“ไม่น่าเชื่อ ว่าตลาดบ้านเดี่ยวที่มีราคาสูงถึงมูลค่า 20 ล้านบาทขึ้นไปนั้น ยังคงการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่าตลาดที่มั่นคง คงทน แน่นอน และมีกำลังซื้อสูง คือบ้านเดี่ยวราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรอบล่าสุด ครึ่งแรกของปี 2562 ขายได้แล้ว 257 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.5% ของทั้งตลาดที่ขายได้ 50,680 หน่วย แต่มีมูลค่ารวมกันถึง 9,395 ล้านบาท หรือ 4.7% ของมูลค่าการขายทั้งหมดที่ 199,358 ล้านบาท ส่วนบ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปนี้ มีราคาเฉลี่ยเป็นเงิน 36.556 ล้านบาทต่อหน่วย
เอสซี แอสเซท ครองแชมป์ตลาดบ้านเดี่ยว 20 ล้านบาทขึ้นไป
บมจ.เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น ขายได้สูงสุด 2,403 ล้านบาท จากจำนวนทั้งหมด 73 หน่วย โดยมีราคาเฉลี่ย 32.918 ล้านบาทต่อหน่วย อันดับสองก็คือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ ขายได้ 28 หน่วย มีมูลค่ารวม 1,086 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 38.786 ล้านบาท ส่วนอันดับที่ 3 ก็คือ บมจ.แสนสิริ 910 ล้านบาท จำนวน 14 หน่วย แต่ราคาเฉลี่ยสูงถึงหน่วยละ 64.975 ล้านบาท สำหรับที่ขายในราคาเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ บมจ.สิงห์เอสเตท ขายหลังละ 260 ล้านบาทเลยทีเดียว รองลงมาคือ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ ขายหลังละ 96.435 ล้านบาท

ในตลาดบ้านเดี่ยวระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไปนี้ 10 บริษัทแรก ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 71% คือ รวมมูลค่า 6,624 ล้านบาท จากทั้งหมด 9,395 ล้านบาท ในด้านจำนวนหน่วย โดยสัดส่วนของ 10 บริษัทแรก มีสัดส่วนสูงถึง 70% เช่นกัน คือ 10 บริษัทแรก ขายได้ 178 หน่วย จากทั้งหมด 257 หน่วยนั่นเอง อาจกล่าวได้ว่าอีกประมาณ 30% ของสินค้า เป็นของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์เป็นสำคัญ

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 มีการเปิดตัวบ้านเดี่ยวราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 190 หน่วย แสดงให้เห็นว่ายอดการเปิดตัวนี้ยังต่ำกว่าจำนวนที่ขายได้ 257 หน่วยเสียอีก ตลาดบ้านระดับราคานี้จึงเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก แต่มักจะเป็นตลาดของบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ ส่วนบริษัทขนาดเล็กหรือบริษัทที่เพิ่งเริ่มเปิดดำเนินการ คงไม่สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยในระดับราคานี้ได้ เพราะต้องการความเชื่อถือจากประชาชน

และหากนับรวมบ้านเดี่ยวในราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป (รวม 20 ล้านบาทขึ้นไปด้วยนั้น) จะพบว่าในครึ่งปีแรกสามารถขายได้ถึง 21,612 ล้านบาท รวม 1,124 หน่วย เฉลี่ยหน่วยละ 19.228 ล้านบาท หรือเกือบ 20 ล้านบาท สัดส่วนของบ้านเดี่ยว 10 ล้านบาทขึ้นไปเมื่อเทียบกับทั้งตลาด อยู่ที่ 10.8% ในแง่มูลค่า แต่มีจำนวนเพียง 2.2% ในแง่จำนวนหน่วยนั่นเอง