื่อถามย้ำว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำ สุทิน ภายหลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาฯ จะชี้แจง และต้องพูดคุยรายละเอียดกับกองทัพเพราะเป็นหน่วยงานที่จะต้องใช้งาน แม้จะมีการพูดคุยกันไปแล้วบ้าง แต่ยังไม่ละเอียด ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน
เมื่อถามว่ายังคงเป็นเรือดำน้ำจีนหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่ายังไม่ตัดสินใจว่าเป็นทางใดทางหนึ่งแต่มีข้อเสนอที่ดีกว่า ก็อาจจะลองคุยอีกทีหนึ่งก็ได้
“เศรษฐา” ยันไม่รื้อรังนักข่าว แค่คิดปรับปรุงให้ดีขึ้น
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ ( 3 ก.ย.) ว่าตนเข้าไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อดูสถานที่ ดูห้องทำงาน ห้องประชุม ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรีแต่ละคน
เมื่อถามถึง กระแสข่าวจะปรับปรุงรังนกกระจอก 1 ที่อยู่ติดกับตึกนารีสโมสร ให้เป็นที่ทำงานข้าราชการเศรษฐา กล่าวว่า ยืนยันว่าจะไม่รื้อ แต่ต้องการปรับปรุงให้ดีขึ้น และได้สอบถามว่าสื่อมวลชนอยู่ตรงไหนกันบ้าง ซึ่งทราบว่ามีอยู่ 2-3 ที่ เพื่อให้ฝ่ายบริหารเข้าถึงสื่อมวลชนได้ดีขึ้นอาจจะต้องมีการปรับรูปแบบบ้างในบางอย่าง แต่ยืนยันว่าความเป็นอยู่จะต้องดีขึ้น
เมื่อถามว่าจะมีการจัดระเบียบสื่อมวลชนใหม่หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่าผมไม่เคยใช้คำว่าจัดระเบียบ แต่ใช้คำว่าไปดูความเป็นอยู่ของสื่อมวลชน ยืนยันว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องดีขึ้น ไม่ใช่ไปจัดระเบียบ ตนไม่เคยใช้คำแบบนี้เลยไม่ทราบว่าใครเป็นคนใช้แต่ไม่มีแน่นอน
ขอให้พี่น้องสื่อมวลชนสบายใจได้ เพราะดูแล้วทั้ง 3 ที่ ยังไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ผมจะปรับปรุงให้สบายขึ้น รวมทั้งการทำงานร่วมกับฝ่ายบริหาร เพราะการจะเข้าถึงประชาชนได้ส่วนหนึ่งต้องอาศัยสื่อมวลชน ทั้งนี้อยากให้นายกฯ รมต.และภาคส่วนต่างๆ มีพื้นที่ในการลงมาพูดคุยกับสื่อมวลชนได้
‘สว.’ จองคิวอภิปรายนโยบายรัฐบาล คาดใช้เวลาแถลง 2 วัน 11-12 ก.ย.
วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลของเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ วันที่ 11 กันยายน ว่าตนเชื่อว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน และ สว.จะขอเวลาอภิปรายในเนื้อหา ไม่น้อยไปกว่าการอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ เพราะมีประเด็นที่ต้องขอความชัดเจนในรายละเอียดว่านโยบายที่แถลงนั้นทำได้จริง ไม่ใช่แถลงแล้วทำไม่ได้ และไม่รับผิดชอบ
โดยประเด็นที่คาดว่าจะถูกซักถามอย่างละเอียด คือ เงินดิจิทัล 10,000 บาท, นโยบายปรองดอง, การทหาร , ลดค่าครองชีพ, ค่าไฟ , นโยบายพักหนี้ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้พรรคเพื่อไทยจะแถลงแล้ว แต่เป็นการแถลงนอกสภาฯ
ดังนั้นในการอภิปราย จะขอคำมั่นว่า การแก้ไขจะไม่แตะหมวดสถาบัน รวมถึงที่มาของ สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่ระบุว่าจะมาจากการเลือกตั้งนั้น มีรายละเอียดอย่างไร หรือมาจากส่วนใด ทั้งนี้ตนมองว่า ที่มาของ ส.ส.ร. ต้องมีความพอดี และชัดเจนหากมาจากเลือกตั้งทั้งหมด อาจทำให้อิทธิพลพรรคการเมืองครอบงำได้
หลังจากการประชุมวิป 3 ฝ่าย 7 ก.ย. เพื่อตกลงเรื่องกรอบเวลาแล้ว ตามปกติ สว.จะจัดสัมมนา พร้อมนำคำแถลงนโยบายของรัฐบาลมาพิจารณา ซึ่งตนเชื่อว่ารัฐบาลจะส่งให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาล่วงหน้า จากนั้นมอบหมายให้ กรรมาธิการวุฒิสภา นำไปพิจารณาก่อนจะส่งสว.ร่วมอภิปรายรายละเอียดในวันที่ 11 ก.ย. นี้
Xส่วน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีจะใช้ห้องทำงานชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีต รมว.พาณิชย์ ด้าน นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ของ นายอนุชา นาคาศัย อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะใช้ห้องทำงานห้องเดิมที่ชั้น 3 และห้องของผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกัน
