HomeBT NewsBusiness Today Thai Politics 3 สิงหาคม 2566 ภาคเช้า

Business Today Thai Politics 3 สิงหาคม 2566 ภาคเช้า


“ชัยธวัช” เผย “ก้าวไกล” พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เตรียมดันกฎหมายหลายฉบับ ผ่านสภาฯ

ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการทำงานของพรรคหลังแยกทางกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลว่าในอนาคตการทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะการเสนอกฎหมายต่างๆ ที่เคยคุยกับพรรคเพื่อไทยไว้ในเอ็มโอยูว่าแม้เอ็มโอยูไม่มีอีกแล้วโดยเฉพาะเอ็มโอยูตอนเลือกประธานสภา เคยตกลงกันว่าจะร่วมมือกันผลักดันกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่ปฏิรูปกองทัพ นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง


อย่างไรก็ตาม ในฐานะ สส.เราสามารถเสนอร่างกฎหมายและเสนอแนะมาตรการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้ และหวังว่า สส.แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวกันจะเห็นชอบด้วยกับกฎหมายที่ก้าวไกลเสน

- Advertisement -

ส่วนการโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยวันนี้จะสรุปเป็นมติพรรคอีกครั้งหลังเปิดให้ สส.แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าประกาศได้หรือยังว่าจะเป็นแกนนำฝ่ายค้านชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้จบอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ว่าพรรคก้าวไกลอยู่ในฐานะไหนจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อผลักดันนโยบายผ่านฝ่ายนิติบัญญัติ และถ้าเราเป็นฝ่ายค้านจริงๆ เราสามารถผลักดันอะไรหลายๆ อย่างได้ แม้ในสมัยที่แล้วร่างกฎหมายของเราจะไม่เคยผ่านสภาเลย แต่สมัยนี้ หวังว่าจะมีหลายฉบับที่ผ่าน ถ้าพรรครัฐบาลเห็นชอบว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ

เมื่อถามพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรค 2 ลุง จะทำงานด้วยกันได้ไหม เขากล่าวว่า ไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก ปกติเราเลือกพรรคมาร่วมรัฐบาลกัน ส่วนพรรคที่ไม่ได้ถูกเลือกก็ไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีการจับขั้วฝ่ายค้าน


“เพื่อไทย” ไม่หวั่นมวลชนเคลื่อนไหวกดดัน ชี้แยกทาง “ก้าวไกล” เพื่อตั้งรัฐบาลเดินหน้าประเทศ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนออกมาชุมนุมกดดันพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลโดยที่ไม่มีพรรคก้าวไกลว่า การมีรัฐบาลคือ สิ่งจำเป็นจึงต้องมีเพื่อเดินหน้าประเทศ พรรคเพื่อไทยพร้อมชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงข้อจำกัด


การแสดงออกทางการเมืองในยุคนี้มีความหลากหลายอยู่แล้วเราในฐานะที่เป็นตัวแทนของเขาเราต้องพร้อม ถ้าม็อบมีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง ตนเชื่อว่ารับมือได้ โดยเรามีหน้าที่ชี้แจง และอธิบายข้อมูลข้อเท็จจริงทุกอย่าง ต้องตรงไปตรงมา เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้

ส่วนที่พรรคก้าวไกลออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจะทำให้ได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว. และ สส. เพิ่มขึ้นหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เหตุผลที่ สว. และ สส.จากพรรคการเมืองอื่นไม่ให้คะแนนอ้างเหตุของการแก้ไขมาตรา 112 และตัวนโยบายของพรรคก้าวไกลเราเองต้องทำเงื่อนไขนี้ให้หมดไป ซึ่งเพื่อไทยเราก็เสียดายเราก็ไม่อยากทำ แต่ว่าภายใต้เงื่อนไขนี้ และสิ่งที่จะต้องทำหน้าที่ต่อไปเราก็คุยกับพรรคก้าวไกลดีๆ เขาก็ยอมรับ เราก็มั่นใจว่าเราปลดเงื่อนไขนี้แล้วก็จะได้รับการสนับสนุนในการตั้งรัฐบาล


“รวมไทยสร้างชาติ” จี้ “เศรษฐา” เข้าสภาฯวันโหวตนายกฯ แสดงวิสัยทัศน์ เคลียร์ปมแก้ ม.112

วิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเริ่มดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลเอง และเสนอเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ตนก็มองว่า ต้องมองดูท่าทีของ สว.ว่า จะคิดอย่างไรกับการที่เศรษฐาเคยยืนหยัดว่า จะจับมือกับก้าวไกลมาตลอด รวมไปถึงการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ว่าเศรษฐา จะมีคำตอบอย่างไรต่อที่ประชุมรัฐสภา และพวกตนที่ยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่เอาการแก้ไขมาตรา 112 โดยยืนยันว่า จะขอรอดูท่าทีเพื่อตัดสินใจโหวต เพราะถ้ามาแล้วไม่มีคำตอบที่ยืนยันได้ เราก็ไม่สามารถโหวตสนับสนุนได้


ทั้งนี้พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ได้แนะนำให้ลูกพรรคดูตามสถานการณ์ ซึ่งตนในฐานะที่เป็นประธานวิปของพรรค จะหารือในสถานการณ์นั้นๆ ว่าจะลงมติสวน หรืองดออกเสียง ซึ่งมีเพียงแค่ 2 ทางเท่านั้น

ส่วนกรณีที่วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เรียกประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยประเด็นการเสนอญัตติซ้ำ ตามข้อบังคับที่ 41 ว่า สามารถเสนอชื่อซ้ำเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ได้หรือไม่ ว่าถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการชี้แจงมาจากศาลรัฐธรรมนูญ ว่า จะมีคำวินิจฉัยอย่างไร และถ้ารัฐสภาประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไป และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาอีกทางหนึ่ง ก็จะเกิดบรรยากาศการถกเถียงกันไม่จบซึ่งที่จริงควรให้มีมติจากศาลรัฐธรรมนูญออกมาก่อน
ตนคิดว่า การเร่งรัดของประธานรัฐสภา จะทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์ และวันนี้


“ชาติพัฒนากล้า” หนุน “เศรษฐา” นั่งนายกฯชี้ประสบการณ์ธุรกิจหนุนแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดเผยว่าพรรคติดตามการจัดรวมขั้วใหม่เพื่อตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย หลังจากพรรคเพื่อไทยระบุว่าจะจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกลโดยต้องรอฟังโครงสร้างของพรรคการเมืองที่จะประกอบเป็นรัฐบาลใหม่ ตนมองว่าเป็นเรื่องดีหากจะชัดเจนก่อนโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ทั้งในประเด็นองค์ประกอบของพรรคการเมืองในรัฐบาลใหม่ เสียงสนับสนุน และนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้แถลง


กรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ต่อที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 4 ส.ค.นั้น มองว่าแม้เศรษฐาไม่ได้เป็นภาคการเมืองมาก่อน แต่ประสบการณ์จากภาคธุรกิจเอกชน มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจ ถือว่าจะเป็นนายกฯ ที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจอย่างดี และเข้าใจปัญหาต่าง ๆ ว่าควรจะต้องดำเนินการอย่างไร บวกกับความเข้มแข็งของโครงสร้างทางการเมืองจากพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่เหมาะสม

ทั้งนี้มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคที่มีประสบการณ์ทั้งการเป็นนายกรัฐมนตรี การจัดตั้งรัฐบาล และเรื่องการบริหารกับการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจต่างๆ มาแล้วก็เชื่อว่าการบริหารจัดการของการเป็นแกนนำ พรรคเพื่อไทยสามารถที่จะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จลุล่วงเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศได้ต่อไป


ตำรวจนครบาล ประกาศห้ามมีการชุมนุมรัศมี 50 เมตร รอบรัฐสภาช่วง 3-6 ส.ค.รับโหวตนายกฯรอบ 3

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ลงนามคำสั่ง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ 341/2566 เรื่อง ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกินห้าสิบเมตร รอบรัฐสภา ตามมาตรา 7 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ตามที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ 0015. (บก.น.1) 15 / 7051 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ขอให้ออกประกาศห้ามการชุมนุมรอบรัฐสภาในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร


เนื่องจากในวันที่ 4 ส.ค. 2566 กำหนดให้มีการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี และจะมีการชุมนุมเพื่อเรียกร้องทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ เป็นจำนวนมาก อันส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้น เพื่อประโยชน์แห่งการรักษาความปลอดภัยสาธารณะและความสงบเรียบร้อยของประชาชน รวมถึงเพื่อให้การบริหารการจัดการการชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

อาศัยอำนาจตามมาตรา 7 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ประกอบกับคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 151/2560 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2560 และคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ 196/2566 ลงวันที่ 12 เมษายน 2566 จึงประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบรัฐสภา รายละเอียดกำหนดพื้นที่ห้ามชุมนุมและพื้นที่ชุมนุมรอบรัฐสภา ปรากฏตามเอกสารที่แนบท้าย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2566 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2566 เวลา 24.00 น.

และกำหนดให้พื้นที่ถนน 2 ช่องจราจร ทางเท้า และลานอเนกประสงค์ ภายในศูนย์ราชการเกียกกาย พื้นที่ประมาณ 4,700 ตร.ม. เป็นสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News