เปิดใช้งานระบบการพิสูจน์-ยืนยันตัวตนดิจิทัลผ่านแอปฯ ‘ไทยดี’ (ThaID) อย่างเป็นทางการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า (Face Verification System) โดยใช้งานผ่านแอปพลิเคชันไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันตัวตน โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลให้เสียเวลา ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ของการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลที่มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ รัฐบาลมุ่งมั่นนำพาประเทศไปสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นองค์ประกอบหลักในการเพิ่มศักยภาพการให้บริการประชาชนของหน่วยงานภาครัฐ ให้มีความเป็นเลิศ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่ว ถึงด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย ทำให้ผู้รับบริการทุกคนสามารถเข้าถึงงานบริการภาครัฐได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย
ต่างชาติเที่ยวไทยทะลุ 12 ล้านคน เพิ่มแรงหนุนเศรษฐกิจ มั่นใจยอดปีนี้เข้าเป้า
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาว่าตั้งแต่ต้นปีถึง ณ วันที่ 25 มิ.ย. 2566 นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เดินทางมายังประเทศไทยแล้ว 12.46 ล้านคน เพิ่มขึ้น 539% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประเทศใน 5 ลำดับแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากที่สุด ได้แก่ มาเลเซีย 1.98 ล้านคน จีน 1.38 ล้านคน รัสเซีย 7.84 แสนคน เกาหลีใต้ 7.41 แสนคน และอินเดีย 7.32 แสนคน ตามลำดับ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามและให้การสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการแก้ไขในประเด็นที่อาจยังทำให้เกิดความไม่สะดวกแก่นักท่องเที่ยว อาทิ ในเรื่องของระบบการตรวจลงตรา หรือวีซ่าที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้สะท้อนข้อคิดเห็นให้มีการแก้ไขให้เกิดความรวดเร็วขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้ทราบว่าขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือผลักดันให้ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นไปตามเป้าหมายที่ 25 ล้านคน
คลังไทยยังแข็งแกร่ง 8 เดือนแรกเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 1.22 แสนล้าน
กระทรวงการคลังเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบ 2566 (ต.ค. 2565 – พ.ค. 2566) จัดเก็บรายได้สุทธิได้ถึง 1,643,075 ล้านบาท “สูงกว่าประมาณการ” ตามเอกสารงบประมาณ 122,378 ล้านบาท หรือ 8.0% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.9%
นอกจากนี้ รายงาน “ฐานะการคลัง” ตามระบบกระแสเงินสดช่วง 8 เดือนแรกของปีงบ 66 ยังมีรายได้นำส่งคลัง จำนวน 1,569,515 ล้านบาท การเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 2,221,328 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 384,243 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ เดือน พ.ค. 2566 มีจำนวน 256,857 ล้านบาท
‘ดีขึ้น 5 อันดับ’ ดัชนีความเสมอภาคทางเพศไทย สะท้อนความก้าวหน้าของรัฐบาล
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum: WEF) ได้เปิดเผยรายงานดัชนีความเสมอภาคทางเพศทั่วโลก ประจำปี 2566 (Global Gender Gap Index 2023) เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมาว่า ไทยอยู่ในอันดับที่ 74 จากทั้งหมด 146 ประเทศ โดยอันดับขยับขึ้น 5 อันดับจากอันดับที่ 79 ในปี 2565 ด้วยคะแนน 0.711 คะแนน เพิ่มขึ้น 0.002 คะแนน
หากพิจารณารายมิติในปีนี้ ไทย อยู่ในอันดับที่ 24 มิติความเสมอภาคด้านการมีส่วนร่วมและโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยคะแนน 0.772 อันดับที่ 61 มิติความสำเร็จทางการศึกษา ด้วยคะแนน 0.995 อันดับที่ 42 มิติสุขภาพและการอยู่รอด ด้วยคะแนน 0.977 และอันดับที่ 120 มิติการส่งเสริมศักยภาพทางการเมือง ด้วยคะแนน 0.101
‘กุ้งก้ามกรามบางแพ’ สินค้า GI ลำดับที่ 5 ของ จ.ราชบุรี สร้างรายได้ปีละ 2.6 พันล้าน
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขึ้นทะเบียน “กุ้งก้ามกรามบางแพ” เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ลำดับที่ 5 ของ จ.ราชบุรี เนื่องจากเลี้ยงกันมากใน อ.บางแพ อ.ดำเนินสะดวก และอ.โพธาราม จ.ราชบุรี มีลักษณะพิเศษคือ มีเปลือกสีน้ำเงินมันเงา ก้ามสีน้ำเงินหรือสีครามปนสีทอง เนื้อแน่นเต็มเปลือก เมื่อสุกจะมีรสชาติหวาน มีมันมาก และไม่มีกลิ่นคาว
กุ้งก้ามกรามบางแพ เลี้ยงในพื้นที่ราบลุ่ม ดินเหนียวสีเทาเข้มถึงสีดำที่มีเนื้อละเอียด เกิดจากการทับถมของตะกอนน้ำจืด น้ำทะเล และน้ำกร่อย ทำให้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุและจุลินทรีย์ เหมาะแก่การเลี้ยงกุ้ง ปัจจุบัน มีเกษตรกรเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพ กว่า 1,122 ราย สร้างรายได้เฉลี่ยกว่า 2,569 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ สินค้า GI ของจ.ราชบุรี ที่ขึ้นทะเบียนก่อนหน้านี้ 4 รายการ ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี สับปะรดบ้านคา โอ่งมังกรราชบุรี และไชโป้วโพธาราม
