‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ ขานรับนโยบาย ‘ไทยอินดัสทรี 2022’ ก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 โชว์ศักยภาพลงทุนเทคโนโลยีเครื่องจักรพร้อมระบบซอฟต์แวร์ HOMAG GROUP จากเยอรมนี กว่า 200 ล้านบาท หวังสร้างแต้มต่อเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ และลดต้นทุน
เอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อปี 2561-2562 บริษัทได้ลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ติดตั้งเครื่องจักรพร้อมด้วยระบบซอฟต์แวร์ (Software) ที่ทันสมัยจาก HOMAG GROUP ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี สำหรับเครื่องจักรงานไม้ และระบบซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์ภายในโรงงาน ดังนี้
- ระบบซอฟต์แวร์ ซึ่งจะช่วยบริหารจัดการงานผลิตทั้งระบบตั้งแต่งานออกแบบ ควบคุม วางแผน ต่างๆ
- การติดตั้งหุ่นยนต์ (Robot) สำหรับจัดเก็บไม้แบบ Customize order
- เครื่องตัดไม้ ใช้ระบบ Fully Barcode System ระบบอัตโนมัติในขั้นตอนการปิดบาร์โค้ดของไม้ทุกแผ่น ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบ MES Controller ส่งข้อมูลตามคำสั่งว่าไม้แผ่นนี้จะตัด ขนาดเท่าไหร่ , ปิดขอบสีอะไร เจาะรูแบบไหน เป็นต้น ก่อนลำเรียงต่อไปที่เครื่องตัดไม้
- เครื่องปิดขอบ Tandem Line โดยสามารถเลือกปิดแถบได้หลากหลายสี โดยไม่ต้องหยุดเครื่องจักรในการเปลี่ยนขอบ
- เครื่องเจาะ ที่เป็นระบบ Top High Speed ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น
ทั้งนี้การติดตั้งเครื่องจักรและระบบซอฟต์แวร์ดังกล่าว สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังการผลิตที่รวดเร็วขึ้น 3-4 เท่าต่อ 1 กะ โดยไม่ต้องหยุดพัก เพื่อปรับไลน์การผลิต อีกทั้งเพิ่มความแม่นยำ ลดต้นทุนประหยัดเวลา และได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพระดับสากล
นอกจากนี้ ยังนับเป็นโรงงานที่นำระบบจัดเก็บข้อมูลหุ่นยนต์เข้ามาใช้เป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับซอฟต์แวร์ได้อย่างสมบูรณ์ สอดคล้องกับนโยบาย ‘ไทยอินดัสทรี 2022’ ของรัฐบาลในการสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการผลิตของไทยนำระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และไอทีมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน และก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่นำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยมาใช้ในภาคการผลิต
“ที่ผ่านมาเราได้คัดสรรและนำเข้าเครื่องจักรจากบริษัทชั้นนำของโลก เพื่อพัฒนาการผลิตเฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพฐานการผลิตควบคู่กับการลดต้นทุน ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตออกมามีคุณภาพสูงสุด” เอกลักษณ์ กล่าว