ฮ่องกงแจกตั๋วบินฟรี 5 แสนใบ ดึงนักท่องเที่ยวเอเชีย
จอห์น ลี หัวหน้าผู้บริหารฮ่องกง เผยแคมเปญจัดหนัก ที่รวมถึงการแจกตั๋วเครื่องบิน 5 แสนใบให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ มีเป้าหมายที่การดึงนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และนักลงทุน ให้กลับเข้าไปยังศูนย์กลางการเงินอย่างฮ่องกง หลังจากเผชิญมาตรการคุมเข้มในช่วงโควิดเป็นเวลากว่า 3 ปี
แคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า “Hello Hong Kong” และเปิดตัวขึ้นในย่านใจกลางเมือง พร้อมแขวนป้ายโฆษณาเชิญชวนหลากหลายภาษา รวมถึงภาษารัสเซียและสเปน ผู้นำฮ่องกงระบุว่า แคมเปญนี้มีเป้าหมายที่การกระตุ้นธุรกิจและการลงทุน โดยจะแสดงให้เห็นว่าฮ่องกงเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว
สำหรับการแจกตั๋วเครื่องบิน 5 แสนใบนั้น จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 มีนาคม โดยแจกผ่านบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวและสำนักงานในต่างแดนของสายการบินฮ่องกง ส่วนใหญ่เป็นการแจกผ่านสายการบินคาเธย์แปซิฟิก ฮ่องกงเอกซ์เพรสส์ และฮ่องกงแอร์ไลนส์ เน้นที่นักท่องเที่ยวจากเอเชียอาคเนย์ก่อนในตอนแรก จากนั้นจึงขยายไปแจกนักท่องเที่ยวในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งยังจะมีการแจกตั๋วอีก 8 หมื่นใบให้แก่ชาวฮ่องกงด้วย
นอกจากนั้น ยังจะมีการแจก voucher ประมาณ 1 ล้านใบให้แก่นักท่องเที่ยวเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดในการจับจ่ายสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม ยานพาหนะ หรือเข้าชมสถานที่ต่างๆ
คาดว่าการแจกตั๋วครั้งนี้ จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 1.5 ล้านคน
ฮ่องกงยังจะมีการจัดอีเวนต์มากกว่า 250 อีเวนต์ในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดนตรี เทศกาลศิลปะ หรือการแข่งขันรักบี้
แคมเปญทั้งหลายมีขึ้นหลังจากฮ่องกงปิดเกาะแทบจะตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อสกัดกั้นการระบาดของโควิด 19 จนกระทั่งกลางปีที่แล้วจึงเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แต่ยังมีระบบโควตาสำหรับนักเดินทางระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง รวมถึงมีข้อกำหนดว่าต้องตรวจคัดกรองโควิด
ขณะที่จีนก็ประกาศเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ว่าจะยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิด และเปิดพรมแดนกับโลกภายนอกในเดือนมกราคมปีนี้
รถยนต์ไฟฟ้าหนุนฮุนไดทำกำไรกว่า 2 เท่า
บริษัทฮุนไดแห่งเกาหลีใต้ รายงานกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วงไตรมาส 4 ผลจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดโลกมากขึ้น
กำไรจากการดำเนินงานของฮุนได พุ่งขึ้น 119.6% ไปอยู่ที่ 3.4 ล้านล้านวอนในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมปีที่แล้วเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 24.2% ไปอยู่ที่ 38.5 ล้านล้านวอน
ขณะเดียวกัน กำไรสุทธิของบริษัททะยานขึ้น 143.8% ไปอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านวอน
เมื่อเทียบรายไตรมาส กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 116.5% ส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 2.2%
ผลประกอบการของฮุนไดนับว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ และเป็นผลจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้นของบริษัท ประกอบกับมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ในตลาดสำคัญๆ อย่างสหรัฐและยุโรป โดยฮุนไดตั้งเป้าผลักดันยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก รวมถึงในตลาดเกาหลีใต้เอง ให้เพิ่มขึ้น 6 เท่า เป็น 840,000 คันในปี 2569 จาก 140,000 คันเมื่อปี 2564
อีซีบี-ธนาคารกลางอังกฤษขึ้นดอกเบี้ย
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามการคาดหมาย อันทำให้ดอกเบี้ยขึ้นไปอยู่ที่ 2.5% พร้อมส่งสัญญานปรับขึ้นอีกในเดือนมีนาคม ด้วยการระบุว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องและตั้งใจจะปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือนมีนาคม
การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังการปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งเมื่อปี 2565 อันทำให้อัตราดอกเบี้ยของยูโรโซนขึ้นมาจากแดนลบเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2557
อีซีบีระบุว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะช่วยตรึงราคาสินค้าเพราะทำให้ความต้องการน้อยลง ส่วนการตัดสินใจในการประชุมครั้งต่อๆ ไปจะขึ้นอยู่กับตัวเลขข้อมูลทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดมองว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกไม่มากนัก
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันเมื่อเดือนมกราคม คริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี แถลงว่าแรงกดดันในส่วนราคาสินค้ายังมีอยู่มาก ส่วนหนึ่งเพราะต้นทุนพลังงานที่อยู่ในระดับสูง สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจยูโรโซนนั้น การเติบโตชะลอตัวอยู่ที่ 0.1% เมื่อช่วงไตรมาส 4 และคาดว่าจะยังซบเซาในระยะสั้น สืบเนื่องจากถูกฉุดรั้งจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเงื่อนไขทางการเงินที่เข้มงวดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะสมดุลมากขึ้น พิจารณาจากการจัดหาก๊าซที่มั่นคงมากขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้น ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น และราคาพลังงานที่ลดลง
โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่คาดไว้ และน่าจะกระเตื้องขึ้นในไตรมาสต่อๆ ไป
ขณะเดียวกัน ธนาคารอังกฤษก็ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน จาก 3.5% เป็น 4% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 14 ปี หวังกำราบเงินเฟ้อ
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเป็นที่ยินดีสำหรับผู้ฝากเงิน แต่ส่งผลกระทบไปถึงผู้ที่ต้องผ่อนบ้าน ชำระหนี้บัตรเครดิต และเงินกู้ธนาคาร
ธนาคารกลางอังกฤษระบุว่าอังกฤษมีแนวโน้มจะตกสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ แต่น่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เพราะราคาพลังงานกำลังลดลงและการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าชะลอตัวลง
ตัวเลขคนงานสหรัฐถูกลอยแพ พุ่งเดือนมกราคม
รายงานจากบริษัทจ้างงาน Challenger, Gray & Christmas Inc. ระบุว่าตัวเลขการลอยแพคนงานในสหรัฐช่วงเดือนมกราคม อยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง ผลจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยีปรับลดคนงานลงอย่างมากเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ เพื่อรับมือสภาพการณ์ที่อาจเกิดภาวะถดถอย
มีคนงาน 102,943 คนได้รับผลกระทบจากการลอยแพ ซึ่งมากกว่าช่วงเดือนธันวาคมกว่า 2 เท่า และมากกว่าช่วงเดือนมกราคมปีที่แล้ว 5 เท่า โดยบริษัทอย่าง Microsoft, Amazon.com ไปจนถึง Goldman Sachs Group พากันปรับลดงานหลายพันตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อรับมือกับความต้องการที่ลดลง อันเป็นผลมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ลดลง สืบเนื่องจากเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ประกอบอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงานแสดงความเห็นว่า บริษัทต่างๆ กำลังเตรียมตัวรับมือกับสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวลง ด้วยการลดจำนวนคนงาน และชะลอการจ้างงาน โดยเฉพาะในภาคไฮเทคที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากในช่วงเกิดโรคระบาด และได้มีการลอยแพคนงานไป 41,829 คนเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาอุตสาหกรรมต่างๆ ตามมาด้วยภาคค้าปลีกที่ลอยแพคนงานไป 13,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่แทบไม่มีการลอยแพคนงานเลย ส่วนบริษัทการเงินลดงานไป 10,603 ตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม
นักวิเคราะห์มองว่า บริษัทที่จ้างพนักงานเพิ่มในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มจะลดคนงานลง เพื่อรับมือสภาพเศรษฐกิจที่ส่อเค้าว่าอาจไม่ดีนัก