“เอ็กซอน” โกยกำไรกว่าล้านล้านบาท
บริษัท เอ็กซอนโมบิล รายงานกำไรสุทธิ 56,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,792,000 ล้านบาท ในปี 2565 หรือเท่ากับมีกำไรชั่วโมงละ 6.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นกำไรที่มากสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับเอ็กซอนโมบิล และมากสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันในซีกโลกตะวันตกด้วย
คาดว่าบรรดาบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ในตะวันตก จะรายงานผลกำไรที่ทำลายสถิติ สืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงและความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่ากำไรของบริษัททั้งหลายรวมกัน น่าจะเฉียด 200,000 ล้านดอลลาร์
สำหรับตัวเลขผลกำไรของบริษัทเอ็กซอนเมื่อปีที่แล้ว แซงหน้ากำไรสุทธิเมื่อปี 2551 ซึ่งเคยสร้างสถิติไว้ที่ 45,200 ล้านดอลลาร์ในช่วงที่ราคาน้ำมันขึ้นไปแตะบาร์เรลละ 142 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ยเมื่อปีที่แล้ว 30% ทั้งนี้ ปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนนำให้บริษัททำกำไรได้มากเป็นประวัติการณ์ ก็เป็นผลมาจากการตัดลดต้นทุนต่างๆ ลงอย่างมากในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด 19 นั่นเอง
หากให้นับรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว กำไรสำหรับปีที่แล้ว อยู่ที่ 59,100 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การผลิตน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 100,000 บาร์เรล เป็น 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
“ซัมซุง” เดินหน้าลงทุนชิป แม้กำไรต่ำสุดรอบ 8 ปี
อีกบริษัทหนึ่งที่รายงานผลประกอบการล่าสุด คือซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ แห่งเกาหลีใต้ ที่ส่งสัญญานว่าไม่มีแผนลดการลงทุนด้านชิปในปีนี้ แม้เจอพิษสภาพเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาจนทำให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์พากันปรับลดการใช้จ่ายและการผลิต แต่ไม่ใช่สำหรับซัมซุง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเมมโมรีชิป รายใหญ่ที่สุดในโลก
ซัมซุงรายงานกำไรจากการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ที่ 4.3 ล้านล้านวอน นับเป็นกำไรรายไตรมาสที่น้อยที่สุดในรอบ 8 ปี ขณะที่รายได้ลดลง 8% ไปอยู่ที่ 70.5 ล้านล้านวอน บริษัทระบุว่าความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจมหภาคจะยังดำเนินอยู่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่คาดว่าความต้องการจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยความต้องการที่ค่อนข้างซบเซาจะยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจชิปในไตรมาสแรก
ในส่วนความต้องการสมาร์ทโฟนนั้น มีแนวโน้มจะลดลงเมื่อเทียบปีต่อปี สืบเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในหลายภูมิภาคหลักของโลก โดยซัมซุงระบุว่ายอดขายสมาร์ทโฟนในระดับราคาต่ำและราคาปานกลาง ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ อันทำให้กำไรช่วงไตรมาส 4 ลดลงเหลือ 1.7 ล้านล้านวอน จาก 2.66 ล้านล้านวอนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น
ขณะที่ราคาเมมโมรี่ชิปที่ลดลงไปมากเมื่อปีที่แล้ว ทำให้กำไรในธุรกิจชิปของซัมซุงลดลงเหลือประมาณ 270,000 ล้านวอนเมื่อไตรมาส 4 จาก 8.83 ล้านล้านวอนเมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น
ก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตชิปอีกรายอย่างบริษัทอินเทล ก็คาดหมายว่าไตรมาสปัจจุบันอาจทำได้ไม่ดีนัก เนื่องจากเผชิญสภาพชิปที่ล้นตลาดในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม แทนที่จะลดการลงทุนเพื่อรับมือกับความต้องการที่ชะลอตัวลง ซัมซุงส่งสัญญานว่าจะทำการซ่อมบำรุงสายการผลิต ปรับในส่วนของอุปกรณ์ และปรับปรุงการผลิตชิปให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งยังจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในด้านวิจัยและพัฒนา ซึ่งนักวิเคราะห์ก็แสดงความเห็นว่าซัมซุงอาจมองว่าช่วงนี้แหละ เป็นโอกาสดีที่จะหาส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม ซึ่งจะเป็นผลดีแก่บริษัทในระยะยาว โดยซัมซุงระบุว่าการลงทุนด้านทุนในปีนี้จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แตกต่างจากบริษัท SK Hynix และ Micron Technology ที่บอกว่าจะปรับลดการลงทุน
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลกต้องรับมือกับสภาพความต้องการที่ชะลอตัวลงตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เพราะบริษัทต่างๆ พากับปรับลดการใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์และบริการด้านไฮเทค ขณะที่ผู้บริโภคก็ลดการใช้จ่ายในส่วนของสินค้าที่ค่อนข้างฟุ่มเฟือย ท่ามกลางสภาพเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
เศรษฐกิจจีนกลับมาคึกคักช่วงต้นปี
กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน กลับมาคึกตักในช่วงเดือนมกราคมปีนี้ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานตัวเลขดัชนีพีเอ็มไอ ซึ่งเป็นเครื่องวัดกิจกรรมภาคการผลิต ว่าเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 50.1 จากเมื่อเดือนธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.0 ส่วนกิจกรรมนอกภาคการผลิต อย่างภาคบริการ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และจัดเลี้ยง เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 54.4 จาก 41.6 แตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่ดัชนีทั้งภาคการผลิตและนอกภาคการผลิตสะท้อนว่าเศรษฐกิจหดตัวมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
รายงานของสถาบันสถิติแห่งชาติดังกล่าว ถือเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจชุดแรกๆ ที่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจนับจากจีนยกเลิกมาตรการ zero-COVID และหลังจากเพิ่งผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีน โดยหัวหน้านักระบาดวิทยาของจีนระบุว่าคน 80% ในจีนเคยติดเชื้อโควิด 19 ไปแล้วก่อนหน้าเทศกาลสำคัญๆ
สำหรับเทศกาลตรุษจีนปีนี้ การบริโภคเพิ่มขึ้น 12.2% จากช่วงตรุษจีนเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่การเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลพุ่งขึ้นถึง 74% เพราะผู้คนแห่กันออกมาเฉลิมฉลอง เนื่องจากเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ฉลองได้อย่างไม่มีมาตรการจำกัดในเรื่องของโควิด
มีรายงานว่าโรงงานต่างๆ ในจีนพยายามดึงคนงานให้ทำงานในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่เสียไปเมื่อปีที่แล้วในช่วงที่เกิดโรคระบาด โดยบางโรงงานเสนอโบนัสให้คนงานกลับมาทำงานเร็วขึ้นช่วงตรุษจีน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนก็เพิ่งประกาศไปว่าจะส่งเสริมการบริโภคให้ฟื้นตัว เพราะการบริโภคเป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ