หากมองในมิติของความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ ที่เป็นผู้บุกเบิก ริเริ่มและ introduce สิ่งใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มบริษัทเอสบี เฟอร์นิเจอร์ ก็เรียกได้ว่าเป็นผู้สร้าง Milestone ให้กับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ตลอดระยะเวลา 50 ปี ของการดำเนินธุรกิจ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2510
ไม่ว่าจะเป็น
2516 จัดทำแคทตาล็อคเฟอร์นิเจอร์เล่มแรกในไทย
2525 เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์รายแรกที่จัดแสดงสินค้าในรูปแบบ Model Room ในห้างสรรพสินค้า (เซ็นทรัลลาดพร้าว)
2544 ปฏิวัติวงการ ด้วยการส่ง Zelection Built-in เฟอร์นิเจอร์บิลท์อินสไตล์โมเดิร์นอิตาเลียนสู่ตลาด ซึ่งสร้างกระแสฮือฮาและได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักวิชาชีพ (สถาปนิกและอินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์) และลูกค้ากลุ่มที่เป็น End User
2546 ปฏิวัติการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ด้วยการเปลี่ยนไม้ทั้งโรงงาน เป็น “ไม้ E1” ซึ่งเป็นไม้ที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้ไม้ E1 ในทุกชิ้นส่วน ทุกผลิตภัณฑ์
2549 ริเริ่มบริการ Pro Designer ออกแบบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 3 มิติ เป็นรายแรกในไทย เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพเสมือนจริงของการออกแบบตกแต่งก่อนการตัดสินใจซื้อ
2550 บุกเบิกบริการใหม่ อย่าง SB Interior@Home บริการอินทีเรียร์ช่วยออกแบบ ส่งตรงถึงบ้านรายแรกในไทย
2554 เบิด SB Design Square สาขาบางนา กม.4 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Design Phenomenon หรือปรากฏการดีไซน์ ที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ไว้ในที่เดียว เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และรสนิยมการแต่งบ้านที่หลากหลายของลูกค้า
2558 เปิด SB Design Square สาขา The Crystal SB Ratchapruek ให้เป็นศูนย์รวมการแต่งบ้านสุดครบวงจรที่มีทั้งความหลากหลายของสไตล์สินค้า และยังรวบรวมเอาสินค้าแต่งบ้านต่าง ๆ เช่น ผ้าม่าน วอลเปเปล์ ที่นอน ชุดเครื่องนอน เฟอร์นิเจอร์เอ้าท์ดอร์ เฟอร์นิเจอร์เด็ก และเครื่องใช้ไฟฟ้า มารวมไว้ในทีเดียว เพื่อให้ลูกค้าได้แต่งบ้านแบบ สวย ครบ จบในที่เดียว
ล่าสุด 2562 ได้เปิด SB Design Square สาขา CDC โฉมใหม่ พร้อมเปิดตัว Zelection Built-in มาปฏิวัติวงการเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน
ธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ปี 2562 อาจจะไม่สวยหรูนัก เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯ แต่กลุ่มลูกค้าตลาดระดับบนของที่อยู่อาศัยแนวราบนับว่ายังพอไปได้ ดังนั้น การเปิดตัว “Zelection Built-in” ครั้งนี้ จึงเน้นเจาะลูกค้ากลุ่มนี้เป็นหลัก และเพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าของเรามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้ผนึก 2 แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำจากฝั่งยุโรปและอเมริการ อย่าง “Laura Ashley” และ “Universal” มาร่วมเปิดที่สาขา CDC แห่งนี้ด้วย
โดยบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท ขยายพื้นที่เพิ่มจากเดิมเป็น 15,000 ตารางเมตร พร้อมปรับโฉมใหม่ให้เป็น Flagship Store แบบครบวงจรตั้งเป้าในการเพิ่มยอดขายคิดเป็น 20% ต่อปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The New Era of Luxe Design Home Decorations” ถือได้ว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญที่จะช่วยสร้างความแตกต่างให้แบรนด์ในตลาดเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างแท้จริง และนับเป็น “ครั้งแรกในไทย” กับการนำเอากระบวนการแบบ PREFAB มาใช้ในการทำบิลท์อิน เริ่มตั้งแต่ Design Automation ซอฟต์แวร์สุดล้ำจากเยอรมัน ซึ่งเป็นตัวเชื่อมระหว่างการออกแบบและกระบวนการผลิต ให้ทุกออเดอร์ดีไซน์จากหน้าโชว์รูมพุ่งตรงสู่โรงงานผลิต ลด Human Error ช่วยให้ลูกค้าได้ชิ้นงานที่ถูกต้องแม่นยำได้มาตรฐานในเวลาอันรวดเร็ว แล้วยกชิ้นงานที่ได้จากโรงงานนำมาติดตั้ง ซึ่งสามารถลดเวลาการติดตั้งลงได้กว่าเวลาปกติกว่า 50% ซึ่งในการติดตั้งนี้มีจุดเด่นตรงที่สามารถเดินงานสายไฟภายในโครงสร้างผนังได้
โซนเอเชียประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีรสนิยมทางด้านดีไซน์ที่ดีเพราะเราเป็นประเทศที่เปิดรับกับวัฒนธรรมและเทคโนโลยีต่างๆได้รวดเร็ว หากสังเกตแนวเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยจะเป็นแนวโมเดิร์น ในขณะเดียวกันก็เริ่มมีลักษณะดีไซน์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายขึ้น ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ควรมีทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าทั้ง สินค้าที่มีดีไซน์หลากหลายและราคาที่แตกต่างในหลายระดับด้วย
ขณะเดียวกันมองว่าการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบันต้องเริ่มต้นจากการที่ผู้ประกอบการมองจุดยืนในแบรนด์ของตนเองอย่างไร สำหรับ SB design square มองว่าจะมุ่งตอบโจทย์อย่างไรให้บ้านลูกค้าสวยครบจบในทีเดียว ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ในเรื่องงานเฟอร์นิเจอร์อย่างเดียวอีกต่อไป แต่ทางเราอยากจะตอบโจทย์การออกแบบตกแต่งภายในให้กับลูกค้าด้วย เพราะเสียงตอบรับที่ได้จากลูกค้าหลายๆ ท่านเมื่อมาซื้อเฟอร์นิเจอร์ครบในที่เดียว มีทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์จึงเป็นแรงผลักดันว่าทิศทางในการทำงานของเรามาถูกทาง นับได้ว่า วันนี้แบรนด์ SB ได้ก้าวข้ามความเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ไปสู่โลกของ “งาน ตกแต่งภายใน” อย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับแผนการลงทุนในอนาคตที่ต่อเนื่องมาจากสองปีที่แล้ว คือ การขยายสาขาที่พระราม 2 มีพื้นที่ประมาณ 17,000 ตารางเมตร ซึ่งจะพร้อมเปิดให้บริการในสิ้นปีนี้
ปัจจุบัน เอสบี เฟอร์นิเจอร์ มี 99 สาขา และ ตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 ร้านทั่วประเทศอีกด้วย
