รัฐบาลชูแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับ 4 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลสำเร็จของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 2560-2564) ในการเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย และพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเป็นจุดเชื่อมโยงของภูมิภาค เป็นต้น ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ได้รับทราบแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2565 – 2570) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อพลิกฟื้นทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างแข็งแรง ให้ตลาดทุนไทยเป็นผู้นำระดับภูมิภาค ส่งเสริมทุกภาคส่วนให้เติบโตอย่างยั่งยืน สนับสนุนทุกภาคส่วนให้ปรับสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและเสริมสร้างความอยู่ดีมีสุขทางการเงินของประชาชน
กฟผ. จับมือ ไฟฟ้าลาว ลุย 3 ธุรกิจใหญ่ เสริมความมั่นคงทางพลังงาน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เสริมสร้างประสิทธิภาพความมั่นคงในการผลิตและส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าและกิจการไฟฟ้าให้ยั่งยืน ได้แก่ 1) กฟผ. และ EDL จะร่วมกันพัฒนาธุรกิจโทรคมนาคมใน สปป.ลาว 2) ร่วมกันแสวงหาโอกาสพัฒนาธุรกิจการให้บริการงานเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว อาทิ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 3 และ 3)
การแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบ Smart Energy Solutions ในส่วนของสมาร์ทไมโครกริดและแสวงหาพื้นที่ที่มีศักยภาพใน สปป.ลาว โดยมีกรอบความร่วมมือเป็นระยะเวลา 3 ปี นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่รัฐวิสาหกิจของ 2 ประเทศจะได้แบ่งปันศักยภาพ สร้างความร่วมมือในด้านพลังงานให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งไทยได้เริ่มเดินหน้าเรื่องนี้อย่างเต็มที่ คาดว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ สปป.ลาว เพื่อขยายการดำเนินงานไปยังประเทศอื่น ๆด้วย
KBANK คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 32.70-33.50
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คาดกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (6-10 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 32.70-33.50 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดวันศุกร์ที่ 3 ก.พ. 66 ที่ระดับ 32.97 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของไทย
ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนก.พ. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนม.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน
เช็คเลย! เปิดลงทะเบียนใช้สิทธิ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” ว่า จะเปิดระบบรับสมัครผู้ประกอบการโรงแรม/ที่พักรายใหม่เข้าร่วมโครงการฯ กำหนดระหว่างวันที่ 8-15 กุมภาพันธ์ 2566 ทางwww.เราเที่ยวด้วยกัน.com จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิเพื่อจองโรงแรม/ที่พัก ในวันที่ 8 มีนาคม 2566 และเริ่มเข้าพักได้ในวันที่ 11 มีนาคม 2566 – 30 เมษายน 2566 โดยผู้ใช้สิทธิจะต้องติดต่อจองที่พักกับผู้ประกอบการโดยตรง อย่างน้อย 3 วันล่วงหน้าก่อนวันเข้าพัก และชำระค่าที่พัก 60% ผ่านทางช่องทาง G Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง
ซึ่งกำหนดให้เป็นการเดินทางข้ามจังหวัดได้ทั่วประเทศและเปิดจองที่พักวันสุดท้ายคือ วันที่ 26 เมษายน 2566 ทั้งนี้ ททท. คาดว่าโครงการ ฯ จะสร้างรายได้หมุนเวียนด้านการท่องเที่ยวกว่า 12,539 ล้านบาท สำหรับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” มีจำนวนสิทธิ์ทั้งสิ้น 560,000 สิทธิ์ โดยยังคงเงื่อนไขรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรม/ที่พัก 40% สูงสุด 3,000 บาทต่อห้อง รับสิทธิ์สูงสุด 5 สิทธิ์/ห้อง/คืน ต่อคน และสนับสนุนคูปอง E-Voucher 600 บาทต่อวัน แต่จะไม่มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายบัตรโดยสารเครื่องบินเหมือนเฟสที่ผ่านมา
DITP แนะส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าเจาะตลาดเช็ก
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงปราก ถึงแนวโน้มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของโรงงานผลิตรถยนต์ฮุนได ในสาธารณรัฐเช็ก ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่าในปี 2565 ฮุนไดได้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 40% เนื่องจากตลาดมีความสนใจรถยนต์ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น
โดยในปี 2566 ฮุนไดจะผลิตรถยนต์ใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ คือ Kona Electric model และคาดว่าจำนวนรถยนต์ใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า โดยเฉพาะการเจาะตลาดเช็กที่ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 5% ทำให้เห็นโอกาสในการส่งออกสินค้ากลุ่มชิ้นส่วน ส่วนประกอบ โดยเฉพาะตลาดชิ้นส่วน ส่วนประกอบสำหรับรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับรถยนต์ใช้ไฟฟ้า ซึ่งผู้ผลิตกลุ่ม Semiconductors ควรเตรียมแผนการผลิตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น
