ขสมก. ทดลองวิ่งรถเมล์ไฟฟ้าให้บริการประชาชนใน 3 เส้นทาง เรียกเก็บค่าโดยสารตามราคาปกติ พร้อมเก็บข้อมูลประกอบการพิจารณาก่อนจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าในอนาคต 35 คัน

นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. กล่าวว่า การทดลองให้บริการรถเมล์ไฟฟ้าในวันนี้ (4 ก.ย. 2562) ถือเป็นความร่วมมือกับบริษัท ไทยอีวี จำกัด ในการนำรถเมล์ไฟฟ้แบบปรับอากาศ ยี่ห้อ Thai EV รุ่น EV-L1 ขนาด 8.5 เมตร 24 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 kw มาทดลองวิ่งใน 3 เส้นทาง ทั้งระยะสั้นและระยะไกล เพื่อนำข้อมูลและสถิติการเดินรถที่ได้ไปประกอบการพิจารณาจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าปรับอากาศในอนาคต จำนวน 35 คัน ตามแผนฟื้นฟูของขสมก. ซึ่งจะต้องทยอยเปลี่ยนรถโดยสารให้บริการประชาชน รวมทั้งสิ้น 2,188 คัน โดยแบ่งจำนวนรถออกเป็น 4 ประเภท คือ รถเมล์ NGV เช่า 400 คัน รถเมล์ไฮบริด เช่า 300 คัน รถเมล์ไฮบริด ซื้อ 1,453 คัน และ รถเมล์ไฟฟ้า 35 คัน โดย กลุ่มรถเมล์ NGV และ รถเมล์ไฮบริด แบบเช่า รวม 700 คัน คาดว่าจะเริ่มกระบวนการปรับเปลี่ยนได้ภายในสิ้นปี หลังจากนั้น จะเริ่มดำเนินการปรับเปลี่ยนโดยทยอยซื้อรถเมล์ไฟฟ้า และรถเมล์ไฮบริด ตามลำดับ

สำหรับจุดเด่นของรถเมล์ไฟฟ้า คือ ก่อให้เกิดมลพิษน้อย และช่วยประหยัดพลังงาน จากการชาร์ตไฟ 1 ครั้ง ใช้งานได้ 200 กิโลเมตร ส่วนข้อจำกัดของรถเมล์ไฟฟ้าตามสป็คที่ขสมก.ต้องการ จะมีราคาสูงกว่ารถเมล์แบบปกติ โดยมีราคาสูงถึง 12 ล้านบาทต่อคัน แต่ทั้งนี้ หากพิจารณาในระยะยาวแล้ว นายประยุร บอกว่า มีความคุ้มค่ามากกว่า และการทดลองให้บริการรถไฟฟ้าของขสมก.ในครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 4 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2562 รวมระยะเวลา 45 วัน จะจัดเก็บค่าโดยสารตามอัตราปกติของแต่ละเส้นทาง ทั้ง 3 สาย ได้แก่
เส้นทางที่ 1 สาย 129 อู่บางเขน-สำโรง ทดลองวิ่งตั้งแต่วันที่ 4-18 กันยายน 2562 เป็นเวลา 15 วัน
เส้นทางที่2 สาย A1 ท่าอากาศยานดอนเมือง-สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ทดลองวิ่งตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2562 เป็นเวลา 15 วัน
เส้นทางที่ 3 สาย 522 อู่รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทดลองวิ่งตั้งแต่วันที่ 4-18 ตุลาคม 2562 เป็นเวลา 15 วัน


