Fitbit มอง “การนอนอย่างมีประสิทธิภาพ” ส่งผลต่อสุขภาพ เชื่อ Fitbit Premium ไม่ได้ทำให้โค้ชตามฟิตเนสตกงาน
นายหลุยส์ ลายย์ ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Fitbit ระบุว่า ปัจจุบัน Fitbit ไม่ใช่บริษัทที่ทำนาฬิกาอัจฉริยะหรือฮาร์ดแวร์สำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพ แต่บริษัทวางตำแหน่งของตัวเองเป็น บริษัทที่ให้บริการข้อมูลดิจิทัลทางด้านสุขภาพ (Digital Helth Company) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถที่จะมีสุขภาพที่ดีได้ โดยภายหลังจากที่ออกรายการอัจฉริยะรุ่นใหม่พร้อมกับบริการที่ให้คำแนะนำทางด้านสุขภาพภายใต้ชื่อ Fitbit Premium ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะได้รับคำแนะนำจากโค้ชส่วนตัวที่ดูแลผ่านทางระบบดิจิทัล ซึ่งเป็นคนจริงที่ให้คำแนะนำ ขณะที่ส่วนตัวมองว่าการมีโค้ดในรูปแบบดิจิทัลแบบนี้ จะเจาะกลุ่มในส่วนของผู้ที่ไม่ได้เข้าไปใช้บริการฟิตเนส และไม่ได้ไปทดแทนโค้ชที่เป็นคนในฟิสเนส อย่างไรก็ตามนาฬิกาอัจฉริยะของ Fitbit ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ดังนั้นจึงไม่ต้องขอใบอนุญาตจากภาครัฐของไทย
อ่าน : เช็คสเปคนาฬิกาอัจฉริยะ “Fitbit Versa 2”
ขณะเดียวกันภาพรวมของตลาดนาฬิกาอัจฉริยะทั่วโลก ถือว่าเป็นช่วงขาขึ้นเนื่องจากพฤติกรรมการใช้ที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคทำให้การรักษาสุขภาพเป็นหนึ่งในเรื่องที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ โดยปัจจุบันตลาดนาฬิกาอัจฉริยะในภูมิภาคอาเซียนมีประเทศไทยเป็น 1 ใน 3 ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ปัจจัยมาจากพฤติกรรมของคนไทยที่ชื่นชอบการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆและเนื่องจากคนไทยมีความรู้ในการอ่านภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีจึงทำให้ตลาดของ Fitbit เติบโต โดยภายในช่วงกลางปี 2563 จะมีการแปลเนื้อหาต่างๆที่อยู่ในแพลตฟอร์มของฟิตบิทเป็นภาษาไทยเพื่อให้รองรับกับผู้บริโภคภายในประเทศมากยิ่งขึ้น
“สิ่งหนึ่งที่ Fitbit ให้ความสำคัญและพูดถึงมาโดยตลอดนั่นก็คือการนอน ซึ่งการนอนที่มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่ต้องทำให้ทุกฝ่ายตื่นตัวเกี่ยวกับการนอนให้มากยิ่งขึ้น จากข้อมูลที่บริษัทสามารถบันทึกไว้ได้และจากข้อมูลการวิจัยพบว่าการนอนที่มีประสิทธิภาพสามารถทำให้สุขภาพดีได้ ซึ่งในประเทศสิงคโปร์มีนโยบายในการสนับสนุนให้ประชาชนใช้นาฬิกาอัจฉริยะเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆแล้วนำมาวิเคราะห์เป็นนโยบายในการสร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชน แต่ในประเทศไทยเนื่องจากนโยบายต่างๆที่แตกต่างกันทำให้ ยังไม่สามารถสนับสนุนนโยบายได้แบบประเทศสิงคโปร์อย่างไรก็ตามทางบริษัทพร้อมที่จะเปิดรับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานเพราะหากมีจำนวนข้อมูลที่มากเพียงพอก็จะทำให้การคำนวณข้อมูลทางด้านสุขภาพแม่นยำมากยิ่งขึ้น” นายหลุยส์ ลายย์
อ่าน : การนอนสำคัญต่อสุขภาพอย่างไร ?
สิ่งที่ Fitbit มุ่งเน้นในการเก็บข้อมูลเพื่อที่จะทำให้เกิดการวิเคราะห์และสร้างวิธีการที่ทำให้ผู้ใช้มีสุขภาพที่ดีบริษัทไม่ได้ต้องการที่จะมีดีไซน์ที่สวยเพียงอย่างเดียวแต่ต้องการให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ส่วนตัวมองว่าสิ่งหนึ่งที่นาฬิกาอัจฉริยะแบรนด์อื่นไม่สามารถทำได้นั่นก็คือความยาวนานในการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งในแบรนด์อื่นๆผู้คนจำเป็นต้องถอดนาฬิกาออกเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ในเวลานอน ซึ่งทำให้ไม่สามารถวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจและ อัตราอื่นๆได้ ดังนั้นส่วนตัวมองว่าผู้ใช้สามารถที่จะรอให้แบตเตอรี่ลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 20 แล้วจึงถอดชาร์ทหรือจะรอให้แบตเตอรี่หมดแล้วจึงค่อยชาร์จก็ได้ โดยเวลาที่แนะนำสำหรับการชาร์จนาฬิกาอัจฉริยะของ Fitbit นั่นคือช่วงเวลาที่ผู้ใช้ทำงานอยู่ที่ออฟฟิศหรือไม่ได้ขยับตัวมากอย่างเช่นในการเดินทางหรือออกกำลังกาย
