รีซัลทิคส์ (Resulticks) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับการสื่อสารแบบเรียลไทม์เพื่อนักการตลาด โดยใช้ระบบบล็อกเชนข้อมูลการตลาด มีลูกค้าทั่วโลกมีมากกว่า 200 ราย ประกาศเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศไทย มุ่งตอบสนองความต้องการโซลูชันการตลาดที่ผสานทุกช่องทาง หรือ ออมนิแชนเนล (Omnichannel)
โซลูชันการตลาดออมนิแชนเนลของรีซัลทิคส์ คือ แบรนด์ต่างๆ จะสามารถประสานแคมเปญการตลาดในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย อีเมล อีคอมเมิร์ซ โมบายล์แอป เอสเอ็มเอส หรือช่องทางดิจิทัลอื่นๆ เช่น คิวอาร์โค้ด และเทคโนโลยีส่งข้อมูลระยะใกล้ (location beacon) ร่วมกับการใช้ฐานข้อมูลลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ
รีดิคกา สุบรามมาเนียน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รีซัลทิคส์ กล่าวว่า “ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราเปิดสำนักงาน 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย ประเทศไทยจึงเป็น 1 ในตลาดสำคัญในการขยายธุรกิจของรีซัลทิคส์ เราต้องการเป็นหุ้นส่วนสำคัญในแผนการเติบโตของบริษัทต่างๆ ในไทยที่มีความก้าวหน้าและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
รีซัลทิคส์ จะทำให้การสื่อสารกับลูกค้าตรงเป้าหมายมากขึ้น สามารถส่งข้อความไปถึงลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
นอกจากนี้เรายังวางแผนที่จะเข้าถึงลูกค้าในต่างจังหวัดด้วย ถึงแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ก็สามารถเข้าถึงได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเข้าถึงสินค้า บริการต่างๆ
ระบบของเราจะทำให้บริษัทต่างๆ รู้จักกับลูกค้าตัวเองมากขึ้น เพิ่มประสิทธิของการการลงทุน และยังประหยัดต้นทุนได้ถึง 40% อีกด้วย”
ด้านหัวเรือใหญ่ของรีซัลทิคส์ในประเทศไทย คุณวิวัฒน์ มาสุจันท์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง Country Head ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เราทำวิจัยในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อมาเปรียบเทียบกับประเทศไทย
เรื่องที่เยอะที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือเรื่อง Technology Limitation หมายถึงว่า แพลตฟอร์มที่ใช้อยู่มันไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด
เรื่องที่ 2 คือ ข้อมูลกระจัดกระจายกันมากเกินไป และไม่สามารถนำมารวมกันได้
เรื่องที่ 3 คือ ปัญหาการเชื่อมโยงข้อมูลให้อยู่ในการทำงานของ Digital marketing
จากการทำวิจัยในประเทศไทย นั้นจะเห็นว่าลูกค้ามีความต้องการ การตลาดแบบเรียลไทม์ (Real-time Marketing) สูงมาก
รีซัลทิคส์จึงต้องการใช้เทคโนโลยีชั้นนำของเราช่วยให้แบรนด์ในไทย โดยเฉพาะในภาคการเงิน-การธนาคาร-การประกัน (BFSI) และภาคค้าปลีก สามารถยกระดับกลยุทธ์การตลาดไปอีกขั้น และช่วยในการสร้างความผูกพันที่มีความหมายกับลูกค้ามากขึ้น
ประเทศไทยมีแนวโน้มที่ค่อนข้างดีในการเข้าถึงเทคโนโลยี ประชากรในไทยมีความพร้อมในเทคโนโลยีค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงจำนวนประชากรที่เข้าถึงสมาร์ทโฟนนั้นมีมากถึง 75% ของประชากรในประเทศ เราจึงมั่นใจว่าแนวโน้มการเติบโตของ Digital marketing นั้นจะเติบโตได้มากเป็นลำดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นั่นทำให้เรามั่นใจว่าราจะมีลูกค้า 8-10 รายได้ใน 6-9 เดือนข้างหน้า และใน 3-5 ปี เราจะมีลูกค้ามากกว่า 20 ราย ในประเทศไทย
